ตอนที่ 84 ราชันทมิฬที่อารมณ์ร้ายเปลี่ยนไป
ณ ทางทิศตะวันตกของเทือกเขาแดนใต้
ชิงชิว
ชิงชิวคือดินแดนของเผ่าจิ้งจอกวิญญาณ หนึ่งในหลายเผ่าปีศาจที่อาศัยอยู่ในเทือกเขาแดนใต้มาหลายชั่วอายุคน
มีเมืองจิ้งจอกอยู่ในใจกลางของชิงชิว เป็นสถานที่ที่รุ่งเรืองที่สุดของเผ่าจิ้งจอกวิญญาณ
ที่นี่จึงคล้ายกับเมืองมนุษย์ มีเผ่าจิ้งจอกวิญญาณเป็นผู้ออกกฏระเบียบเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ทั้งยังมีปีศาจจากเผ่าต่าง ๆ เข้าออกที่นี่เพื่อทำการค้าอีกด้วย
และด้วยสตรีของเผ่าจิ้งจอกวิญญาณต่างก็มีรูปโฉมสะคราญ มีเสน่ห์ตรึงตาตรึงใจ เช่นนั้นชายหนุ่มจากเผ่าปีศาจอื่น ๆ ต่างก็ต้องการที่จะมายังเมืองจิ้งจอกบ่อยครั้ง
เป็นเช่นนี้มายาวนานจนทำให้เมืองจิ้งจอกนั้นกลายเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่อันดับหนึ่งของเขตเทือกเขาแดนใต้
ขณะเดียวกันทรัพยากรที่ใช้ในการบำเพ็ญเพียรต่าง ๆ ก็ถูกรวบรวมไว้ในเมืองจิ้งจอกอีกด้วย จึงทำให้เผ่าปีศาจที่แข็งแกร่งอย่างเผ่าจิ้งจอกวิญญาณผงาดขึ้น กลายเป็นหนึ่งในเผ่าปีศาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเทือกเขาแดนใต้
เล่ากันว่าบรรพบุรุษที่มีอายุเกือบสามหมื่นปีตนหนึ่งของเผ่าจิ้งจอกวิญญาณ บัดนี้ได้กลายเป็นผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวปีศาจไปแล้ว
เนื่องจากผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวปีศาจ เทียบเคียงได้กับผู้บำเพ็ญเพียรระดับถ้ำสวรรค์ ทำให้มีอำนาจในการสั่งการและห้ามปรามเผ่าปีศาจต่าง ๆ ทั่วทั้งเทือกเขาแดนใต้ได้
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ชายหนุ่มของเผ่าปีศาจต่าง ๆ เมื่อเข้ามาในเมืองจิ้งจอกแล้ว ต่างก็มิกล้าทำสิ่งที่เป็นการล่วงเกินใด ๆ
เพียงแต่วันนี้กลับมีสุนัขสีดำตัวใหญ่ที่มีร่างกายแข็งแรง ขนเป็นมันวาว สวมกางเกงลายดอกตัวหนึ่ง ยืนอยู่ที่หน้าประตูเมืองจิ้งจอก
เห็นได้ชัดว่าสุนัขสีดำตัวนี้ก็คือราชันทมิฬที่เย่ฉางชิงเลี้ยงเอาไว้นั่นเอง
แต่บัดนี้ราชันทมิฬมิได้ยืนสี่ขา แต่กลับยืนสองขาราวกับคนผู้หนึ่งอยู่ที่หน้าประตูเมือง
แววตาเย็นเยียบ รอบกายแผ่ไอพลังที่ดูน่าเกรงขามออกมา
แตกต่างจากราชันทมิฬที่ขี้ขลาดและรักตัวกลัวตายในสายตาของเย่ฉางชิงอย่างสิ้นเชิง
ช่างเหมือนกับคำกล่าวที่ว่า ตัวเป็นคนนิสัยเป็นหมา1 ยิ่งนัก
“นี่… นี่มันราชันทมิฬที่มีนิสัยน่ารังเกียจ และมีชื่อเสียงฉาวโฉ่นี่นา”
ชายหนุ่มรูปงามของเผ่าจิ้งจอกวิญญาณ 2 คน สวมเกราะสีขาวราวกับหิมะยืนเฝ้ายามอยู่ที่หน้าประตูเมือง มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันทีที่เห็นราชันทมิฬ ท่าทางของทั้งคู่เต็มไปด้วยความสยดสยอง
เพราะราชันทมิฬผู้นี้มีความโหดเหี้ยมยิ่งนัก เมื่อหลายปีก่อนจู่ ๆ สุนัขที่เรียกตัวเองว่าราชันทมิฬผู้นี้ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมา พลังของมันแข็งแกร่งอย่างมาก มิหนำซ้ำยังชอบเข้าไปยังดินแดนต้องห้ามของเผ่าปีศาจต่าง ๆ เพื่อค้นหาสมบัติอีกด้วย
และด้วยเคล็ดวิชาที่แปลกประหลาดของมัน ทำให้เหล่าผู้อาวุโสของเผ่าปีศาจทั้งหลายต่างก็ปวดหัวไปตาม ๆ กัน
จนสุดท้ายราชาของเผ่าปีศาจทั้งหลายก็ทนมิไหว จึงร่วมมือกันวางแผนสังหารราชันทมิฬ สุดท้ายแม้ราชันทมิฬจะติดกับและบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ยังสามารถหนีรอดจากการสังหารของราชาปีศาจได้ด้วยพลังอันแข็งแกร่ง และเคล็ดวิชาที่แปลกประหลาดของมัน
บัดนี้ผ่านไปยังมิถึงสามเดือน ราชันทมิฬกลับปรากฏกายขึ้นอีกครั้ง ณ เทือกเขาแดนใต้ ทั้งยังมีท่าทางจองหองอีกด้วย
และสิ่งที่ทหารยามทั้งสองคาดมิถึงมากที่สุดก็คือ พวกเขารับรู้ได้ถึงไอพลังอันปั่นป่วนที่แผ่ออกมาจากร่างของราชันทมิฬ ราวกับว่าสามารถบรรลุได้ตลอดเวลา
และหากมันสามารถบรรลุได้ ปีศาจตนนี้คงจะแข็งแกร่งสมกับชื่อราชันทมิฬเป็นแน่ !
อีกทั้งปีศาจตนนี้ยังมีชื่อเสียงเรื่องอาฆาตแค้นอีกด้วย
หากบรรลุได้สำเร็จล่ะก็ เผ่าต่าง ๆ ที่เคยวางแผนสังหารมันก่อนหน้านี้ต้องตายตกไปตาม ๆ กันอย่างแน่นอน
ดูท่าถึงเวลานั้นทั้งเทือกเขาแดนใต้คงถูกมันทำลายจนราบเป็นหน้ากลอง
ยามเผ่าจิ้งจอกวิญญาณทั้งสองคิดถึงตรงนี้ก็สบตากันเล็กน้อย ก่อนจะรีบต้อนรับด้วยรอยยิ้มทันที
“ผู้น้อยคาราวะผู้อาวุโสราชันทมิฬ ! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน