ตอนที่ 99 ดูสิว่าครานี้เจ้าจะตายเช่นไร
เฮยฉางหลิงอาศัยความรู้สึกของเขาที่เชื่อมโยงกับสมบัติโบราณของเผ่าพยัคฆ์ดำชิ้นนั้น ข้ามกำแพงแดนใต้เข้ามา ก่อนจะมุ่งหน้าไปทางเหนือ ตามหลังจ้าวปีศาจเผ่าจิ้งจอกวิญญาณถูซื่อไปติด ๆ
แน่นอนว่าแม้เขาจะมีเคล็ดวิชาป้องกันตัวมากมาย แต่เยี่ยงไรเสียที่นี่ก็คือเขตแดนของพวกมนุษย์
เขามีชีวิตมาหลายแสนปี ย่อมเคยปะมือกับผู้แข็งแกร่งที่เป็นเผ่ามนุษย์มามากมาย
อีกทั้งกล่าวกันว่าในดินแดนจงหยวนยังมีผู้แข็งแกร่งที่ไร้เทียมทานจำนวนหนึ่งเร้นกายเพื่อบำเพ็ญเพียรเงียบ ๆ พลังของพวกเขามิใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะคาดเดาได้
เช่นนั้นตลอดการเดินทางมานี้ แม้จะผ่านหมู่บ้านและเมืองต่าง ๆ มากมาย เขาที่มีไอปีศาจและไอชั่วร้ายมหาศาล อีกทั้งยังดูยโสโอหังเหนือผู้ใด กลับระมัดระวังและมิได้ลงมือทำลายเมืองใด ๆ
แต่แม้จะเป็นเช่นนั้น หลังจากเขาเข้ามาถึงเขตแดนทางเหนือของจงหยวน ก็พบว่าตอนนี้ทางด้านหลังได้มีผู้แข็งแกร่งของเผ่ามนุษย์ติดตามมาหลายคน
เพียงแต่อีกฝ่ายแค่ตามหลังมา มิได้เข้ามาประชิดตัวแต่อย่างใด
อีกทั้งยังรักษาระยะห่างหลายสิบลี้
ส่วนเขาก็มัวแต่คิดว่าถูซื่อจะได้รับสมบัติล้ำค่าเช่นใด
บัดนี้แม้จะอยู่ในดินแดนจงหยวน แต่ขอเพียงแค่เขาได้รู้ว่าสมบัติล้ำค่าที่ถูซื่อได้รับคือสิ่งใด เขาจะลงมือช่วงชิงมาอย่างมิลังเลแน่นอน
ต่อให้ต้องสังหารร่างแท้ของถูซื่อที่นี่ก็ยอม
นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ก่อนหน้านี้ตอนอยู่แดนใต้ เขาเพียงแค่ทำร้ายผู้พิทักษ์ราตรีหวงฉีเสวียน แต่มิได้ลงมือสังหาร
เขาต้องการให้หวงฉีเสวียนไปบอกข่าวนี้แก่สำนักต่าง ๆ ในจงหยวน
ว่าเขาจ้าวปีศาจเผ่าพยัคฆ์ดำได้บุกเข้ามายังจงหยวนด้วยจุดประสงค์เพียงสิ่งเดียว
นั่นก็คือการชิงสมบัติโบราณของเผ่าพยัคฆ์ดำที่อยู่ในมือจ้าวปีศาจจิ้งจอกวิญญาณถูซื่อเท่านั้น มิได้มีเจตนายั่วยุเผ่าพันธุ์มนุษย์แต่อย่างใด
แน่นอนว่าในฐานะบรรพบุรุษเผ่าพยัคฆ์ดำที่ยิ่งใหญ่ในเทือกเขาแดนใต้ อย่างน้อย ๆ เขาก็อยากอาศัยโอกาสนี้ศึกษาสถานการณ์ของสำนักต่าง ๆ ในจงหยวนไปด้วย
เช่นนั้นแม้ภายนอกเฮยฉางหลิงจะดูจองหองเพียงใด
แต่ความจริงแล้วเขากลับเป็นคนหยาบช้าที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม และมีความคิดลึกซึ้งมิน้อย
จะเยี่ยงไรเสียเขาก็มีชีวิตอยู่มาหลายแสนปี
ช่วงเวลาที่ผ่านมาย่อมผ่านอะไรมามากมาย ย่อมมีความคิดที่ลึกซึ้งตามไปด้วย
มินานหลังจากเฮยฉางหลิงข้ามผ่านแคว้นต้าเยี่ยน มาถึงเขตดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนทางแดนเหนือ
เขาก็ได้หยุดการเคลื่อนไหวลงทันที คล้ายกับสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง
“หรือว่าถูซื่อจะทำสำเร็จแล้ว ? ”
เมื่อสัมผัสได้ถึงสมบัติโบราณชิ้นนั้น เฮยฉางหลิงก็เอ่ยขึ้นพลางขมวดคิ้วมุ่น
และมิกี่อึดใจต่อมาถูซื่อก็ได้เหาะมาหาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสับสน ก่อนจะเผชิญหน้ากับเฮยฉางหลิง
“โอ้ นี่มันจ้าวปีศาจแห่งเผ่าพยัคฆ์ดำนี่นา ? ”
มุมปากถูซื่อโค้งขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นเฮยฉางหลิง พลางเอ่ยอย่างขบขันว่า “จ้าวปีศาจพยัคฆ์ดำ ตามข้าเข้ามาในดินแดนจงหยวน หรือว่าเป็นห่วงธงวิญญาณดำที่ข้ายืมมาจากเผ่าพยัคฆ์ดำของพวกท่านเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
เฮยฉางหลิงเพ่งสมาธิเล็กน้อย เพียงพริบตาไอสีดำที่ปกคลุมบนใบหน้าก็พลันมลายหายไป
ในที่สุดเขาก็เผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมา
ใบหน้าเหี่ยวย่นและขรุขระ ดวงตาเย็นเหยียบเป็นสีแดงก่ำ แผ่รังสีอำหิตที่เย็นยะเยือกจนน่าสะพรึงกลัวออกมา
“จ้าวปีศาจจิ้งจอกวิญญาณล้อข้าเล่นหรือเยี่ยงไร ? ”
เฮยฉางหลิงยกยิ้มเย็นออกมา “ข้าเพียงแค่แปลกใจเท่านั้น จึงได้ตามมา”
ถูซื่อเอ่ยอย่างขบขัน “เผ่าจิ้งจอกวิญญาณของข้าชอบท่องไปในโลกมนุษย์อยู่แล้ว คิดว่าจ้าวปีศาจพยัคฆ์ดำก็คงจะรู้ดี และขอบอกตามตรงว่าช่วงนี้ข้าอยู่ว่าง ๆ จึงมักจะออกท่องในโลกมนุษย์”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน