หลังจากที่ทอมป์สันโยนศพเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์ รูบี้ก็รีบเข้าไปในนั้นด้วยเช่นกัน
เซรีนเอนตัวเข้าไปในห้องโดยสารหลัก ขณะที่เธอจ้องที่วิลสันด้วยดวงตาที่ฉ่ำน้ำของเธอ เธอเอื้อมมือออกไปและจับมือที่เรียวยาวและเย็นเล็กน้อยของเขา ขณะที่เธออ้อนวอน “วิลสัน จาร์เร็ต โปรดตอบฉันด้วย”
ซุกซ่อนอยู่ภายหลังเสียงที่นุ่มนวล และแข็งแกร่งมีนัยยะของความอ้อนวอนอยู่ สิ่งนี้ทำให้หัวใจของวิลสันเต้นระส่ำ
อย่างไรก็ตาม สายตาของชายผู้นั้นดูเย็นชาอย่างยิ่ง ในขณะที่เขาดึงมือเล็กๆ ของเธอออกไปอย่างช้า ๆ ขณะที่บอกเธอด้วยน้ำเสียงที่สงบว่า “กลับบ้านไปเดี๋ยวนี้ หยุดรอผม และช่วยแกล้งทำเป็นว่าเราไม่เคยพบกัน”
หยุดรอเขา? แกล้งทำเป็นว่าไม่เคยพบกัน…
ประตูห้องโดยสารปิดลงอย่างกะทันหัน ทิ้งเซรีนไว้ข้างนอกของอีกฝั่ง
ขณะที่เซรีนจ้องมองไปยังเฮลิคอปเตอร์ซึ่งอยู่เหนือศีรษะของเธอที่ค่อย ๆ ห่างออกไป และห่างออกไปจากเธอ น้ำตาของเธอก็ไหลลงมาจากหางตา
เขามาแล้วก็ไป
…
วิลสันผู้ซึ่งอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ลดสายตามองไปยังดาดฟ้าของโรงพยาบาลที่กำลังหดเล็กลง และโครงร่างเล็กนั้นก็ไม่เหลืออยู่อีกต่อไป ในอกของเขาคับแน่น มันรู้สึกเหมือนมีมืออันใหญ่โตจับยึดหัวใจของเขาไว้
รูบี้ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขาหัวเราะคิกคักอย่างเยาะเย้ย ขณะที่เธอพูดว่า “ใครกันที่ตอนนั้นบอกฉันว่าไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากเซรีน? นานแค่ไหนกัน ท้ายที่สุดยังไงนายก็จะเลิกกับเธอ? ปากของผู้ชายเนี่ยน้า แน่นอนว่าโกหกได้อย่างยอดเยี่ยม”
ขณะที่ทอมป์สันกำลังขับเฮลิคอปเตอร์อยู่ เขาก็คุยกับพวกเขา "วิลสัน นายคงไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองจะตายในเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? เพราะงั้น ทำไมนายไม่ตัดขาดจากผู้หญิงคนนั้นก่อนหน้านี้ล่ะ? นายยังคนเป็นนักฆ่าเลือดเย็นคนเดิมไหม ไวท์วูล์ฟ ที่พวกเรารู้จักน่ะ?"
ไวท์วูล์ฟเป็นโค้ดเนมของวิลสันในองค์กรไลท์
วิลสันยังคงเงียบตลอดเวลา เขาไม่ได้พูดคำใดออกมา
รูบี้เยาะเย้ยและกล่าวว่า “ฉันบอกนายแล้วว่านายจะไม่มีทางมีอนาคตกับเซรีนได้ เนื่องจากพวกนายทั้งคู่มาจากสองโลกที่แตกต่างกันมาก คนแบบเธอ สาวน้อยเชื่อฟังผู้เกิดในครอบครัวเล็ก ๆ มีอาชีพในอุดมคติเพื่อช่วยชีวิตคน แต่นายอยู่ในทางกลับกัน นายเหมือนคนขายเนื้อผู้ซึ่งมือทั้งสองข้างเปื้อนไปด้วยเลือด เธอช่วยชีวิตและนายเอามันไป พวกนายทั้งคู่มีชะตาที่เดินกันคนละทาง
ทอมป์สันไม่เห็นด้วยขณะที่พูด “รูบี้ เธอเป็นปีศาจขี้อิจฉา ถึงแม้พวกเราจะฆ่า แต่ผู้คนที่เราฆ่าเป็นพวกผู้ก่อการร้ายและคนไม่ดี สองสามชีวิตที่เราเอาไปจะช่วยโลก และชีวิตของคนมากมายจะปลอดภัย อาชีพของเราเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม โอเคไหม”
“นายพูดเหมือนมันฟังดูสูงส่งและยิ่งใหญ่เชียว นายซาบซึ้งกับคำที่ตัวเองพูดบ้างรึเปล่า?”
ทอมป์สันหัวเราะและกล่าว "พวกเราคือ ฮีโร่"
รูบี้เยาะเย้ย "ใช่ ที่ไม่มีชื่อนะ"
ทอมป์สันพูดไม่ออก
รูบี้ชำเลืองมองไปยังวิลสัน และคิดได้ว่าตัังแต่ต้นเขายังไม่ได้พูดสักคำเดียว "อาการป่วยในช่องท้องของนาย… พวกเราต้องดูแลมันจริง ๆ จัง ๆ หลังจากที่กลับไป ไม่งั้นนายอาจจะจบลงที่การตาย"
"ฉันรู้"
รูบี้กลืนน้ำลาย และอดที่จะถามไม่ได้ "บอกหน่อย นายไม่ได้เลิกกับเซรีนเพราะว่าตอนนี้นายรู้ตัวเลขวันของตัวเองแล้วใช่ไหม?”
วิลสันตอบเธออย่างสงบ “เธอไม่ได้พึ่งพูดไปเหรอว่า เธอและฉันเป็นคนที่มาจากโลกที่แตกต่างกันอย่างมากมายน่ะ? เพราะมันเป็นอย่างนั้น มันจะดีกว่าถ้าเราแยกกันโดยเร็วที่สุด ยังไงซะ มันก็จะเป็นการช่วยเราเป็นอย่างมากอยู่ดี”
ไม่ว่าอย่างไร รูบี้ก็โกรธจัด ขณะที่เธอพูด “วิลสัน จาร์เร็ต ดังนั้นนายก็เป็นคนที่เชื่อในโชคชะตา”
วิลสันหันหน้ามองออกไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืน ขณะที่พูดอย่างสงบ “ฉันหวังว่าเธอจะสามารถแต่งงานกับผู้ชายที่เหมือนกับฉันได้จริง ๆ ด้วยวิธีนั้น เธอจะได้จำฉันได้ตลอดไป อย่างไรก็ตามฉันก็กลัวเหมือนกันว่าเธอจะแต่งงานกับคนที่เหมือนฉันจริง ๆ”
เบาะแสของความเหงาปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่สงบของเขา
รูบี้สับสนเล็กน้อยเพราะอย่างนั้นเธอจึงถาม “ทำไม?”
วิลสันตอบกลับ “ถ้าคนนั้นเหมือนฉันจริง ๆ ถ้างั้นทำไมคนนั้นไม่เป็นฉันแทนล่ะ?”
รูบี้ตกตะลึง
…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน