แยนนี่ถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ที่ล็อบบี้ของโรงแรมมานานกว่า 20 ชั่วโมง ตอนนี้เธอรู้สึกหวาดกลัวจนสุดขั้วหัวใจ
เด็กแอฟริกันที่อยู่ใกล้ ๆ เธอหวาดผวาจนน้ำใสๆ เอ่อคลอตากลมแป๋วและทำท่าจะร้องไห้ออกมา แยนนี่รีบปิดปากเล็กๆ นั้นไว้ทันทีเพราะเธอกลัวว่าเสียงเด็กร้องไห้จะไปกระตุ้นให้ผู้ก่อการร้ายหงุดหงิดจนยิงเด็กเสียชีวิตได้
แยนนี่นั่งยองๆ ที่มุมหนึ่งขณะที่เธอชำเลืองมองไปที่ชายชาวแอฟริกันสี่คนที่ใบหน้าของพวกเขาถูกพันด้วยผ้าพันคอสีดำ พวกเขาแต่ละคนถือปืนไรเฟิลจู่โจมไว้ในมือคอยจับตาดูตัวประกันอย่างใกล้ชิดและคอยตรวจตราทุกการเคลื่อนไหวภายนอกโรงแรมด้วยใบหน้าถมึงทึงน่ากลัว
มีทีวีจอพลาสมาติดอยู่ที่ผนังในล็อบบี้หลัก ข่าวท้องถิ่นกำลังออกอากาศและรายงานเกี่ยวกับการโจมตีของผู้ก่อการร้าย
แต่ถึงอย่างนั้นแยนนี่ก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตำรวจท้องที่เพราะยังไม่มีการส่งเจ้าหน้าที่มาสักคน เพราะเหตุนี้ทำให้ตัวประกันทุกคนประหม่าและตกอยู่ในความวิตก
เจ้าของโรงแรมไม่ใช่คนพื้นเมือง เขาถูกลากออกไปและถูกสอบปากคำโดยกลุ่มผู้ก่อการร้าย
แยนนี่ไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่พวกเขากำลังพูดเพราะพวกเขากำลังพูดกันด้วยภาษาคอยซันที่เป็นภาษาท้องถิ่น
ราโมนาขยับเข้าไปใกล้และกระซิบกับแยนนี่ "ฉันคิดว่าพวกเขากำลังคุยกันว่าจะจัดการกับตำรวจอย่างไรดี พวกเขายังพูดถึงการเรียกค่าไถ่จากครอบครัวตัวประกันและวางแผนจะโจมตีชุมชนขนาดใหญ่เพื่อให้พวกตำรวจไร้น้ำยาแตกตื่นว่าจะทำอย่างไรต่อไป”
ขณะที่ราโมนาตั้งใจฟังการสนทนาของพวกเขา จู่ๆ เธอก็ขมวดคิ้วและพูดว่า "ไม่ พวกเขาตัดสินใจที่จะระเบิดสถานที่แห่งนี้"
หัวใจของแยนนี่เต้นรัวเมื่อเธอรู้ว่าคนกลุ่มนี้ไม่ใช่อันธพาลธรรมดา เนื่องจากแรงจูงใจของพวกเขาไม่ใช่เพื่อปล้นเอาเงินแต่เป็นการเรียกความสนใจ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาระเบิดโรงแรมนี้ทิ้งซะ
ในตอนแรกผู้ก่อการร้ายลากเจ้าของโรงแรมออกไปข้างนอกเพื่อพูดคุยเท่านั้น แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็ยกปืนขึ้นจ่อศีรษะเจ้าของโรงแรมในระยะเผาขนแล้วเหนี่ยวไกปลิดชีพเขาทันที
หลังเสียงปืนดังลั่นตัวประกันในล็อบบี้เริ่มกรีดร้องก่อให้เกิดความโกลาหลอีกครั้ง
แยนนี่พยายามตั้งสติวิเคราะห์สถานการณ์อย่างมีเหตุผล เธอบอกว่า "ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเขาจะฆ่าพวกเราทีละคน นี่ ราโมนา มีวิธีใดที่คุณสามารถเบี่ยงเบนความสนใจของผู้ก่อการร้ายได้บ้าง"
กิเดียนชำเลืองมองชายชาวแอฟริกันรูปร่างสูงใหญ่ที่อยู่ด้านนอก "พวกเขามีปืนอยู่ในมือทุกคน ถึงแม้ว่าเราจะบุกออกไปก็จะถูกยิงตายก่อนที่จะได้หันเหความสนใจน่ะสิ วิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลหรอก"
แยนนี่จ้องเขม็งไปที่ผู้ที่ลักพาตัวด้านนอกด้วยสายตาเฉียบคมและพูดว่า "ฉันคิดว่าผู้ก่อการร้ายพูดภาษาอังกฤษได้ แล้วถ้าเราสามารถเจรจากับพวกเขาได้ล่ะ?"
ราโมนาตาโตจ้องไปที่แยนนี่ก่อนจะรีบสวนว่า "คุณบ้าหรือเปล่า?! เท่าที่ฉันรู้พวกมันบ้าทั้งนั้นและถ้าหากคุณไปเจรจาข้อตกลงกับพวกมันคงไม่พ้นลงเอยแบบเจ้าของโรงแรมน่ะสิ พวกหัวรุนแรงอย่างมันคุ้มคลุ่งได้ง่ายมาก ดังนั้นอย่าคิดอะไรไร้เดียงสาขนาดนั้นแยนนี่”
“แต่สุดท้ายแล้วเราก็จะถูกยิงตายเช่นกันถ้ามัวแต่นั่งอยู่ที่นี่และไม่ทำอะไร ดูสิ ถ้ามีใครในหมู่พวกเราที่จะกล้าเข้าไปเจรจาต่อรองกับพวกเขา เราอาจจะซื้อเวลาให้ตำรวจท้องที่มาช่วยชีวิตเราได้”
แยนนี่กำลังจะลุกขึ้นหลังจากที่เธอพูดจบ แต่ราโมนารีบคว้าแขนของเธอไว้ทันที "มันอันตราย แยนนี่!"
แยนนี่จับมือของราโมนาและจ้องมองเธออย่างแน่วแน่ "เชื่อฉันเถอะ ถ้าฉันไม่ไปจะไม่มีใครทนอยู่ได้จนกว่าความช่วยเหลือจะมาถึง"
"ฉันจะไปกับคุณ!"
ทั้งแยนนี่และราโมนายืนขึ้นตรงล็อบบี้และเดินไปที่ทางออก
ผู้ก่อการร้ายที่ยืนอยู่ข้างประตูเล็งปืนมาที่พวกเขาทันที
แยนนี่ถามพวกเขาเป็นภาษาอังกฤษว่า "พวกคุณเข้าใจภาษาอังกฤษไหม? เราไม่ได้จะพยายามหนี เราแค่ต้องการเจรจากับคุณ"
ผู้ก่อการร้ายมองหน้ากันก่อนจะหันกลับมามองผู้หญิงสองคนที่ดูอ่อนแอและไร้หนทางก่อนจะระเบิดอารมณ์ด้วยความโกรธ "อย่ามาตุกติก! เดี๋ยวก็ยิงทิ้งซะหรอก! ยกมือขึ้น!"
ราโมนาคว้ามือของแยนนี่อย่างกระวนกระวายในขณะที่ฝ่ามือเย็นๆ ของทั้งสองจะชุ่มไปด้วยเหงื่อ
แยนนี่พยายามควบคุมสติเธอยกมือขึ้นพร้อมๆ กับราโมนา
ผู้ก่อการร้ายจึงสั่งพวกเขาว่า "มานี่!"
ทั้งคู่รู้สึกเหมือนกำลังเหยียบแผ่นน้ำแข็งบางๆ ขณะที่พวกเขายกแขนขึ้นช้าๆ ไปหาผู้ก่อการร้าย
ผู้ก่อการร้ายหัวเราะเยาะพวกเธอทั้งสองคนก่อนจะพูดว่า "เจรจางั้นเหรอ? พวกแกจะเอาอะไรมาเจรจา? ไม่รู้หรือไงว่าตอนนี้พวกฉันคือพระเจ้า? แค่เหนี่ยวไกก็ส่งพวกแกไปลงนรกได้แล้ว! แล้วแบบนี้ยังคิดว่าจะต่อรองกับพระเจ้าได้หรือไง? ฝันไปเถอะ!"
พอพูดจบผู้ก่อการร้ายทั้งหมดก็ระเบิดหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งและน่าขนลุก
แยนนี่สูดหายใจเข้าลึก ๆ และในขณะที่เธอกำลังจะพูด ผู้ก่อการร้ายคนหนึ่งก็ถูกยิงที่ศีรษะจากด้านหลังและล้มลงบนพื้นทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน