วิลสันกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ เซรีนสวมรองเท้าสลิปเปอร์ของโรงแรมในขณะที่ถือกระเป๋าของเธอ จากนั้นเธอก็แอบออกไปจากโรงแรมไปอย่างเงียบ ๆ
เมื่อเธอออกมาจากโรงแรม เธอถอนหายใจยาว ๆ ก่อนจะทรุดตัวลงบนม้านั่งในสวนที่อยู่ใกล้ ๆ กับโรงแรม ดูราวกับว่าเธอสูญเสียจิตวิญญาณไป
เมื่อนึกถึงสิ่งที่วิลสันบอกกับเธอก่อนหน้านี้ เธอไม่รู้ว่าจะเชื่ออะไรดี
สิ่งหนึ่งที่เธอรู้อย่างแน่นอนคือถ้าวิลสันยังมาเจอเธออยู่ เธอก็จะไม่สามารถรั้งตัวเองไว้ได้อีกต่อไป เธอจะยอมแพ้ให้กับเขา...
เธอยึดมั่นในศีลธรรมของเธอมานานกว่า 20 ปี แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะไม่มีความหมายหลังจากที่เธอได้พบกับวิลสัน
โทรศัพท์ของเธอดังขึ้นอีกครั้ง มันคือแม่ของเธอ
แม่ของเซรีนดุเธอทางโทรศัพท์อยู่พักหนึ่ง แต่เธอก็ไม่ได้ตอบอะไรเลย จนกระทั่งหลังจากที่แม่ของเซรีนเหนื่อยที่จะสั่งสอนเธอ เธอจึงบอกกับแม่ของเธออย่างเศร้าสร้อยว่า เธอจะกลับบ้านทันที
เธอสวมรองเท้าสลิปเปอร์ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถขึ้นรถบัสที่มีผู้คนพลุกพล่านได้จริง ๆ ด้วยเหตุนี้ เธอจึงเรียกแท็กซี่แทน เมื่อรถแท็กซี่ออกจากโรงแรม วิลสันก็รีบวิ่งออกมาหาเธอในจังหวะเดียวกับที่แท็กซี่ขับผ่านเขาไปพอดี
เซรีนกอดกระเป๋าของเธอไว้ใกล้ ๆ กับเธอ ในขณะที่นั่งคอตกเธอคิดกับตัวเองว่า 'แค่ปล่อยมันไป'
เธอบอกตัวเองให้ลืมเรื่องของวิลสัน ผู้ชายคนนี้ไม่เคยเป็นของเธอเลยตั้งแต่แรกแล้ว
เธอมีความสุขมากในช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน เธอรู้สึกเหมือนฝันไปแต่ก็เหมือนจริงมากในเวลาเดียวกัน พวกเขามาจากสองโลกที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะเข้ากันไม่ได้
...
ณ คฤหาสน์ตระกูลฟัดด์ ที่เมืองนอร์ท ซิตี้
เวอเรียนชั่งน้ำหนักตัวเองบนเครื่องชั่งน้ำหนักหลังจากอาหารเย็น
น้ำหนักของเธอเพิ่มขึ้นถึง 50 กิโลกรัม
ช่วงนี้เธอจะชั่งน้ำหนักตัวเองทุวัน และสังเกตว่าเธอจะน้ำหนักขึ้นหนึ่งหรือสองปอนด์ทุกครั้งที่เธอชั่งเครื่องชั่ง
ก่อนที่เธอจะตั้งครรภ์ น้ำหนักของเธอยังอยู่ที่ประมาณ 92 ปอนด์มาทั้งปี แม้ว่ามันจะมีผันผวนบ้างก็ตาม แต่มันก็จะไม่เกิน 94 ปอนด์ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้น้ำหนักของเธอใกล้จะถึงเลขสามหลักแล้ว ในอัตรานี้ เธอเพียงแต่จะเพิ่มน้ำหนักต่อไปเรื่อย ๆ เท่านั้น
ฮีลตันกำลังอยู่กับเจลลี่ บีนที่กำลังทำการบ้านอยู่ เมื่อเขาหันกลับมา ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาก่อนหน้านี้ก็หายตัวไปแล้ว
“คุณพ่อ หนูอยากกินผลไม้ หนูทำการบ้านต่อหลังจากกินผลไม้ได้ไหม?” เจลลี่ บีนกระพริบตาให้เขาด้วยดวงตาบ่องแบ๊ว
ฮีลตันลูบหัวของเธอ และพูดว่า “หนูเพิ่งทานอาหารเย็นเสร็จ แล้วตอนนี้ทำไมหนูถึงอยากกินผลไม้อีกแล้วล่ะ? หนูต้องตั้งใจทำการบ้านนะ หยุดคิดเรื่องกินได้แล้ว”
เจลลี่ บีนทำเสียงคำราม และทำปากมุ่ย เธอหยิบดินสอด้วยมือเล็ก ๆ ของเธอ และเริ่มทำการบ้านต่อ ในขณะที่บ่นพึมพำว่า “มอนตี้ได้รับอนุญาติให้กินผลไม้หลังอาหารเย็นได้ คุณพ่อชอบลำเอียง”
“มอนตี้กำลังท้อง”
“ฮึ่ม”
“ทำการบ้านไปนะ พ่อจะกลับมาตรวจที่หลัง”
เจลลี่ บีนทำหน้าใส่เขา “ก็ได้ เข้าใจแล้วค่ะ!”
ฮีลตันเดินออกจากห้องเรียนของ เจลลี่ บีน และเขาก็เห็นเวอเรียนกำลังยืนอยู่บนเครื่องชั่งน้ำหนัก ในขณะที่กำลังเอาหัวชนกับกำแพง เธอดูทุกข์ใจ สายตาของเธอจับจ้องอยู่ที่ตัวเลขบนเครื่องชั่งน้ำหนัก
ฮีลตันเดินเข้าไปหาเธอ เขาเดินเข้าไปข้างหลังเธอ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สังเกตเห็นเขาเลยจนกระทั่งฮีลตันพูดขึ้นว่า “ตอนนี้คุณน้ำหนักเท่าไหร่แล้ว?”
ด้วยความตกใจ เวอเรียนจึงก้าวออก และลื่นล้มจากตาชั่ง เธอคงจะล้มลงถ้าฮีลตันไม่ได้อยู่ตรงนั่นเพื่อจับเธอไว้
ฮีลตันขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณดูประหม่านะ คุณไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า?”
สีหน้าของโกรธขึ้น เธอหันกลับมามองเขาก่อนจะตะคอกใส่ว่า “ทำไมจู่ ๆ คุณถึงมาโผล่ข้างหลังฉันล่ะ? คุณทำให้ฉันตกใจเกือบตาย!”
“ผมทำให้คุณตกใจยังไง?”
เวอเรียนกล่าวหาเขาว่า “คุณแอบดูน้ำหนักของฉัน!”
เขาเห็นทุกอย่างของเธอหมดแล้ว แต่เธอกลับกังวลว่าเขาจะรู้น้ำหนักของเธองั้นหรือ?
“ผมกอดคุณทุกวัน คุณไม่คิดหรือว่าผมจะรู้ว่าคุณมีน้ำหนักเท่าไหร่?”
ใบหน้าของเวอเรียนแดงในขณะที่เธอขมวดคิ้ว และคร่ำครวญว่า “มันเป็นความผิดของคุณทั้งหมด ตอนนี้ฉันจะไม่อ้วนขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ”
“ทำไมคุณถึงโทษผมว่าทำให้คุณอ้วนล่ะ?”
จินพูดถูกจริง ๆ ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด แม้แต่เรื่องเล็กน้อยก็สามารถกระตุ้นอารมณ์ของพวกเธอได้ตอนที่พวกเธออารมณ์ไม่ดี
“มันเป็นความผิดของคุณที่ทำให้ฉันท้อง…”
ฮีลตันพูดไม่ออก
ฮีลตันถอนหายใจเบา ๆ เขาเอื้อมมือออกไป และอุ้มเธอขึ้นไปที่เครื่องชั่งน้ำหนัก มองดูน้ำหนักของเธอ มันก็แค่ 50 กิโลกรัม
แม้แต่ลูกหมูก็ยังมีน้ำหนักมากกว่าเธอ แล้วมันมีอะไรให้กังวลล่ะ?
“คุณสามารถเพิ่มน้ำหนักได้อีก 10 ปอนด์”
เวอเรียนถามด้วยน้ำเสียงที่เวอร์เกินจริงว่า “10 ปอนด์? คุณแน่ใจงั้นเหรอ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน