เล่ห์รัก ท่านประธาน นิยาย บท 792

สรุปบท บทที่ 792 ชายผู้ไม่มีไหวพริบหึง 1: เล่ห์รัก ท่านประธาน

ตอน บทที่ 792 ชายผู้ไม่มีไหวพริบหึง 1 จาก เล่ห์รัก ท่านประธาน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 792 ชายผู้ไม่มีไหวพริบหึง 1 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย โรแมนติค เล่ห์รัก ท่านประธาน ที่เขียนโดย โอเอสเต้ ลูน่า เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บอยล์ดูเหมือนจะไม่ได้สังเกตว่าเชอรีชกำลังประหม่า เขาหมอบลงเล็กน้อยเพื่อกอดเธอจากด้านหลัง และชี้ไปที่จุดที่เธอทำผิด “ส่วนนี้ผิด คำตอบควรเป็น X ยกกำลังสี่”

เชอรีชรีบขีดฆ่าคำตอบที่ผิดอย่างรวดเร็ว และเขียนใหม่เป็นคำตอบที่ถูกต้อง เธออธิบาย “ฉ ฉัน ตอนนี้ฉันประหม่าเกินไป นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันทำผิด”

บอยล์มองไปที่เธอและยิ้ม “มันก็แค่คำถามพีชคณิต ทำไมคุณถึงประหม่าล่ะ?

เชอรีชหน้าแดง และก้มหน้าลง “ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังยืนอยู่ข้างหลังฉัน”

บอยล์อึ้งไปครู่หนึ่ง “เก็บของของคุณซะ ผมจะไปส่งคุณกลับไปที่โรงเรียน”

เชอรีชปิดหนังสือของเธอ และยัดมันทั้งหมดลงในกระเป๋าของเธอ

ฮันท์ลีย์เลิกคิ้ว “เฮ้ เชอรีชจะไปแล้วเหรอ? ครั้งหน้ามาเล่นกับเราอีกนะ อ้อ อีกอย่าง ผมกับบอยล์จะไปศาลตอนสิบโมงเช้าพรุ่งนี้ หากคุณว่าง คุณสามารถแวะมาดูเรามุ่งสู่เส้นทางชัยชนะอันยอดเยี่ยม! ผมขอบอก บอยล์ดูเจ๋งมากตอนที่เขาอยู่ในศาล”

บอยล์คว้าแฟ้มที่อยู่ใกล้ ๆ และโยนมันใส่ฮันท์ลีย์ “นายเงียบปากไปดีกว่า”

ฮันท์ลีย์พูดไม่ออก

ผิดไหมที่เขาจับคู่ให้น้องชายของเขา?

บอยล์ไม่ขอบคุณในความพยายามของเขา ในไม่ช้าเขาจะเสียใจที่เขาต่อต้านสิ่งที่เขาทำเพื่อเขา!

บอยล์ขี่จักรยานไปส่งเชอรีชกลับไปที่โรงเรียน

เชอรีชนั่งที่เบาะหน้า ในขณะที่ถูกบอยล์กอดจากด้านหลัง เธอรู้สึกราวกับว่าพวกเขาเป็นคู่รักกัน เพราะตำแหน่งที่พวกเขานั่งดูสนิทสนมกันมาก

โรงเรียนยังคงอยู่อีกค่อนข้างไกลจากต่ำแหน่งของพวกเขา

เชอรีชกังวลว่าเขาจะเห็นว่าเธอหนัก

โชคดีที่เธอยังไม่ได้กินข้าวเย็น

แต่ทันทีที่เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น ท้องของเธอก็ร้องด้วยความหิว

บอยล์เหลือบไปมองที่เธอ "คุณหิวเหรอ?"

เชอรีชพูดไม่ออก เธออุทานอยู่ในใจว่า 'นี่มันน่าอายเกินไปแล้ว!'

เธอรีบไปส่งอาหารเย็นให้เขาที่สำนักงานกฎหมาย และยังไม่ได้กินอะไร

“ฉ ฉันกำลังลดน้ำหนัก! ฉันก็เลยไม่ทานอาหารเย็น”

บอยล์ขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอผอมมากจนเขาสามารถยกเธอขึ้นได้อย่างง่ายดายด้วยมือเพียงข้างเดียว ทำไมเธอยังต้องลดน้ำหนักอีก? “คุณไม่อ้วน คุณจะเสียใจถ้าคุณทำให้ตัวเองหิวโซ”

เชอรีชก้มศีรษะลงและแอบยิ้ม เขาบอกว่าเธอไม่ได้อ้วน นั่นแสดงว่าเธอหุ่นดีในสายตาของเขา ใช่ มันต้องเป็นแบบนั้น

“บางครั้งคุณก็ดูเหมือนพ่อของฉัน”

เช่นเดียวกับพ่อของเธอ เขาก็เป็นห่วงสุขภาพของเธอเช่นกัน

แต่มันรู้สึกดีที่ได้รับการเป็นห่วงจากบอยล์

มีร้านอาหารมากมายอยู่แถวนั้น บอยล์หยุดจักรยานของเขาที่ทางเข้าร้านก๋วยเตี๋ยว

“เรามาหาอะไรกินกันที่นี่เถอะ”

บอยล์จอดรถจักรยานของเขาไว้ด้านข้างก่อนจะเข้าไปในร้านก๋วยเตี๋ยวกับเชอรีช เธอสั่งก๋วยเตี๋ยวเนื้อหนึ่งชาม แต่บอยล์ไม่ได้สั่งอะไร เขายังคงอิ่มจากอาหารเย็นก่อนหน้านี้ และไม่ชอบกินอาหารค่ำ

เมื่ออาหารของเธอมาถึง เธอหยิบต้นหอม และผักชีทั้งหมดออกจากชามก๋วยเตี๋ยวของเธอ

เชอรีชรีบหาข้ออ้างให้ตัวเองอย่างลนลาน เมื่อเธอเห็นบอยล์เหลือบไปมองที่หัวหอม และผักชีที่เธอหยิบออก “ฉันไม่ใช่พวกเลือกกินหรอกนะ!”

เธอไม่ใช่ผู้หญิงเลือกมาก

เชอรีชไม่ต้องการดูจู้จี้จุกจิกต่อหน้าเขา ถ้าเธอดูเหมือนดูแลยาก เขาอาจจะไม่รักเธอ

เขาดูเหมือนจะชอบผู้หญิงที่ฉลาด และใจดีอย่างเลล่า

เชอรีชพยายามจะเริ่มบทสนทนา ในขณะที่กำลังกินบะหมี่ของเธอ “บอยล์ คุณสนิทกับเลล่าหรือเปล่า?”

“นิดหน่อย”

"... โอ้" นี่เขากำลังจะบอกว่าพวกเขาสนิทกันใช่ไหม?

บะหมี่นั้นอร่อย แต่เธอค่อย ๆ สูญเสียความอยากอาหารไป ในขณะที่เธอกินพวกมัน

บอยล์เหลือบไปมองที่บะหมี่ที่กินไม่หมดของเธอ “คุณอิ่มแล้วเหรอ?”

เชอรีชไม่ต้องการทิ้งอาหาร ดังนั้นเธอจึงบังคับตัวเองให้กินบะหมี่จนหมดชาม

...

เช้าวันรุ่งขึ้น เชอรีชขอให้แมนดี้เข้าคาบเช้าแทนเธอ ก่อนที่เธอจะขึ้นแท็กซี่ไปศาล

เมื่อเธอมาถึงห้องพิจารณาคดี การพิจารณาคดีได้เริ่มขึ้นไปแล้ว และบรรยากาศในห้องพิจารณาคดีก็เงียบสงัด และเคร่งขรึม

บอยล์เป็นทนายความของโจทก์ในคดีนี้ เขาสวมสูทสีดำอย่างเป็นทางการพร้อมกับเสื้อเชิ้ตสีขาวด้านใน กางเกงขายาวสีดำของเขาทำให้ขาของเขาดูเรียวยาวขึ้นกว่าปกติ

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขาสวมชุดที่เป็นทางการ ท่าทางสง่างาม และท่าทางเย็นชาของเขา ทำให้เธอรู้สึกราวกับว่าพวกเขาทั้งสองคนอยู่ในโลกที่ต่างกัน

เมื่อถึงเวลาที่บอยล์ต้องกล่าวคำปราศรัย ทุกอย่างจัดเตรียมมาอย่างดีและตรงประเด็น ด้วยท่าทางสงบของเขา เขาทำให้ทนายของจำเลยหมดราศี

ฮันท์ลีย์นั่งอยู่ที่บริเวณผู้เข้าชมกับเชอรีช เมื่อเขาเห็นหญิงสาวที่กำลังนั่งอยู่ข้าง ๆ เขาจับจ้องไปที่บอยล์ เขาก็เอนตัวไปทางเธอ และกระซิบที่ข้างหูของเธอว่า “บอยล์ดูมีเสน่ห์น่ามากตอนที่เขาปกป้องลูกความของเขาในศาลใช่ไหมล่ะ?”

แก้มของเชอรีชแดงระเรื่อราวกับแอปเปิ้ลแดง “มันไม่ใช่แบบนั้น!”

โกหก

การพิจารณาคดีสิ้นสุดลงในอีกสองชั่วโมงต่อมา

ฮันท์ลีย์กับเชอรีชตัดสินใจไปรอบอยล์ด้านนอกห้องพิจารณาคดี

ในขณะที่บอยล์ออกมาจากห้องพิจารณาคดีพร้อมกับลูกความของเขา พวกเขาก็ไปเจอกับพ่อแม่ของจำเลย

“ทนายบอยล์ ผมแนะนำให้คุณออกจากคดีนี้ซะ คุณไม่ได้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการในรอบแรก ดังนั้นผมขอเตือนคุณ รอบหน้าครั้งหน้ามันก็จะเหมือนเดิม”

บอยล์ยังคงสงบนิ่ง และยิ้มอย่างเย็นชาให้กับพวกเขา “เนื่องจากคุณทั้งคู่มั่นใจว่าเราจะไม่ชนะในรอบที่สอง แล้วทำไมพวกคุณต้องกังวลว่าผมจะรับคดีนี้หรือไม่ด้วยล่ะ?”

"แก!"

บอยล์ออกไปจากศาล และพบกับฮันท์ลีย์กับเชอรีช

โจทก์ในคดีนี้เป็นผู้หญิงชื่อเจนนิเฟอร์ เลฮีย์ เธอเป็นเด็กผู้หญิงจากชนบท และกำลังอยู่ในมหาวิทยาลัยชั้นปีที่สามของเธอ ไม่นานมานี้เธอถูกวางยา และถูกข่มขืนโดยลูกชายของข้าราชการผู้มีอิทธิพล พ่อของจำเลยเป็นอัยการ และครอบครัวของเขามีอิทธิพล และมีอำนาจในสังคม แต่คดีนี้ค่อนข้างมีความซับซ้อน เนื่องจากเจนนิเฟอร์เคยมีความสัมพันธ์ระยะสั้นกับจำเลย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินลงโทษเขา แม้ว่าจะมีหลักฐานที่เพียงพอ และหนักแน่นก็ตาม

อย่างไรก็ตาม เจนนิเฟอร์และพ่อแม่ของเธอยังคงกล้าหาญที่จะฟ้องจำเลย แม้ว่าพวกเขาจะมีโอกาสที่จะแพ้อย่างมาก

ณ ประตูทางเข้าศาล พ่อของเจนนิเฟอร์หลั่งน้ำตาของความรู้สึกขอบคุณในขณะที่จับมือของบอยล์ “ทนายบอยล์ ขอบคุณมาก ผมไม่รู้ว่าเราจะทำอย่างไรถ้าไม่มีคุณ และทนายฮันท์ลีย์ ทนายบอยล์ คุณคิดว่าเราจะจับไอ้บ้านั่นเข้าคุกได้ไหม? ผมจะมีความสุขมากถ้ามันตาย ๆ ไป!”

ดวงตาของเขาเบิกโพลงด้วยความโกรธ และกัดฟันแน่นเมื่อนึกถึงชายที่ทำร้ายลูกของเขา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน