เล่ห์รัก ท่านประธาน นิยาย บท 864

รถเบนท์ลีย์สีดำขับไปบนถนน

แสงไฟส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง ตอนที่พวกเขาขับรถผ่าน

บอยล์ยิ้มแล้วถามเธอ "ทำไมจู่ ๆ ถึงได้กลับมาบ้านล่ะ? คุณจะกลับไปอเมริกาอยู่หรือเปล่า?"

เชอรีชไม่ได้มองเขา เธอจดจ่อกับถนนข้างหน้าและตอบ "ฉันอยากกลับมาก็แค่นั้น"

เป็นการบอกเขาว่าชีวิตของเธอไม่เกี่ยวกับเขา

"ฮันท์ลีย์กำลังจะแต่งงานกับวิทนีย์" บอยล์บอกเธอ

"ฉันรู้แล้ว"

บอยล์พูดต่อ "ผมก็อยู่ที่อเมริกามาเจ็ดปี"

เชอรีชตอบ "ฉันรู้"

"ตอนนั้นผมกำลังเรียนปริญญาเอกที่ฮาวาร์ด"

"ฉันรู้"

"ผมคิดถึงคุณ"

"ฉันรู้… ฉันไม่รู้หรอก"

เชอรีชกัดลิ้น

ตอนนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าตกหลุมพรางเขา

เธอเคยเล่นเกมแบบนี้กับวิทนีย์ตอนที่ยังเรียนมัธยมปลาย เกมนี้จะให้คนต่อต้านพวกเขา ปกติเกมนี้จะถามคำถามง่าย ๆ ก่อนจะจับเหยื่อตอนที่ไม่ทันระวังตัว ด้วยคำถามอื่นที่ไม่เกี่ยวกัน แค่จะทำให้ขายหน้า

ปกติแล้วคำถามสุดท้ายจะเป็นแบบ 'เธอเป็นหมู' และคนนั้นจะตอบว่า 'ใช่' หรือ 'ฉันรู้' โดยสัญชาติญาณ

เธอไม่เคยเล่นเกมแพ้เลยสักครั้ง เพราะสมองเธอทำงานเร็ว

ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้สนใจ เพราะคนที่นั่งข้างเธอคือบอยล์ คนที่เธอไม่ได้เจอมาเจ็ดปีแล้ว

สมองของเธอดูเหมือนจะเสียการควบคุมไปเอง

ดวงตาของบอยล์เข้มขึ้น เขาถามเธอเสียงทุ้มต่ำ "รู้หรือเปล่าว่าผมคิดถึงคุณมากเลยนะ?"

เชอรีชหันมามองเขาทันที เธอสูดลมหายใจเข้าแล้วเยาะเย้ยเขา "แล้วถ้าฉันคิดถึงหรือไม่คิดถึงล่ะ? คุณต้องการอะไรจากฉัน? บอยล์ ให้ฉันเตือนอีกไหม ว่าเราเลิกกันมาเจ็ดปีแล้ว?"

การบอกว่าคิดถึงเธอนั้นมันไร้สาระ

เธอกลายเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วจริง ๆ แต่ผลกระทบที่เธอมีต่อเขา และการที่เขารักเธอมากแค่ไหนนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะส่งความรู้สึกผ่านไปถึงเธอ

ความรักที่เขามีให้เธอนั้น มันฝังลึกอยู่ในใจของเขา

หลังจากคำพูดที่เธอบอกเขา พวกเขาก็อยู่ในความเงียบ

เขาไม่อยากทำให้เธอโกรธ

เมื่อรถเบนท์ลีย์สีดำกำลังจะถึงคฤหาสน์ตระกูลฟัดด์ เชอรีชก็พูดเสียงเย็นชา "ส่งฉันแค่ตรงนี้แหละ ฉันเดินไปเองได้"

เมื่อเห็นว่าบอยล์ยังไม่จอดรถ เธอก็พูดเสียงดุ "คุณก็รู้ว่าพ่อแม่ฉันเกลียดคุณ ฉันจะไม่ทำร้ายพ่อแม่เพื่อคุณอีก"

มันไม่คุ้มค่าหรอก

คำว่า 'เกลียด' ที่เธอพูดออกมานั้น ฟังดูเย็นชาและไร้หัวใจ

สายตาของเธอก็เย็นชาเช่นกัน

บอยล์จอดรถ

เธออยากออกไปจากพื้นที่คับแคบนี้ เธอเปิดประตูรถทันทีหลังจากที่เขาจอดรถ

บอยล์ทนต่อไปไม่ไหว เขาจับแขนเธอและเรียกเธอ "เชอรีช"

เชอรีชกัดริมฝีปากก่อนจะมองเขา "ท่านประธานลอว์สัน ฉันเคยบอกคุณแล้วว่าเราไม่ได้สนิทกัน ฉันจะรู้สึกขอบคุณมาก ถ้าเรียกฉันว่าคุณฟัดด์"

"มันก็เจ็ดปีมาแล้วตั้งแต่เราเลิกกัน ช่วยอยู่กับผมอีกหน่อยได้ไหม?"

ไม่เป็นไรหรอกถ้าเธอไม่อยากพูดกับเขา

บอยล์รู้ว่าเธอโกรธเขา สายตาเย่อหยิ่งของเขาเปลี่ยนเป็นเศร้าและอ้อนวอน

เชอรีชหัวเราะและถามเขา "บอยล์ ลอว์สัน ฉันอยากรู้ว่าฉันเป็นใครสำหรับคุณ ถ้าฉันต้องนั่งอยู่ที่นี่กับคุณ ฉันจะอยู่กับคุณในฐานะแฟนเก่า หรือเพื่อนที่มหาวิทยาลัยที่คุณไม่คุ้นเคยล่ะ?"

บอยล์จับแขนเธอแน่นขึ้น เขามองเธอแล้วตอบ "ถ้าคุณยินดี คุณจะอยู่กับผมที่นี่ในฐานะคุณนายลอว์สัน"

เชอรีชสะบัดมือออกจากเขา "อย่ามาแตะต้องฉันนะ"

"เชอรีช..." เขาเรียกชื่อเธอ เขาเห็นว่าเธอรังเกียจเขาแค่ไหน เธอเอามือซุกไว้ในกระเป๋า

"เลิกเรียกชื่อฉันได้แล้ว บอยล์ ฉันให้ใจคุณไปครั้งนึง แต่คุณก็เหยียบย่ำมัน ตอนนี้มันได้ตายไปแล้ว ตอนนี้คุณมาอยู่ต่อหน้าฉัน แล้วยังกล้ามาบอกฉันว่าคิดถึงอีกเหรอ? คุณต้องการอะไรที่มาบอกว่าคิดถึงฉัน ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้?

เชอรีชน้ำตาคลอ เธอมองเขาด้วยความโกรธ

บอยล์พูดไม่ออก เขาไม่รู้จะพูดอะไรกับเธอ

เชอรีชหัวเราะ "ตอนที่คุณอยากเลิกกับฉัน คุณบอกให้ฉันเลิกตามตื๊อ และเลิกทำให้รำคาญสักที ตอนนี้อยากมาคืนดีกับฉัน มาบอกว่าคิดถึงฉันตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ และอยากให้เป็นคุณนายลอว์สัน"

"บอยล์ ลอว์สัน ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณจะจริงจัง หรือแค่เล่นกับความรู้สึกของฉัน มันจะเพิ่มความมั่นใจให้หรือไง ถ้าฉันตอบตกลง? มันก็จริงที่ฉันเคยรักคุณ และยอมลดตัวเองเพื่อคุณ ยอมทิ้งศักดิ์ศรีเพื่อขอร้องให้คุณไม่เลิกกับฉัน ต่อไปนี้ฉันจะไม่ให้ใครมาทำร้าย หรือเหยียบย่ำฉันอีก เพราะคุณมันไม่มีค่า"

บอยล์ตัวสั่น เขารู้ว่าเขาไม่เคยมีค่าสำหรับเธอ

เหมือนกับพวกเขาในอดีต เธอยังเป็นผู้หญิงที่น่าหลงใหล แต่ความเลียดชังที่เธอมีต่อเขานั้น ไม่ใช่เพราะเขาร่ำรวย ความผิดทั้งหมดยังเป็นของเขาคนเดียว

น้ำตาของเชอรีชเริ่มไหลลงมา เธอเช็ดน้ำตาและบอกเขา "ตอนนี้ฉันโตแล้วนะ บอยล์ ฉันจะไม่ให้คุณรังแกอีก และจะไม่ตกหลุมรักคุณอีก"

บอยล์รู้สึกปวดใจเมื่อเห็นเธอร้องไห้ เขาอยากกอดเธอแต่ไม่กล้าขยับเข้าไปใกล้เธอ เพราะเขารู้ว่าทำแบบนั้นแล้วเธอจะยิ่งหนีไป

พายุพัดกระหน่ำอย่างรุนแรงภายในใจของบอยล์ เขาเสียใจเหลือเกิน

เชอรีชสูดลมหายใจเข้า เธอกลั้นเสียงสะอื้น "ให้มันจบตรงนี้เถอะ บอยล์ เราไม่ควรพบกันอีก หวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะได้เห็นคุณอีก"

ทันทีที่เธอพูดจบ เธอเปิดประตูรถและถอดเสื้อโค้ทออกก่อนจะคืนให้เขา เธอจากไปโดยไม่หันหลับมามอง

บอยล์มองเธอจากในรถ แววตาของเขาดูไร้ชีวิต

เธอโตขึ้นแล้วจริง ๆ เธอคงไม่ตกหลุมรักเขาอีกแล้ว

แต่เขาก็ไม่สามารถห้ามความรู้สึกข้างในที่มีต่อเธอได้

เชอรีชสงบใจเมื่อเธอมาถึงทางเข้าคฤหาสน์ตระกูลฟัดด์ เธอไม่อยากให้คนในครอบครัวมาเห็นสภาพของเธอในตอนนี้ และไม่อยากให้รู้ว่าเธอได้เจอบอยล์อีก

ชื่อของบอยล์เป็นคำต้องห้ามในครอบครัวของเธอ เมื่อสองสามปีที่ผ่านมานี้

บอยล์ยังขึ้นบัญชีดำในใจของเชอรีช เธอเคยพยายามเผชิญหน้ากับบาดแผลในใจครั้งหนึ่ง เพื่อทำให้ดีขึ้น แต่ทุกครั้งที่เธอพยายามทำแบบนั้น มักจะจบลงด้วยการร้องไห้ บาดแผลจึงยังอยู่ในใจเธอ เธอยังก้าวข้ามบาดแผลในใจไม่ได้

นักจิตวิทยาบอกเธอว่า ถ้าเธอเผชิญหน้ากับปัญหาไม่ได้ ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงมัน เพื่อให้รู้สึกดีขึ้น เธอต้องเปิดแผลที่อาจทำร้ายเธออีกเป็นครั้งที่สอง

เธอเชื่อนักจิตวิทยาและไม่เผชิญหน้ากับมันอีก เธอหลีกเลี่ยงปัญหามาตลอด

การรักษาประสบความสำเร็จหลังจากเวลาผ่านไป เธอคิดว่ามันไม่ได้ทำร้ายเธออีกแล้ว เธอเลิกสนใจข่าวที่เกี่ยวข้องกับบอยล์ในสหรัฐอเมริกาหลังจากนั้น ดูเหมือนว่าบอยล์จะหายไปจากชีวิตของเธอ เธอรู้สึกมีอิสระและได้ปลอดปล่อยระหว่างการพักฟื้น เธอไม่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับหลังจากนั้น

แต่การที่ได้มาเจอกับเขาอีกในคืนนี้ เหมือนทิ้งหินก้อนใหญ่ลงมาทับเธอ ทำให้ความรู้สึกข้างในหลั่งไหลออกมา เธอทำใจให้สงบไม่ได้เป็นเวลานาน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน