เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน นิยาย บท 93

ตอนที่ 93 จ้าวปีศาจเทือกเขาแดนใต้ล้วนเป็นพวกต่ำช้าเช่นนี้หรือ ?

ทันทีที่สิ้นเสียงก็มีไอพลังมหาศาล พลันปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ

จากนั้นพลังทั้งมวลก็พุ่งเข้าใส่ถูซื่อ

“ท่านจะแข็งแกร่งเกินไปแล้วกระมัง”

รอบกายถูซื่อตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยแสงอันเรืองรอง แต่นางยังคงยืนสงบนิ่งอยู่กลางอากาศเช่นเดิม

เมื่อสิ้นเสียง นางก็ได้ปล่อยพลังอันรุนแรงออกมา ขณะเดียวกันลมปราณอันแข็งแกร่งก็สั่นสะท้านไปทุกทิศทุกทาง

ทันใดนั้นลมปราณอันน่ากลัวก็พุ่งเข้าใส่อย่างมิหยุดยั้ง จนเกิดเสียงดังกึกก้องไปทั่วราวกับอัสนีบาตรมิหยุดหย่อน ลมพายุพัดกระหน่ำ ฝุ่นฟุ้งกระจาย จนแทบจะฝังทุกสิ่งให้จมลงไป เป็นปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดยิ่งนัก

ถูซื่อเอ่ยขึ้นอีกคราว่า “เวลานี้ข้าเพียงยืนอยู่บนเขตแดนระหว่างจงหยวนและเทือกเขาแดนใต้ ท่านก็เตรียมจะลงมือแล้วเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

แม้ตอนนี้ภายในของนางจะยังบาดเจ็บหนักจากการถูกพลังครอบงำคราก่อน แต่ผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวปีศาจ อีกทั้งมีชีวิตอยู่มานับล้านปีเช่นนางก็มีพลังอำนาจมิน้อย แม้กำลังเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งเผ่ามนุษย์ที่ยังมิปรากฏกายผู้นี้ นางก็จะมิแสดงความอ่อนแอออกมาเด็ดขาด

ทันใดนั้นชายชราสวมชุดคลุมสีเทา เส้นผมขาวโพลนทั้งศีรษะก็ได้เหาะมาหา

ชายชรามีคิ้วเรียวยาว ดวงตาคมดุจกระบี่ ร่างกายแผ่ไอพลังอันรุนแรง ราวกับเซียนมาจุติ เต็มไปด้วยพลังอำนาจที่แข็งแกร่งยากจะบรรยายได้

“ท่านคงจะเข้าใจผิดแล้ว”

ชายชราตอบกลับด้วยท่าทางเรียบนิ่ง “เทือกเขาแดนใต้และจงหยวนได้ทำพันธะสัญญาต่อกันตั้งแต่หลายล้านปีก่อน ต่างฝ่ายต่างมิก้าวข้ามเขตแดนของกันและกัน ข้าเพียงแค่ต้องการเตือนท่านเท่านั้น”

ถูซื่อแค่นเสียงออกมา ก่อนจะถามกลับไปว่า “เช่นนั้นข้าได้ก้าวข้ามไปยังดินแดนจงหยวนแล้วหรือไม่ หรือว่าตรงนี้เป็นเขตแดนจงหยวนของพวกเจ้าแล้วงั้นหรือ ? ”

ชายชราเพียงส่ายหน้ายิ้ม ๆ ให้กับถูซื่อที่พูดจาก้าวร้าวใส่ “ที่แห่งนี้เป็นดินแดนรกร้าง สงครามระหว่างสองเผ่าในครั้งนั้นทำลายทุกสิ่งของที่นี่ไปจนเกือบหมดแล้ว อีกทั้งยังมีอันตรายมากมายแฝงอยู่”

“อย่าว่าแต่เผ่ามนุษย์ของพวกเราเลย แม้แต่เผ่าต่าง ๆ ในเทือกเขาแดนใต้ ก็คงมิมีผู้ใดคิดที่จะครอบครองดินแดนเสื่อมโทรมเช่นนี้กระมัง ? ”

ถูซื่อนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้งว่า “เมื่อครู่ท่านคงจะรับรู้ได้ว่า มีปีศาจน้อยสองตนบุกเข้าไปในดินแดนจงหยวนกระมัง ? ”

“ถูกต้อง”

ชายชราพยักหน้ารับ พร้อมเอ่ยต่อว่า “หากมิมีสิ่งใดผิดพลาด หนึ่งในนั้นคงมีความเกี่ยวข้องกับท่านอย่างมากใช่หรือไม่?”

ถูซื่อจึงตอบกลับอย่างมิได้อ้อมค้อมว่า “นางเป็นทายาทของข้า และมีสัญญาณว่าสายเลือดจะเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่กลับถูกราชาปีศาจตนหนึ่งจับตัวไป เช่นนั้นข้าจำเป็นต้องเข้าไปในดินแดนจงหยวนของพวกเจ้าเพื่อพานางกลับมา ”

ถูซื่อกล่าวเพียงเท่านั้น ก่อนจะถามขึ้นอีกว่า “อีกอย่าง เหตุใดผู้พิทักษ์ราตรีของเผ่ามนุษย์เช่นท่าน ถึงปล่อยให้ราชาปีศาจเล็ก ๆ ตนหนึ่งเข้าไปในจงหยวนโดยมิถามสิ่งใดเช่นนี้เล่า ? ”

ชายชรายิ้มบาง ๆ “มิมีอะไรมาก เพราะปีศาจตนนั้นหาได้เคยสร้างความเดือดร้อนในจงหยวนไม่ อีกทั้งมันยังมีตบะบารมีเพียงราชาปีศาจเท่านั้น มิได้นับเป็นผู้แข็งแกร่งอะไรในดินแดนจงหยวนของเรา”

“แน่นอนว่าหากมันถูกผู้บำเพ็ญเพียรคนใดคนหนึ่งของเผ่ามนุษย์สังหาร ข้าก็จะมิเข้าไปก้าวก่าย นับว่าเป็นคราวเคราะห์ของมันเอง”

ถูซื่อจึงถามหยั่งเชิงว่า “เช่นนั้นหากข้าต้องการเข้าจงหยวนเพื่อตามตัวทายาทของข้ากลับมาเล่า ? ”

ชายชรารีบปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยทันที “มิได้ ! ”

ถูซื่อเอ่ยจึงถามขึ้นอีกครั้งอย่างโกรธเกรี้ยว “หากข้าต้องการเข้าไปในจงหยวนให้ได้เล่า ? ”

“ท่านเป็นถึงจ้าวปีศาจตนหนึ่งของเทือกเขาแดนใต้ คงจะรับรู้ข้อตกลงของทั้งสองเผ่าเมื่อหลายล้านปีก่อนดี”

ชายชรายิ้มออกมาอย่างมั่นใจ “แน่นอนว่าอันดับแรก ท่านจะต้องข้ามศพข้าไปให้ได้เสียก่อน”

“นี่เจ้า ! ”

ถูซื่อหมดคำพูดในทันที

หากเป็นเมื่อก่อน ด้วยนิสัยของนาง รวมทั้งตบะบารมีที่อยู่ขั้นสูงสุดของระดับจ้าวปีศาจ นางคงจะลงมือไปแล้วโดยมิลังเล

แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับต่างออกไป ร่างกายของนางบาดเจ็บจากการถูกครอบงำ ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้หากมิจำเป็นจริง ๆ จึงมิควรใช้พลังเด็ดขาด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน