แยนนี่ติดต่อตัวแทนของซิงกูลาริตี้ วิดส์และจัดการเก็บเงินทุนสำหรับการทำซีรีส์ บีไว้อย่างปลอดภัย
ก้าวที่สองของการพัฒนาของบริษัทแสดงให้เห็นการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ซิงกูลาริตี้ วิดส์ ลงทุนกว่า 100 ล้านเหรียญ แล้วกลายเป็นผู้ลงทุนรายให้กับมูฟมีเดีย
แต่แยนนี่ยังไม่หยุดแค่นั้น เธอไม่หลับไม่นอนทั้งคืนเพื่อค้นคว้าข้อมูลแล้วทำรายชื่อหนึ่งขึ้นมา รายชื่อพวกนั้นคือหนังสือที่ได้รับความนิยมอยู่ในตอนนี้ หนังสือพวกนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่เธอหาข้อมูลแล้วพบว่ามันยังไม่มีบริษัทสื่อไหนซื้อไปเพื่อทำการตลาด
เช้าวันต่อมา แยนนี่ส่งรายชื่อหนังสือทั้งหมดให้กับการผู้จัดการฝ่ายลิขสิทธิ์ แล้วพูดกำชับ "คุณต้องต้องซื้อลิขสิทธิ์หนังที่ไฮไลท์สีแดงเอาไว้ในนี้มาทั้งหมดให้ได้นะ ส่วนค่าลิขสิทธ์ อาจสูงกว่าราคาตลาดทั่วไปนิดหน่อย ตราบใดที่ราคาไม่สูงจนเกินไป ให้คุณลดค่าใช้จ่ายสำหรับพวกหนังสือนิยายได้เลย แต่ถ้ามีเจ้าอื่นจะมาแย่งแนวแฟนตาซียุคกลาง ให้เพิ่มราคาเท่าที่เห็นสมควร แต่ถ้าเขาให้ราคามาสูงมากเกินไป ก็ช่างมัน ไปซื้อผลงานลิขสิทธิ์อื่น ๆ ที่ได้รับกระแสแทน"
ผู้จัดการลิขสิทธิ์การเผยแพร่กวาดสายตาดูรายชื่อหนังสืออย่างไว แล้วพูดขึ้น “บอสคะ มีข่าวเมื่อเช้านี้ว่าลิขสิทธิ์ของเรื่องการเดินทางของเด็กชายถูกสำนักพิมพ์ของจินน์ กรุ๊ปซื้อไปแล้วค่ะ”
แยนนี่ไม่ทันได้ตั้งตัว เธอไม่คิดว่าจินน์กรุ๊ปจะตัดหน้าเธอเร็วขนาดนี้ เธอขมวดคิ้วแล้วตอบ “ถ้างั้นเราต้องรีบแล้ว ไปเจรจาสัญญาขอลิขสิทธิ์กับเจ้าของทันที ฉันจะติดต่อผู้อำนวยการเฮย์สแห่งเพอรูเซิลกรุ๊ป”
“ได้ค่ะ”
แยนนี่โทรหาผู้อำนวยการเฮย์ส เพอรูเซิลกรุ๊ป ระหว่างที่เธอกำลังไปห้องทำงาน เมื่อปลายสายรับโทรศัพท์ แยนนี่ทักทายด้วยความสุภาพ “ผู้อำนวยการเฮย์ส ฉันลินน์ แฟรงค์จากมูฟมีเดียค่ะ คุณยังจำเรื่องที่เราคุยกันเกี่ยวกับการร่วมงานชุดหนังสือนิยายดังของเราได้ใช่ไหมคะ?”
ณ ปลายสาย ผู้อำนวยการเฮส์ยไอกระแอม เหมือนเขาพยายามจะปกปิดบางอย่าง “ฉันขอโทษนะ แต่ลิขสิทธิ์ชุดหนังสือนิยายดังของเราถูกขายให้กับจินน์กรุ๊ปไปแล้ว ผู้อำนวยการแฟรงค์ คุณช้าไปแค่นิดเดียวเอง ”
แยนนี่แอบกัดฟันกรอดแล้วพยายามข่มอารมณ์ให้เย็นลงมากที่สุด แล้วตอบ “ไม่เป็นไรค่ะผู้อำนวยการเฮย์ส ข้อตกลงอาจหายไปแต่เราก็ยังคุยกันได้นะคะ ฉันหวังว่าเราจะได้ร่วมงานกันในอนาคตค่ะ”
เธอได้ยินเสียงยุ่ง ๆ จากอีกฝั่ง
ก่อนคู่สนทนาของเธอจะตัดสายไป
แยนนี่วางมือถือลงแล้วนวดบริเวรขมับ เธอรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย
ถ้าเธอไม่จ้างพนักงานทั้งหมดด้วยตัวเอง เธอคงสงสัยว่าจินน์กรุ๊ปจะส่งคนมาแฝงตัวอยู่ในบริษัทของเธอ
แต่พอมาคิดดูอีกที เชนน์เป็นคนฉลาดและหลักแหลมอยู่ไม่น้อย เขาต้องรู้สถานการณ์ในบริษัทของเธอตอนนี้แน่ และคงรู้ว่าเธอกำลังเล็งซื้อลิขสิทธิ์นวนิยายพวกนั้นด้วยต้นทุนที่ีอันน้อยนิดเพื่อจะพัฒนาให้กลายเป็นโปรเจคที่ทำกำไรได้
จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงซื้อลิขสิทธิ์เรื่องที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ตัดหน้าเธอเหรอ
นี่เขาจะไล่บีบเธอไปจนตายเลยหรือไง?
แยนนี่นั่งเหม่อสักพัก แล้วรีบดึงสติกลับมา เธอมุ่งหน้าไปหาทีมดูแลลิขสิทธิ์แล้วว่า “ไม่ต้องติดต่อกับเจ้าของลิขสิทธิ์หนังสือแล้ว ติดต่อสถานีโทรทัศน์แล้วขอรายชื่อเอาท์ซอร์สจากรายการวาไรตี้มาให้หมด ติดต่อให้มากเท่าที่จะมากได้ เดี๋ยวฉันจะไปคุยกับบอสของชาร์ปทีวี เพื่อหารือเรื่องลิขสิทธิ์สำหรับรายการอินเทิร์น”
ผู้ช่วยกีกิเหลือบมองเวลาแล้วพูด “บอสคะ หกโมงเย็นแล้ว นัดทานข้าวกับบอสของทางชาร์ปทีวีคือตอนหนึ่งทุ่มครึ่ง เราควรไปกันได้แล้วค่ะ”
แยนนี่พยักหน้า “ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
แยนนี่หยิบตราประทับของบริษัทใส่ลงในกระเป๋า คืนนี้เธอจะต้องได้ลิขสิทธิ์รายการวาไรตี้อินเทิร์น ไม่ว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ก็ตาม
รายการวาไรตี้นี้คือรายการที่ได้รับลิขสิทธิ์จากทางเกาหลี ตั้งแต่ชาร์ปทีวีที่ได้ลิขสิทธิ์รายการนั้นมา พวกเขาก็กำลังมองหาบริษัทผลิตสื่อที่เหมาะในการถ่ายทำ แต่พวกเขายังหาบริษัทที่ให้ข้อเสนอดี ๆ กับพวกเขาไม่ได้ และบังเอิญ แยนนี่รู้จักกับบอสแห่งชาร์ปทีวีเพราะเธอเคยไปเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้พวกเขาอยู่ครั้งหนึ่งตอนที่เธอยังเป็นนักแสดง จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้อำนวยการของชาร์ปทีวีอย่างยาร์โบโรห์ถึงเคารพและชื่นชมในตัวแยนนี่
ในอดีตแยนนี่เคยทำงานกับผู้อำนวยการยาร์โบโรห์ อยู่หลายครั้ง เขาชอบความบันเทิงเวลาทานมื้อคํ่าและยังเป็นนักดื่มตัวยงอีกด้วย
แยนนี่นําขวดยาจากลิ้นชักพร้อมยัดยาแก้เมาค้างสองเม็ดเข้าปาก
ถึงเธอจะไม่ใช่พวกประมาทเวลาต้องดื่มแอลกอฮอล์ แต่เธอไม่ใช่คนที่สามารถดื่มอย่างต่อเนื่องเพราะเธอเป็นชาวนาร์ท ถ้าไม่ได้กินยาแก้เมาค้างไว้ล่ะก็เธอคงไม่สามารถดื่มกับเขาได้
แยนนี่ขับรถเข้าไปและเดินไปยังห้องส่วนตัวของบันยัน ทรี วิลล่า
เธอมาถึงก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง ก่อนที่บอสของชาร์ปทีวีจะมาถึงห้องส่วนตัวด้วยทาทีผ่อนคลาย
แยนนี่สงบเสงี่ยมอารมณ์ เธอยืนขึ้นต้อนรับเขา ส่งยิ้มแล้วพูดติดตลก “ผู้อำนวยการยาร์โบโห์ คุณทำให้ฉันรอพักใหญ่เลยนะคะ ฉันคิดว่าคุณจะมาไม่ได้ซะแล้ว และฉันคงดูน่าเวทนานาดูที่อุตส่าห์หอบตราประทับบริษัทมาถึงที่นี่”
ผู้อำนวยการยาร์โบโรห์ชี้แยนนี่แล้วพูดขบขันแต่ก็แฝงความจริงจังอยู่ในนั้น “แยนนี่ ฉันไม่ได้เจอเธอนานเลย นี่เธอกลายเป็นคนลูกเล่นเยอะขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย? เธอเอาตราประทับมาแต่ฉันไม่ได้เอาสัญญามาด้วยนะ ฉันมาที่นี่กะจะทานอาหารสานมิตรภาพระหว่างเราเท่านั้นเอง คืนนี้…ไม่พูดเรื่องธุรกิจ”
แยนนี่ยังคงทำตัวสบาย ๆ พอเห็นว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด เธอพูดพูดขึ้น “ได้ค่ะ ในเมื่อผู้อำนวยการยาร์โบโรห์ไม่อยากคุยเรื่องธุรกิจ ก็ไม่ต้องคุยค่ะ”
แยนนี่เรียกพนักงานเสริฟในห้อง “ช่วยเอาเหล้ามาให้ฉันห้าขวดนะคะ ผู้อำนวยการยาร์โบโรห์ คุณอยากดื่มอะไรคะ?”
ผู้อำนวยการยาร์โบโรห์ยิ้มกริ่ม แล้วว่า “ห้าขวดมันน้อยไป เอาสิบไปเลย เอาวอดก้าห้าขวด วิสกี้อีกห้าขวด เราจะเอามาผสมกัน”
เหล้าสิบขวด…เขามันนักดื่มตัวจริง
แยนนี่กัดฟันกราม แสงวาบนัยตาสะท้อนชั่วขณะ เธอยิ้มบางและพูดกับพนักงานเสริฟ “เอาเหล้าให้เราสิบขวด วอดก้าห้าขวดและวิสกี้อีกห้าขวด ขอแบบแรงที่สุดนะคะ”
ในที่สุดผู้อำนวยการยาร์โบโรห์ถามอย่างอารมณ์ดี “เธอนี่นะ เป็นนักแสดงดี ๆ ก็ดีอยู่แล้ว ทำไมถึงอยู่ ๆ ถึงอยากหันมาเป็นลูกหนี้ซะล่ะ?”
“ในฐานะนักแสดง ฉันได้รับความกรุณาจากนักลงทุนใหญ่อย่างผู้อำนวยการยาร์โบโรห์เสมอมา แต่ฉันยอมเป็นลูกหนี้เพื่อได้บ่มเพาะคนเก่ง ๆ ในขณะเดียวกันฉันก็ชอบการได้สร้างสรรค์งานใหม่ ๆ การย้ายมาอยู่เบื่องหลังเป็นการตัดสินใจที่ฉันคิดมาดีแล้ว แต่บริษัทของฉันยังเล็กอยู่มาก ฉันมีผู้คนมากมายที่รอให้ฉันบ่มเพาะพวกเขา ฉันยังคงต้องพึ่งพาผู้อำนวยการยาร์โบโรห์ในอนาคตค่ะ”
ผู้อำนวยการยาร์โบโรห์โบกมือปัด “ฉันได้ยินว่าบริษัทของผู้อำนวยการจอยเองเพิ่งจะทำข้อตกลงกับซิงกูลาริตี้วิดส์นี่ ซิงกูลาริตี้วิดส์เป็นคู่แข่งต้น ๆ ของชาร์ปทีวีเลยนะ ได้ทำข้อตกลงกับที่นั้นแล้วทำไมผู้อำนวยการจอยถึงบอกว่าบริษัทของตัวเองยังเล็กอยู่อีกล่ะ? ถ้ามีซิงกูลาริตี้เป็นผู้สนับสนุน บริษัทของเธอก็หายห่วง”
แยนนี่มองตํ่าลงแล้วฝืนยิ้ม ผู้อำนวยการยาร์โบโรห์เป็นคนที่น่ารักเสียจริง
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น แยนนี่ประกาศด้วยความกล้า “พวกเราต่างก็ทำธุรกจิกกัน คนที่ต้องการจะลงทุกคนก็ต่างก็พิจารณาจาก‘ผู้อุปถัมภ์’ ถ้าผู้อำนวยการยาร์โบโรห์อยากจะช่วยบริษัทเล็ก ๆ ของฉันในการให้ทุนทำซีรีส์ ซี ก็ถือว่าคุณเป็นผู้อุปถัมภ์ของฉันนะคะ”
การพูดของเธอเหมือนกับนักธุรกิจไฟแรง แต่ในความอวดดีของเธอนั้นยังแฝงความสุขุมลุมลึกดุจสายนํ้า
ผู้อำนวยการยาร์โบโหร์ถอนหายใจแล้วพูดขึ้น “แยนนี่ ฉันล่ะนับถือเธอจริง ๆ ในฐานะนักแสดง เธอมีเป้าหมายและตั้งใจ หรือแม้แต่ในฐานะนักธุรกิจ เธอยังมีความกล้าจะเอ่ยขอ แต่กับธุรกิจนี้…”
ผู้อำนวยการยาร์โบโรห์พยายามจะพูดกวนเธอ แต่เธอไม่เล่นด้วย “ผู้อำนวยการยาร์โบโรห์คะ คืนนี้เราจะไม่พูดเรื่องธุรกิจ คุณพูดเอง ดื่มกันเถอะค่ะ!”
ไม่นาน พนักงานก็นำเหล้าสิบขวดมาเสิร์ฟให้ วอดก้าห้าขวดและวิสกี้อีกห้าขวด ในระดับแอลกอฮอล์เต็มพิกัด
ถ้าพวกเขาผสมมันด้วยกันแล้วดื่มจริง เธอเกรงว่าคงได้ไปจบที่โรงพยาบาลแน่
แยนนี่เทวิสกี้ลงสิบแก้วช็อตแล้วกล่าว “ผู้อำนวยการยาร์โบโรห์คะ ฉันอยากจะได้ลิขสิทธิ์รายการอินเทิร์นจริง ๆ ฉันถึงกับว่าจ้างผู้กำกับและนักเขียนบทฝีมือดีที่สุดในอุสาหกรรมด้วยราคาสูงลิ้วเลยนะคะ ฉันไม่รู้ว่าบริษัทอื่นจะจริงใจกับคุณแค่ไหน แต่ความจริงใจของฉันคือการดื่มในคํ่าคืนนี้ให้กับคุณค่ะ”
แยนนี่ไม่พูดมากหลังจบ เธอกระดกแก้วช็อตในคราวเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน