3ปีต่อมา, ณ.สนามบินนอร์ท ซิตี้, ขณะนี้กำลังมีการแพร่ภาพข่าวภายในห้องโถงใหญ่
“ข่าวการเงินล่าสุดของนอร์ท ซิตี้ : โครงการของฟัดด์ ได้กว้านซื้อที่ดินบริเวณริมถนนนาวี และกำลังวางแผนที่จะสร้างศูนย์รวมความบันเทิงขนาดใหญ่ขึ้น ในพื้นที่มีรายงานว่าบริเวณถนนนาวี รายล้อมรอบไปด้วยย่านพื้นที่การค้า การรื้อถอนดำเนินไปได้ยาก เนื่องจากบ้านพักที่อยู่อาศัย เป็นตึกสูงจำนวนมากในพื้นที่ วันนี้เราได้รับเกียรติให้ได้สัมภาษณ์ผู้บริหารระดับสูงของฟัดด์ กรุ๊ปคุณฮีลตัน ฟัดด์ มาดูกันว่าเขาจะสามารถแก้ไขปัญหานี้อย่างไรกันบ้าง”
เวอเรียน มอนท์ ทันทีที่เธอลงจากเครื่องบิน สายตาของเธอถูกดึงดูดด้วยจอภาพขนาดใหญ่ที่อยู่ภายในห้องโถงทันที
ชายในชุดสูทสีเทา สวมใส่เนคไทสีดำปรากฏขึ้นบนหน้าจอ เขามีผิวที่เรียบเนียนละเอียด ผิวที่สมบูรณ์อย่างไร้ที่ติ เปรียบได้ดั่งผิวดั่งพอร์ซเลนชั้นดี ใบหน้าหล่อเหลาของเขานั้นดูแล้วไม่อาจละสายตา กลิ่นอายความเยือกเย็นของเขานั้นยากที่จะลืม
มือทั้งสองข้างของเขาสอดประสานกันวางอยู่บนตัก เขาดูสงบนิ่งเมื่อหันหน้าเข้ากล้อง รอยยิ้มจาง ๆ ผุดขึ้นทั่วริมฝีปากบางของเขา “จะไม่มีผู้คนรู้สึกว่าพวกเขามีเงินมากเกินไป เช่นเดียวกับผู้คนที่พักอาศัยอยู่ในย่านที่ร่ำรวยแห่งนี้ หากมีเงินก็สามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่ถ้าหากไม่สามารถแก้ไขได้แสดงว่าจำนวนเงินยังมีไม่มากพอ
แววตาของพิธีกรเปล่งประกายด้วยความชื่นชมและประหลาดใจ พิธีกรยิ้มอย่างสุภาพและถามว่า “ถ้าคุณไม่รังเกียจและไม่เป็นการเสียมารยาท ดิฉันขอถามท่านประธานฟัดด์หน่อยนะคะว่า จะต้องใช้เวลานานแค่ไหน ในขั้นตอนการรื้อถอนที่ซับซ้อนและมีขนาดใหญ่โตนี้จะเสร็จสมบูรณ์
ชายคนนั้นจ้องมองตรงไปที่กล้องด้วยสายตาที่เฉียบคมและแสนฉลาด เขาพูดว่า “ทางฟัดด์ จะทำการตกลงและจัดการกับผู้อยู่อาศัยทั้งหมด และดำเนินการรื้อถอนให้เสร็จภายในหนึ่งสัปดาห์”
ฉากนั้นภาพถูกตัดออกจากการแสดงใบหน้าหล่อเหลา เป็นภาพถนนนาวี มันเป็นหายนะ ผู้อยู่อาศัยจำนวนมากได้ย้ายออกไปแล้ว และบ้านเรือนส่วนใหญ่ได้ถูกรถขุดรื้อถอนยับเยิน กลายเป็นซากปรักหักพัง
เบื้องหลังดวงตาของเวอเรียนที่แสดงประกายสั่นสะท้านอย่างรุนแรง สายตาของเธอจับจ้องไปยังบ้านพักของครอบครัวมอนท์ที่ปรากฏบนหน้าจอ นั่นหมายความว่า บ้านพักของของครอบครัวมอนท์ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนนาวี ก็จะพังยับเยินเช่นกัน!
กล้องที่กำลังสั่น แสดงให้เห็นว่านักข่าวโยกกล้องไปหยุดอยู่ที่ผู้หญิงวัยกลางคน ที่ดูร่ำรวยและทันสมัยคนนั้น ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า “คุณชีนคะ ฉันได้ยินมาว่า คุณเป็นเจ้าของบ้านพักแห่งนี้ คุณตกลงราคาแล้วก็เงื่อนไขกับคุณฟัดด์ เรียบร้อยแล้วใช่มั้ยคะ?”
ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ควีนน่า ชีนแม่เลี้ยงของเวอเรียน
ควีนน่า ชีน หล่อนยิ้มให้กล้องและกล่าวว่า “ทางฟัดด์ กรุ๊ป เสนอเงินจำนวนมากให้กับเรา ดังนั้นเราจึงไม่จำเป็นที่จะต่อต้านการตัดสินใจของพวกเขา เราจะเก็บข้าวของแล้วเอากุญแจให้พวกเขา และเตรียมขนย้ายกันภายในวันนี้”
ข้อนิ้วมือของเวอเรียนเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด ขณะที่เธอโอบกอดอัฐิที่ถูกมัดแน่นไว้ด้วยผ้าไหมสีดำ
ดวงตาของเต็มไปด้วยความเมินเฉย สามปีที่แล้วเธอกลับบ้านไม่ได้ สามปีต่อมาไม่มีใครสามารถหยุดเธอ ไม่ให้พาพ่อของเธอกลับไปที่ครอบครัวมอนท์ได้เช่นกัน
ที่นั่นไม่ได้เป็นเพียงบ้านพักในย่านที่ที่ดีที่สุดเท่านั้น เป็นมันคือสิ่งที่ยึดเหนี่ยวสุดท้ายของพ่อของเธอ
เวอเรียนกำหมัดไว้แน่น เธอลากกระเป๋าเดินทางออกจากสนามบินอย่างรวดเร็ว
ในเดือนมิถุนายน, ท้องฟ้าสดใสในนอร์ทซิตี้ ดูแตกต่างจากค่ำคืนที่หนาวเหน็บ เมื่อตอนที่เธอออกจากเมืองครั้งแรก
เธอเงยหน้าขึ้นมองดวงอาทิตย์ที่แผดแสงแดดจ้า จากนั้นก็กอดอัฐิเอาไว้
'พ่อ, หลังจากสามปีผ่านไป หนูพาพ่อกลับมาบ้านแล้วนะคะ’
รถคันหนึ่งบีบแตรใส่เธอ และเจ้าของเสื้อโปโลสีขาวก็ยื่นหัวออกไปนอกหน้าต่างรถ โบกมือให้เวอเรียนอย่างตื่นเต้น “เรนนี่, ทางนี้!!”
มุมปากของเวอเรียนยิ้มขึ้น เธอลากกระเป๋าเดินทางแล้วรีบเดินไปที่รถ กวินนี่ เยลเลน หล่อนทำท่าล้อเลียนเวอเรียนทันทีที่เธอเดินเข้าไปและถอดหมวกออก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน