เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน นิยาย บท 394

ตอนที่ 394 ชี้แนะบรรพจารย์นิกายกระบี่สวรรค์

“เช่นนั้นต้องรบกวนด้วยเจ้าค่ะ”

หนิงซู่ซู่นิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยออกมา

ต้องยอมรับว่านางคาดมิถึงจริง ๆ

ว่าเย่ฉางชิงจะตอบรับเร็วขนาดนี้

แต่จะว่าไปก็ถูกต้องแล้ว เพราะอีกฝ่ายแม้จะมีความแตกฉานในวิถีดนตรีที่สูงส่ง ทว่าเยี่ยงไรเสียตอนนี้เขาก็ผนึกตบะบารมีและความทรงจำเอาไว้อยู่

หากมิใช่เช่นนั้น เกรงว่ามิทันที่นางจะได้ขออนุญาตอีกฝ่าย

เพียงแค่นางเข้ามาพบโดยมิได้รับอนุญาต ก็อาจทำให้อีกฝ่ายมิพอใจได้แล้ว หรืออาจจะถูกลงโทษก็เป็นได้

เมื่อนึกถึงตรงนี้ หนิงซู่ซู่ก็อดที่นึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของขงซิงเจี้ยนขึ้นมามิได้

คนผู้นี้หากได้บำเพ็ญเพียรที่นิกายกระบี่สวรรค์ สำหรับนิกายกระบี่สวรรค์แล้ว นี่อาจจะเป็นโอกาสและวาสนาอันยิ่งใหญ่ก็เป็นได้ !

ก่อนหน้านี้ขงซิงเจี้ยนเองก็ยังได้รับภาพอักษรพู่กัน ที่ผสานวิถีกระบี่อันไร้เทียมทานมา

บัดนี้แค่นางมาขอพบ อีกฝ่ายก็ตอบรับว่าจะช่วยชี้แนะวิถีดนตรีให้นาง โดยมิลังเลแม้แต่น้อย

เพียงแค่นี้ก็รู้แล้วว่าแท้จริงแล้ว สิ่งนี้ถือเป็นโอกาสและวาสนาเช่นไร !

จากนั้นเย่ฉางชิงก็เดินนำทั้งสองคนไปยังศาลาที่อยู่ใจกลางเรือนหลังนี้

ส่วนชวี่เหวินเซี่ยเองก็รู้สึกกระตือรือร้นด้วยเช่นกัน

แม้นางจะมิรู้ว่าสตรีผู้งดงามที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นนี้ แท้จริงแล้วเป็นผู้ใดกันแน่ แต่นางมั่นใจว่าอีกฝ่ายจะต้องมีตบะบารมีที่สูงกว่านางอย่างแน่นอน

โดยเฉพาะลักษณะท่าทางที่สูงส่งของอีกฝ่าย

แม้ว่าหลังจากเข้ามาในเรือนแล้ว นางจะมีท่าทีอ่อนโยนนุ่มนวล แต่กลับรู้สึกกดดันอย่างมาก

ยิ่งไปกว่านั้นนางยังตั้งใจมาที่นี่เพื่อขอคำชี้แนะเกี่ยวกับปัญหาในวิถีดนตรีจากเย่ฉางชิงอีกด้วย

เห็นได้ชัดว่าตำแหน่งในนิกายกระบี่สวรรค์ของสตรีผู้เลอโฉมนางนี้ จะต้องสูงส่งอย่างแน่นอน

บางทีอาจจะเป็นผู้อาวุโสที่นางเคยเอ่ยเอาไว้ก่อนหน้านี้ก็เป็นได้

หรืออาจจะเป็นศิษย์ที่มีพรสวรรค์อันสูงส่งก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน

แต่สำหรับนางที่เพิ่งจะเริ่มรู้แจ้งในวิถีแห่งดนตรีแล้ว

ทุกการกระทำและคำพูดของเย่ฉางชิงและสตรีผู้นี้ ล้วนมีประโยชน์ต่อการบำเพ็ญเพียรในภายหน้าของนางทั้งสิ้น

หลังจากนิ่งเงียบอยู่สักพัก ชวี่เหวินเซี่ยก็รีบเดินตามไป ด้วยใบหน้าที่แฝงรอยยิ้มยินดีเอาไว้

มินานพวกเย่ฉางชิงก็เดินมาถึงยังศาลา

“แม่นางในเมื่อท่านมาเพื่อขอคำชี้แนะ เช่นนั้นเรื่องพื้นฐานด้านดนตรี พวกเราสามารถข้ามไปได้เลยใช่หรือไม่”

จากนั้นเย่ฉางชิงยิ้มออกมาอย่างสุภาพ พร้อมกับเอ่ยว่า “เช่นนี้ก็แล้วกัน ท่านลองดีดเพลงสักเพลงให้ข้าฟังหน่อยสิ ว่าท่านยังมีจุดอ่อนด้านใดอีกบ้าง”

‘มีจุดอ่อน ? ’

ได้ยินเช่นนั้น หนิงซู่ซู่ก็นิ่งตะลึงงันไปทันที

นับตั้งแต่นางประสบความสำเร็จในวิถีดนตรี ตอนนี้ก็ผ่านมาหลายร้อยปีแล้ว

ทว่านี่ถือเป็นครั้งแรกที่นางได้ยินคำกล่าวเช่นนี้

แต่เมื่อนางมองไปยังเย่ฉางชิงอีกครั้ง ความตื่นตระหนกภายในใจก็พลันสงบลงภายในพริบตา

หนิงซู่ซู่พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะเพ่งสมาธิแล้วหยิบพิณโบราณ ที่มีรูปลักษณ์สะดุดตาตัวหนึ่ง ออกมาจากแหวนเก็บสมบติ

ทันใดนั้นสายพิณก็เปล่งแสงลึกลับออกมา ทั้งยังแผ่ไอเย็นยะเยือกอันน่าสะพรึงกลัวออกมา ตัวสายดูเหมือนว่าจะทำมาจากเส้นไหมเหมันต์ที่หาได้ยาก

ส่วนตัวพิณและพวกแท่นค้ำสายพิณนั้น ทำมาจากวัสดุเซียนโบราณ ทั่วทั้งตัวยังมีแสงหลากสีจาง ๆ ไหลเวียนอยู่อีกด้วย

ส่วนตัวพิณยังได้สลักคำว่า วชิระวสันต์ ซึ่งเป็นตัวอักษรโบราณที่แผ่ความน่าเกรงขามออกมาด้วย

เมื่อเห็นภาพตรงหน้า เย่ฉางชิงก็ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที อดมิได้ที่จะลอบพิจารณารูปลักษณ์ของพิณโบราณตัวนี้

ส่วนชวี่เหวินเซี่ยกลับมีสีหน้าเปลี่ยนไป จิตใจเกิดสั่นไหวอย่างรุนแรง

ไอพลังน่ากลัวเช่นนี้ มิใช่อาวุธเทพแล้วจะเป็นอันใดได้อีก

เช่นนี้ก็หมายความว่าสตรีผู้เลอโฉมนางนี้ จะต้องมีฐานะที่มิธรรมดาอย่างแน่นอน !

ใช่แล้ว !

เรื่องราวที่นางเคยได้ฟังมาก่อนหน้านี้

มีเพียงท่านบรรพจารย์ที่บำเพ็ญเพียรวิถีดนตรีของนิกายกระบี่สวรรค์ท่านนั้น ถึงจะมีอาวุธเทพได้ ซึ่งนี่ก็เป็นพิณโบราณด้วยเช่นกัน

ตอนนั้นเองหนิงซู่ซู่เหมือนจะมองออกว่าชวี่เหวินเซี่ยกำลังคิดอันใดอยู่ คิ้วเรียวยาวของนางจึงขมวดขึ้น ก่อนจะส่ายหน้าน้อย ๆ ให้แก่ชวี่เหวินเซี่ย

เห็นได้ชัดว่านางมิต้องการเผยฐานะที่แท้จริงของนางต่อหน้าเย่ฉางชิง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน