หลายเดือนผ่านไป การดำเนินชีวิตภายใต้กฎเกณฑ์ของครอบครัว ทำให้อีธานและฮันน่านั้นรู้ซึ้งถึงคำว่าความสุข เมื่อความอบอุ่นที่เกิดขึ้น ยิ่งนับวันก็ทำให้ชีวิตของเขาทั้งคู่มีความสุขทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะลูกทั้งสองที่น่ารักแถมยังเรียนเก่งอีกต่างหาก แบบนี้ใช่ไหมที่เขาเรียกว่าครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ
Rrrr!!! เสียงสมาร์ตโฟนเครื่องแพงของฮันน่าดังขึ้น ในขณะที่เธอก้าวเดินลงมาจากรถ เพื่อไปพบลูกค้าคนสำคัญกับผู้เป็นสามี ที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งในช่วงเย็นหลังเลิกงาน ซึ่งการเจรจาครั้งนี้อาจจะได้เมสันมาเป็นหุ้นส่วนในโปรเจกต์นี้อีกด้วย
"ใครโทรมาใช่กันยาหรือเปล่า" อีธานหยุดเดินพร้อมกับหมุนตัวหันกลับไปถามผู้เป็นภรรยา เพราะวันนี้ทั้งคู่อาจจะกลับบ้านมืดค่ำ อีธานจึงให้ลีโอไปรับกันยาและตุลาที่โรงเรียนแทน
"เปล่าค่ะคุณเข้าไปพบลูกค้าก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันตามไป พอดีขวัญข้าวโทรมาคงมีธุระสำคัญ" ฮัน่าส่งยิ้มบางๆ ให้กับผู้เป็นสามี พร้อมกับกดรับสาย
"รีบตามมานะ" อีธานเดินเข้าไปใกล้ พร้อมกับเอามือลูบลงที่ศีรษะภรรยาเบาๆ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปภายในโรงแรม ขณะที่หญิงสาวเองก็พยักหน้าให้กับผู้เป็นสามีออกไปแทน
"สวัสดีจ้ะขวัญ เป็นยังไงบ้างสบายดีหรือเปล่า" น้ำเสียงที่นุ่มนวลเอ่ยถามหญิงสาวออกไปด้วยความห่วงใยเหมือนเช่นเคย แม้ว่าเวลาจะผ่านมาหลายเดือน แต่ถ้าฮันน่าก็ไม่เคยลืมเลือน เมื่อครั้งหนึ่งเธอได้อาศัยใบบุญของผู้เป็นเจ้านายหนุ่ม ซึ่งเป็นสามีของขวัญข้าว
"สบายดีค่ะพี่ฮันน่า ขวัญได้ข่าวว่าพี่กับคุณอีธาน ปรับความเข้าใจกันได้แล้วดีใจด้วยนะคะ" น้ำเสียงของขวัญข้าวยังคงนุ่มนวลอ่อนหวานไม่เปลี่ยนแปลง เธอก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่เคยคิดมุ่งร้ายมีแต่หวังอยากจะให้ฮันน่าได้พบเจอกับชีวิตที่ดี และที่สำคัญข่าวการคืนดีของเธอกับอีธานนั้น ได้สร้างความยินดีให้กับหญิงสาวและผู้เป็นสามีอย่างมาก
"ขอบใจมากนะน้องรักของพี่ พอดียุ่งๆ อยู่กับงานเลยไม่ได้ติดต่อกลับไปหาเลย ทุกคนเป็นยังไงบ้างสบายดีกันหรือเปล่า แม่เลี้ยงกวางกมลล่ะ ฝากความคิดถึงให้ท่านด้วยนะ"
"เอ่อ.... พี่ฮันน่าค่ะ เดือนหน้ามีวันหยุดยาวตั้งหลายวัน พี่สะดวกพาเด็กๆ ขึ้นมาที่ไร่กวางกมลได้ไหมคะ" คราวนี้น้ำเสียงของขวัญข้าวดูมีความกังวล ปนสั่นเครือเล็กน้อย จนฮันน่ารู้สึกแปลกใจ
"ขวัญมีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ ทำไมน้ำเสียงถึงฟังดูเหมือนกับว่าไม่ค่อยสบายใจเลย"
"ตอนนี้คุณแม่ไม่ค่อยสบาย ท่านบ่นคิดถึงแต่กันยาและตุลา ขวัญก็เลยอยากให้พี่พาลูกๆ มาที่ไร่ ถือว่ามาเที่ยวด้วยจะได้ไหมคะ" คราวนี้น้ำเสียงของขวัญข้าวแฝงไปด้วยความอ้อนวอน เพื่อขอความเห็นใจจากฮันน่า
"ทำไมจะไม่ได้ล่ะจ๊ะ แม่เลี้ยงกวางกมลก็เปรียบเหมือนคนในครอบครัวของพี่เช่นกัน เมื่อท่านไม่สบายแบบนั้นจะให้พี่นิ่งดูดายไม่ไปเยี่ยมได้ยังไง"
"ขอบคุณมากนะคะพี่ฮันน่า ขอบคุณมากจริงๆ ถ้าคุณแม่รู้คงดีใจมาก ขวัญไม่กวนแล้ว ขอตัวไปดูคุณแม่ก่อนแค่นี้นะคะ" น้ำเสียงของขวัญข้าวดูตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ เพราะเธอเองก็ไม่ได้พบกับฮันน่า กันยาและตุลามาหลายเดือนแล้วเช่นกัน
"จ้าแล้วเจอกันนะจ๊ะ คิดถึงนะสวัสดีจ้า"
"สวัสดีค่ะ บ๊ายบายค่ะพี่ฮันน่า" เมื่อวางสายจากขวัญข้าว ฮันน่าก็รีบเดินเข้าไปในโรงแรมหรู โดยมีพนักงานต้อนรับเดินเข้ามาทักและนำหน้าเธอไปยังห้องอาหารโซนวีไอพี ซึ่งในเวลานี้อีธานกำลังสนทนากับลูกค้ารายสำคัญอย่างถูกคอ ทั้งคู่นั่งจิบบรั่นดี พร้อมกับคุยเรื่องธุรกิจไปด้วย
ในขณะที่ฮันน่ากำลังเจรจากับเมสัน อีธานเริ่มที่จะไม่อยากร่วมงานกับชายตรงหน้า เพราะเขาเอาแต่จ้องมองฮันน่าอย่างไม่วางตา
"แต่ผมก็ยังคงอยากให้ที่นั่นเป็นพื้นที่สีเขียว ความจริงแล้วผมตั้งใจ ที่จะเนรมิตที่นั่น ให้เป็นสวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์ แล้วเก็บบัตรเข้าชมในแต่ละวัน ซึ่งเป้าหมายของผมคือวัยรุ่นและวัยทำงาน" คราวนี้เมสันพูดออกมาอย่างมีหลักการ เพราะบรรยากาศในเมืองที่เต็มไปด้วยแสงสีและมลพิษ ชายหนุ่มเชื่อว่าจะมีคนไม่น้อยที่หลั่งไหลกันเข้ามาพักผ่อน เพราะนอกจากจะเข้ามาชมสวนแล้ว ยังสามารถวิ่งออกกำลังกายได้ด้วย
"ไอเดียคุณเจ๋งมากเลยนะคะ แต่คุณลืมไปหรือเปล่าว่าเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์ ถ้าไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีไม่นานมันก็จะเหี่ยวเฉาตายลงไปได้ แต่สำหรับโปรเจคที่เรากำลังจะทำขึ้น ก็เป็นเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ เราจะยังคงพื้นที่สีเขียวเอาไว้ เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาพักได้รู้สึกผ่อนคลาย จนอยากจะกลับมาใช้บริการอีกอย่างแน่นอนค่ะ"
"สรุปว่าโปรเจกต์ที่คุณพูดมาหมายถึงคอนโดหรือโรงแรมครับ ผมสับสนไปหมดแล้วเนี่ย"
"โรงแรมค่ะ!" เมื่อภรรยาพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ทำให้อีธานไม่สามารถพูดหรือโต้แย้งใดๆ ออกไปได้ น่าแปลกใจที่ประธานหนุ่มอย่างเขา ไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้เลย เพราะเวลานี้บริษัทถูกยึดอำนาจจากเลขา เธอเป็นดั่งประธานที่มีสิทธิ์ตัดสินใจแทนเขาทุกอย่าง จนบางครั้งเขาเองต่างหากที่ต้องทำตาม ในสิ่งที่ฮั่นน่าต้องการ ซึ่งโครงการที่เธอตัดสินใจลงไปนั้น ผลที่ตอบรับกำไรของบริษัทก็พอกพูนขึ้นอย่างมหาศาล จนหลายโปรเจกต์เขาต้องยอมเปลี่ยนแปลง เพื่อสยบให้กับภรรยา
"ดีครับ ถ้าเป็นโรงแรมผมยินดีที่จะเซ็นสัญญาร่วมลงทุนกับบริษัทของคุณในตอนนี้ เพราะถ้าทำคอนโดก็แค่ขายขาดออกไป อาจจะมีให้เช่าบ้างแต่ก็คงจะไม่มากเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นธุรกิจการโรงแรม ถ้าหากบริการดีเยี่ยมในย่านธุรกิจแบบนี้ ผมว่าน่าจะไปได้สวยเลยทีเดียว" ในขณะที่พูดสายตาของเมสัน ยังคงจับจ้องมองไปที่ดวงหน้าของหญิงสาวอย่างไม่วางตา ที่สำคัญเขามองหญิงสาวด้วยแววตาที่เจ้าชู้ จนอีธานอยากจะลุกขึ้นไปชกสักสองสามที
แต่ชายหนุ่มก็พยายามเก็บอาการเหล่านั้นเอาไว้ เพราะลูกค้ารายสำคัญกำลังจะกลายเป็นหุ้นส่วนในการร่วมลงทุนทำธุรกิจร่วมกัน แต่ชายหนุ่มได้คาดโทษภรรยาเอาไว้กลับถึงบ้านเมื่อไหร่เธอได้เจอดีแน่นอน เขาจะทำโทษเธอให้เข็ดหลาบ จนนอนจมเตียงลุกไม่ขึ้นเลยทีเดียว ข้อหาที่เธอนั้นกำลังจะทำให้เขาคลั่งอยู่ในตอนนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์ร้ายใจปรารถนา Series Follow you heart