มายาบรรณาการ นิยาย บท 50

เจ้าสาวปั้นหน้ายิ้มให้สื่อ แต่ตาก็กวาดรอบงานสลับกับชะเง้อคอมองหาเจ้าบ่าวเป็นระยะ ตั้งแต่เขารู้เรื่องและยอมแต่งตัว แต่ก็ยังไร้วี่แววของเขาที่จะย่างกรายเข้ามาในงานอยู่ดี เจ้าสาวต้องลุ้นระทึกอยู่ทุกวินาที

แม้จะกะทันหัน แต่ชุดเจ้าสาวก็ถูกดีไซน์พิเศษด้วยผ้าที่สั่งตรงจากฝรั่งเศส และถูกส่งด่วนมาจากกรุงเทพด้วยเที่ยวบินที่เช้าที่สุด เพราะเธออยู่ในวงการนางแบบ ไม่แปลกสักนิดที่จะเนรมิตมาได้ในเวลาหนึ่งวัน และที่สำคัญ...คนที่ต้องควักทุนจ่ายคงจะหนีไม่พ้นคุณอิงดาว

ชายกระโปรงกรุยหลังยาวสองเมตร ด้านหน้าเป็นรูปตัววีคว้านลึก ชิดร่องอกรำไร ผ้าดิ้นสีขาวแนบชิดเรือนร่างทรงนาฬิกาทรายของเธอ ด้านหลังต้นคอลงมาจรดบั้นท้ายเป็นผ้าซีทรูโปร่ง อวดแผ่นหลังขาวนวลตา เน้นเอวคอด สะโพกผาย

กริชเดินเข้ามาในงานอย่างร้อนรน เดินผ่านหน้าเจ้าสาวที่ยืนเฉิดฉายอยู่หน้างานอย่างไม่สนใจ กวาดสายตามองหาพี่ชายไปด้วย ตลอดการเดินทางที่ใช้โทรศัพท์ได้ เขาก็เฝ้าติดต่อหานายหัวหนุ่มตลอดเวลา แต่ก็ยังติดต่อไม่ได้จนถึงตอนนี้ ไม่รู้ว่าพี่ชายของเขาได้อ่านอีเมลหรือยัง

“พี่กรินไปไหนครับแม่” คำถามแรกที่ชายหนุ่มถามกับมารดา

“แกไม่คิดจะทักฉันก่อนบ้างหรือยังไง”

“งานแต่งงาน...ผมถามหาเจ้าบ่าวก่อนผิดด้วยหรือ”

“ถ้าอย้างนั้นก็ช่วยตามหาพี่ชายแกให้ฉันด้วย ไม่ใช่หนีงานอีกแล้วนะ”

“แม่ไม่ได้บังคับอีกแล้วนะครับ”

“พี่ชายแกเป็นคนบอกเองว่าจะแต่ง คราวนี้ฉันไม่ยอมแน่”

อีกมุมหนึ่งของโรงแรม เจ้าบ่าวสีหน้าเคร่งเครียดยืนพิงกระถางต้นไม้ มือหนายังคงเกาะกุมโทรศัพท์ที่เขาอ่านข้อความเดิมซ้ำๆ วนไปวนมานับสิบรอบ กับข้อมูลที่เขาขอร้องให้เพื่อนช่วยสืบเฉพาะกิจแบบเร่งด่วนเพิ่มเติม จากที่เขาเคยสืบรู้มาครั้งหนึ่งเรื่องของพลอยขวัญ

ครั้งนี้...ถึงแม้ว่าเวลาจะทำให้ได้ข้อมูลไม่มากมาย แต่สิ่งที่อยู่ในมือก็มากพอ

นายหัวหนุ่มครุ่นคิดชั่งใจ ใบหน้าของลูกสาวลอยเด่นมาตรงหน้า ปะการังคือจุดแปรผันของทุกสิ่งทุกอย่าง จนเขาต้องตัดสินใจทำแบบนี้ สาวน้อยแสนอาภัพที่เกิดมาไม่นาน แต่ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า

หากแต่ใบหน้าของพลอยขวัญก็ยังตีตราความโกรธเอาไว้มากเกินกว่าที่จะสลัดหลุดออกไป สิ่งที่เขารับรู้ทำให้เขายิ่งโกรธเธอหนัก ทำไมเธอถึงยอมคนพวกนั้นได้นานขนาดนี้

เหงื่อที่มือเริ่มซึมออกมาจนเปียกชื้นเครื่องมือสื่อสารบางจิ๋ว ชายหนุ่มมองมันราวกับว่ามันเป็นสิ่งแปลกประหลาดที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน คิ้วหนายกขึ้น มันขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างเคร่งเครียด ไม่รู้จะแก้ปัญหาที่คิดไม่ตกในตอนนี้อย่างไรดี

ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจสาวท้าวยาวเดินออกไปจากห้องจัดงานเงียบๆ

เข็มนาฬิกาบอกเวลาของวัน ใกล้ถึงเวลาเริ่มงานเต็มที แขกเริ่มทยอยมามาก ห้องจัดเลี้ยงที่กว้างขวางจุคนได้นับพันดูแคบไปถนัดตา เจ้าสาวยืนชะเง้อคอยาว...กวาดสายตามองหาเจ้าบ่าว เขาหายไปนานตั้งแต่เธอแต่งตัวเสร็จ

คุณอิงดาวเองก็มีอาการยืนไม่ติดเช่นเดียวกันกับฝ่ายเจ้าสาว ลูกชายคนโตของนางคนนี้ไม่เหมือนกริช เขากล้าที่จะทำให้นางเสียหน้าได้เสมอ หากเพียงเขาไม่เต็มใจที่จะทำ

นายหัวกรินเดินผ่านหน้าห้องจัดงานไปอย่างเงียบๆ โดยไม่มีใครทันสังเกต เขาย่อตัวลงนั่งบนพื้นหญ้า ยกขวดวิสกี้ที่หยิบติดมือมาเทลงคอเหมือนน้ำเปล่า บรรยากาศของงานแต่งงาน เจ้าบ่าวอย่างเขาควรจะมีความสุขสนุกสนาน แต่สิ่งแวดล้อมทุกอย่างมันกลับสวนทางกับใจเจ้าบ่าวอย่างเขาตอนนี้

อิงดาว ศยามล หม่อมหลวงสราลี รวมไปถึงกริช ทุกคนต่างพากันเดินตามหาเจ้าบ่าว แต่หากต่างความรู้สึกกัน

อิงดาวกลัวลูกชายทำเสียหน้า

หม่อมหลวงสลาลีกลัวต้องกลายเป็นข่าวซุบซิบ

ศยามลกลัวไม่ได้ตัวเขามาครอบครอง

แต่กริชต้องรีบบอกความจริงพี่ชายก่อนที่เขาจะทำผิดพลาดอีกครั้ง

ทว่าทุกคนก็ต้องพบกับความผิดหวัง เกือบชั่วโมงที่ตามหา แต่ก็ไร้วี่แววของเจ้าบ่าว กริชตัดสินใจเดินลัดเลาะออกมาทางสวนหน้าโรงแรมเดาสุ่มอย่างไม่มีทางเลือก พลันสายตาก็มองเห็นร่างหนาของเจ้าบ่าวนอนอยู่บนพื้นหญ้า

“ทำไมพี่มาอยู่ตรงนี้...ทุกคนกำลังตามหาพี่อยู่” กริชล้มตัวลงนอนข้างๆ พี่ชายไม่สนใจสูทราคาแสนแพงที่อยู่บนตัวของเขา แหงนหน้ามองดาวบนฟ้าเหมือนคนที่นอนอยู่ก่อน

“ถึงเวลางานเริ่มงานแล้วหรือ” นายหัวหนุ่มยันตัวลุกขึ้น กระดกเหล้าที่เหลือในขวดเพียงครึ่งเดียวเขาปากอีกครั้ง

กริชรีบแย่งขวดวิสกี้ออกจากมือพี่ชาย รู้ดีว่าเมื่อก่อนเขาเป็นนักดื่มตัวยง เพียงแค่นี้ไม่ทำให้เขาเมา แต่เขาก็ไม่อยากให้พี่ชายใช้เหล้าเป็นทางออกของปัญหา

“เหล้าไม่ใช่ทางออกของปัญหา”

“ฉันก็ไม่ได้บอกนายว่าฉันใช้เหล้าเป็นทางออก ฉันก็แค่อยากดื่ม”

“พี่ได้อ่านข้อความที่ผมส่งมาให้หรือยัง”

“ยัง!” ชายหนุ่มปฏิเสธไป แม้จะรู้ความจริง แต่จะให้ล้มเลิกงานแต่งงานและหนีไปก็ใช่เรื่อง ลูกผู้ชายอย่างเขาต้องยึดมั่นคำพูดมากกว่าสิ่งใด

หากสิ่งที่เขาจะตัดสินใจทำอะไรลงไปสักอย่าง มันต้องเป็นทางออกที่ดีกับทุกฝ่าย

“ผมมีเรื่องจะบอก”

นายหัวหนุ่มยกมือโบกห้ามน้องชายเอาไว้

“นายค่อยเล่าหลังจากคืนนี้ก็แล้วกัน วันนี้เป็นงานมงคลของฉัน”

“แต่พี่ต้องรู้ก่อน ไม่อย่างนั้นพี่จะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”

“นายคิดว่าถ้าฉันรู้ แล้วฉันจะไม่เสียใจไปตลอดชีวิตหรือ” นายหัวกรินตอบกลับเสียงเรียบ แววตาขื่นที่เขาส่งมอบให้คนเป็นน้องรับรู้ได้ถึงความรู้สึก

“แต่พี่กริน”

“ขอให้นายเชื่อและเคารพในการตัดสินใจของฉันเถอะกริช”

กริชพยักหน้า ทั้งที่ไม่เข้าใจ แต่เขาก็ควรยอมรับในการตัดสินใจของพี่ชาย คงจะไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกดีไปมากกว่าตัวของเขาเอง

นายหัวกรินยันตัวลุกขึ้นยืน ชวนน้องชาย

“กลับเข้าไปในงานเถอะ ฉันต้องแต่งงานกับแม่นางแบบไฮโซตามที่แม่ต้องการ”

“พี่แน่ใจแล้วใช่ไหม”

นายหัวหนุ่มยิ้มออกมาเต็มปาก ยกมือตบบ่าน้องชายเบาๆ “แน่ใจ! ถึงแม้ว่าวิธีของฉันจะเลวร้ายไปบ้าง แต่มันก็เป็นทางออกที่ดีที่สุดของฉัน”

คราวนี้คิ้วหนาของกริชขมวด หันกลับไปมองหน้าพี่ชายเชิงถาม

“เอาน่า นายแค่อยู่ข้างๆ แม่เอาไว้ก็พอ ที่เหลือฉันจัดการเอง” คำพูดแปลกๆของคนเป็นเจ้าบ่าวพี่บอกน้องชาย พานทำให้คนฟังยิ่งไม่เข้าใจขึ้นไปอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มายาบรรณาการ