เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน นิยาย บท 92

ตอนที่ 92 ท่านจ้าวปีศาจ เชิญกลับไปเถิด

บรรพบุรุษของเผ่าพยัคฆ์ดำ โดยปกติแล้วจะมิปรากฏตัวง่าย ๆ

แต่หากปรากฏตัวขึ้น ย่อมต้องเกิดการนองเลือดตามมา

เช่นเมื่อร้อยกว่าปีก่อนได้มีผู้แข็งแกร่งของเผ่าที่ตกต่ำเผ่าหนึ่ง พลั้งมือสังหารปีศาจตนหนึ่งของเผ่าพยัคฆ์ดำเข้า

อีกทั้งปีศาจตนนั้นยังได้รับความสำคัญจากบรรพบุรุษของเผ่าพยัคฆ์ดำท่านนี้ด้วย

หลังจากที่ทราบข่าว บรรพบุรุษของเผ่าพยัคฆ์ดำก็ได้บุกไปยังเผ่านั้นเพียงลำพัง

คืนนั้นพระจันทร์สีเลือดลอยเด่น

บรรพบุรุษของเผ่าพยัคฆ์ดำได้สังหารปีศาจนับพันของเผ่านั้นจนสิ้น

แม้แต่ปีศาจที่เพิ่งเกิดก็มิมีละเว้น

ภายในคืนเดียว เผ่า ๆ นั้นก็ได้หายไปจากเทือกเขาแดนใต้ อีกทั้งดินแดนที่พวกเขาเคยอาศัยกลับเต็มไปด้วยกองซากศพและกลายเป็นทะเลโลหิต

แน่นอนว่านับตั้งแต่โบราณกาลมา บรรพบุรุษของเผ่าพยัคฆ์ดำท่านนี้มิได้ทำลายเพียงแค่เผ่านั้นเพียงเผ่าเดียว

บางคราแม้แต่ท่านผู้อาวุโสที่อยู่ด้านในของเทือกเขาแดนใต้ ยังถูกบีบให้ช่วยออกหน้าขอร้องด้วย

ทำให้เหล่าผู้แข็งแกร่งของเผ่าต่าง ๆ ในเทือกเขาแดนใต้ต่างก็ขยาดเผ่าพยัคฆ์ดำทั้งสิ้น

ทั้งยังมีบรรพบุรุษหลายเผ่าถึงกับออกคำสั่งเด็ดขาดเอาไว้ หากมีผู้ใดในเผ่าล่วงเกินปีศาจของเผ่าพยัคฆ์ดำ จะถูกขับไล่ออกจากเผ่าและห้ามกลับมาอีกตลอดชีวิต

หรือหากบังเอิญพบเผ่าพยัคฆ์ดำก็ให้พยายามเลี่ยงไปทางอื่น ห้ามสานสัมพันธ์ใด ๆ กับเผ่าพยัคฆ์ดำอีกด้วย

เห็นได้ว่าเผ่าพยัคฆ์ดำนั้นเป็นเผ่าที่ยโสโอหังเพียงใด

การที่บรรพบุรุษของเผ่าพยัคฆ์ดำปรากฏตัวในเวลานี้ ดูก็รู้ว่าผู้แข็งแกร่งของเผ่าต่าง ๆ จะอกสั่นขวัญแขวนเพียงใด

แต่ถึงเผ่าพยัคฆ์ดำจะเก่งกาจสมคำเล่าลือจริง แต่ในเทือกเขาแดนใต้ก็ยังมีผู้ที่มิได้เกรงกลัวบรรพบุรุษของเผ่าพยัคฆ์ดำอยู่เช่นกัน

ยกตัวอย่างเช่นเผ่าจิ้งจอกวิญญาณ และเผ่าวานรอสูรโบราณเป็นต้น

เพียงแต่มินานมานี้กลับเกิดเรื่องแปลกพิสดารขึ้น

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อราชันทมิฬปรากฏตัว !

ปีศาจตนหนึ่งที่มีตบะเพียงแค่ระดับราชาปีศาจ กลับเรียกขานตนเองว่าราชันทมิฬ

ความจริงแล้วปีศาจตนนี้ก็นับเป็นดาวอัปมงคลเช่นกัน แม้แต่เหล่าราชาทั่วทั้งเทือกเขาแดนใต้ต่างก็มิกล้าล่วงเกิน แต่มันผู้นี้กลับกล้าหาญชาญชัยนัก

อีกทั้งยังอาศัยเคล็ดวิชาประหลาด เข้าออกแดนต้องห้ามและสุสานของเหล่าราชาเผ่าต่าง ๆ

เผ่าพยัคฆ์ดำเองก็เคยถูกมันบุกเข้าไปเยี่ยมเยียนมาแล้วเช่นกัน

พลันเสียงอันเย็นเยียบของบรรพบุรุษเผ่าพยัคฆ์ดำนามว่า เฮยฉางหลิง ก็ดังขึ้น “เฮยจวง เหตุใดเจ้าจึงทำลายหยกโลหิตเกล็ดดำ ? ”

เสียงเข้มที่แฝงไว้ด้วยความดุดันดังขึ้น

“สูด ! ”

เหล่าผู้แข็งแกร่งที่คุกเข่าอยู่ ต่างก็สูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ด้วยความหวาดกลัว

เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินเสียงบรรพบุรุษของเผ่าพยัคฆ์ดำท่านนี้

อีกทั้งเสียงแหบต่ำนั้น ช่างฟังดูอึดอัดและน่าหวาดกลัวยิ่งนัก

เฮยจวงที่คุกเข่าอยู่หน้าสุด ได้เงยหน้าขึ้นพร้อมเอ่ยว่า “เรียนท่านบรรพบุรุษ หนึ่งปีก่อนมีผู้แข็งแกร่งระดับราชาปีศาจตนหนึ่งนามว่า ราชันทมิฬ ได้ปรากฏตัวขึ้น มันได้อาศัยเคล็ดวิชาและพลังประหลาดบุกเข้าออกแดนต้องห้ามและสุสานของเผ่าต่าง ๆ เผ่าพยัคฆ์ดำของเราก็เคยถูกมันบุกเข้าไปเช่นกัน”

“มิหนำซ้ำวันนี้มันยังได้ลักพาตัวองค์หญิงสิบสามของเผ่าจิ้งจอกวิญญาณที่กำลังจะแต่งงานกับข้าไปอีกด้วย นี่เป็นการหยามหน้าเผ่าพยัคฆ์ดำของเราเป็นอย่างมาก”

เฮยจวงเอ่ยถึงตรงนี้ แล้วจึงเอ่ยต่อด้วยสีหน้าจนปัญญา เช่นนั้นข้าจึงจำเป็นต้องทำลายหยกโลหิตเกล็ดดำ เพื่อเชิญท่านบรรพบุรุษให้ช่วยจัดการขอรับ”

“โครม ! ”

สิ้นเสียง คลื่นสีดำที่มีพลังทำลายล้างสูงก็พวยพุ่งออกมา ก่อนจะกระแทกใส่หน้าอกเฮยจวงแทบจะทันที

เพียงพริบตาก็มีเลือดไหลออกมาจากปากและจมูกของเฮยจวง พร้อมกับร่างที่ถลาถอยหลังไปไกลสิบกว่าจั้ง

“มิได้เรื่อง ! ”

เฮยฉางหลิงแค่นเสียงออกมา จากนั้นจึงกวาดตามองกลุ่มคนที่คุกเข่าอยู่ พร้อมกับคำรามขึ้น “เจ้าปีศาจตนนั้นเป็นคนของเผ่าไหน ? ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน