ความรู้สึกโกรธและสับสนนั้นผสมปนกันไปหมด
ยาคอฟทนรูบี้ไม่ไหว เมื่อเธอยิ่งไปกระตุ้นอารมณ์เขามากขึ้นอีก
แม้ว่าเขาจะยังมึนงงเพราะเมา แต่เขาก็ยังเก่งกว่ารูบี้ ใช้เวลาไม่นานก่อนที่เขาจะเข้ามาข่มเหงรูบี้อีกครั้ง
เมื่อเขากำลังจะเข้ามาหารูบี้ เธอก็คว้าแจกันเซรามิกสีเขียวที่อยู่ข้างเธอ มาทุบศีรษะยาคอฟ
'เพล้ง!'
แจกันแตกละเอียดทันทีที่ทุบลงบนศีรษะยาคอฟ
ยาคอฟมึนเล็กน้อย เขายืนอยู่ตรงนั้นสักพัก แล้วเลือดสด ๆ ก็ค่อย ๆ ไหลลงมาจากศีรษะของเขา เลือดไหลลงหน้าผากและเปลือกตาของเขา
ยาคอฟหัวเราะเยาะ เขาไม่กล้าแม้แต่ยกนิ้วชี้ไปที่หญิงสาว เพราะเธอเป็นคนที่สำคัญที่สุดของใครบางคน สำคัญมากถึงขนาดที่เขายอมเสี่ยงชีวิตเพื่อเธอ
รูบี้ไม่มีความกลัวหรือแม้แต่ความลังเลเลย เธอหยิบมีดที่วางอยู่ข้างเธอ แล้วจี้ไปที่คอของเขาทันที
"พาฉันออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!"
"ถ้าผมไม่พาไปล่ะ?"
ปลายมีดที่แหลมคมขยับเข้าไปใกล้ลำคอของยาคอฟ และเฉือนเนื้อของเขา
น้ำเสียงของรูบี้เย็นชาและโหดเหี้ยม เธอจ้องหน้าและเตือนเขา "คุณจะลองก็ได้นะ"
"คุณรักเบลนมากขนาดนี้เลยเหรอ?"
"ความรักของฉันที่มีให้เบลนนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องที่ทำให้ฉันเกลียดมากที่สุด ก็คือการที่ขังฉันไว้ในกรงแบบนี้!"
ยาคอฟสูดลมหายใจเข้าแล้วถามเธอ "คุณไม่เคยคิดถึงผมแม้แต่ครั้งเดียว ตลอดปีที่ผ่านมานี้เลยเหรอ รูเบส?"
ท่าทางที่ยาคอฟมองรูบี้นั้น ทำให้รู้สึกว่ามีเสน่ห์มาก
รูบี้ไม่เคยให้ความหวังเขา เธอรู้ว่าพวกเขาทั้งสองคนจะไม่มีวันอยู่ด้วยกันได้ แม้ว่าเธอจะคิดถึงเขาครั้งหนึ่ง เธอก็ไม่มีเหตุผลที่จะให้เขารู้เรื่องนี้
เธอตอบออกมาแค่คำเดียวด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ไม่"
ยาคอฟหลับตา ดูเหมือนว่าเขาจะยอมแพ้ให้เธอแล้ว "ได้ ผมจะปล่อยคุณไป"
รูบี้จับยาคอฟไว้เป็นตัวประกัน เธอรีบหาทางออกไปจากคฤหาสน์ตระกูลเดรค
ฝนยังคงตกปรอย ๆ ตอนกลางดึก แต่รูบี้ก็ระวังตัวอยู่ตลอดเวลา
รูบี้เห็นแล้วว่าเขาเจ้าเล่ห์แค่ไหน หลังจากที่ใช้เวลาอยู่กับชายคนนี้แค่ไม่กี่วัน เธอตัดสินใจแล้วว่าต้องระวังเขาให้มากที่สุด
ในขณะที่เธอถือมีดจ่อที่ลำคอของเขา รูบี้มองข้ามไหล่ของเธออยู่ตลอดและเดินต่อไป หลังจากแน่ใจแล้วว่าไม่ได้ถูกตาม
"ไปเอารถมาให้ฉัน ยาคอฟ แล้วไปส่งฉันที่สนามบินด้วย!"
รูบี้ผลักยาคอฟเข้าไปในรถ
มีดที่แหลมคมไม่ละออกจากลำคอของเขาเลย
ยาคอฟชี้ไปที่เลือดตรงศีรษะและลำคอของเขา ก่อนจะบอกเธอ "ดูที่คุณกับผมสิ ยังจะเอามีดมาจี้คอผมอีกเหรอ?"
"ฉันจะหยุดถ้าคุณไม่มีเล่ห์เหลี่ยมกับฉัน และขอให้คุณเลิกทำตัวเจ้าเล่ห์แล้วยกมือขึ้น"
"คุณนี่ไม่มีความรู้สึกให้ผมสักนิดเลยนะ รูเบส"
รูบี้พูดด้วยความโกรธ "คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ มันน้อยยิ่งกว่าที่จะมีความรู้สึกให้คุณอีก หยุดพูดแล้วขับรถไป!"
ยาคอฟกลั้นความโกรธเอาไว้แล้วสตาร์ทรถ
เนื่องจากยาคอฟบาดเจ็บที่ศีรษะ และรูบี้ก็กดมีดลงที่คอเขาแน่น เขาเริ่มมองเห็นไม่ค่อยชัด
"คุณแน่ใจเหรอว่าอยากให้ผมขับรถในสภาพแบบนี้? เลือดที่หัวก็ยังไม่หยุดไหลเลย คุณไม่สนใจสักนิดว่าผมเจ็บ คุณสนแต่ตัวเอง! ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแล้วจะโทษใครล่ะ?"
ซินดี้ตกใจ เธอหัวเราะอย่างประหม่า "ไม่ใช่ว่าคุณไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับคุณลูน่าหรอกเหรอ ผู้บัญชาการเบลน? ทำไมเธอต้องบอกฉันด้วยว่าเธอไปไหน? คุณลูน่าไม่ได้กลับไปที่บ้านเธอแล้วเหรอคะ?"
"จริงเหรอ? ผมคิดว่าแหล่งข่าวของคุณจะรู้ซะอีก เพราะคุณรู้ว่าผมเพิ่งกลับมาแค่ไม่กี่วัน แล้วคุณไม่รู้เหรอว่าซอฟตี้มาถึงเมืองกลาเซียร์ได้สองสามวันแล้ว?"
"ฉัน...ฉันไม่รู้จริง ๆ ที่ฉันรู้ก็แค่เรื่องที่คุณกลับมา ผู้บัญชาการเบลน เพราะว่าฉันติดตามคุณตลอด ฉันไม่ได้สนิทกับคุณลูน่าเลยไม่ได้สนใจเธอ เห็นหรือยังคะว่าฉันไม่รู้เรื่องของเธอหรอก?"
'ฮึ่ม ตอนนี้ศพของผู้หญิงคนนั้น คงลงไปอยู่ใต้ทะเลแล้วล่ะ เธอจะได้ไม่ต้องเจอผู้บัญชาการเบลนอีก'
บางทีผู้บัญชาการเบลนคงยังคิดถึงผู้หญิงคนนั้นอยู่ แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป เขาคงค่อย ๆ ลืมเธอ เพราะเวลาเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุด ที่จะทำให้คนเราลืมเรื่องบางอย่าง ไม่มีอะไรดีไปกว่ากาลเวลาแล้ว
'ก๊อก ก๊อก ก๊อก'
มีคนเคาะประตูห้องทำงาน
โอลเค พาชายวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบปีเข้ามาในห้องทำงาน เขาถูกมัดมือไว้ โอลเค ทำให้เขาคุกเข่าลงต่อหน้าเบลน
"ผู้บัญชาการเบลน เราเจอนักฆ่าที่ถูกส่งไปฆ่าคุณซอฟตี้แล้ว แต่เราไปช้าเกินไป เราเลยพามันกลับมาหาผู้บัญชาการเบลนที่นี่ครับ"
ในขณะที่ชายคนนั้นคุกเข่าอยู่ เขาก็อ้อนวอนขอชีวิต "ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ ผู้บัญชาการเบลน! ผมไม่ได้ตั้งใจฆ่าผู้หญิงคนนั้นเลยครับ! ผู้หญิงคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ เธอยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ นะครับ!"
ซินดี้หน้าซีด เธอตกใจเมื่อรู้ว่ารูบี้ยังมีชีวิตอยู่
ทันทีที่ผู้ชายคนนั้นเห็นซินดี้ เขาก็ชี้ไปที่เธอแล้วตะโกนออกมา "ผู้บัญชาการเบลน เป็นเพราะเธอครับ เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้! เธอติดสินบนผมและให้ผมไปฆ่าผู้หญิงที่คุณรัก ผู้บัญชาการเบลน! ผมได้ยินเธอพูดว่า ถ้าผู้หญิงคนนั้นตายไปซะ เธอจะได้แต่งงานกับคุณครับ ผู้บัญชาการเบลน!"
ซินดี้ตกใจเมื่อได้ยินแบบนั้น เธอใจสั่นก่อนจะมองผู้ชายคนนั้น แล้วพูดเสียงเย็นชา "คุณพูดเรื่องอะไรน่ะ!!"
ซินดี้จับแขนเสื้อเบลน เธอพูดอ้อนวอนและทำเสียงเศร้า "ผู้ชายคนนี้ใส่ร้ายฉัน ผู้บัญชาการเบลน! ฉันไม่ได้เจอคุณลูน่าเลยตั้งแต่เธอกลับบ้าน คุณลูน่าเป็นคนสำคัญของคุณ ผู้บัญชาการเบลน ฉันไม่กล้าแตะต้องเธอหรอก! คุณต้องเชื่อฉันนะคะ ผู้บัญชาการเบลน!"
เบลนยิ้มโดยไม่พูดสักคำ
ซินดี้หันไปพูดกับชายที่กำลังคุกเข่าอยู่ "ฉันคิดว่าแกแค่อยากให้ผู้บัญชาการเบลนไว้ชีวิตแก แกถึงได้มาใส่ร้ายฉันแบบนี้! ฉันไม่เคยเจอแกมาก่อน! แล้วฉันจะให้แกกไปฆ่าใครได้ยังไง!"
ชายคนนั้นคลานเข้ามาหาเบลน และคุกเข่าอ้อนวอน "คุณต้องเชื่อผมนะครับ ผู้บัญชาการเบลน! เธอเป็นคนวางยาผู้หญิงคนนั้น ก่อนจะลักพาตัวเธอไปตอนที่เธอไปที่สนามบิน เราจะได้พาเธอไปที่เวล คลิฟ แต่ก่อนที่เรากำลังจะเข้าไปหาเธอ ก็มีผู้ชายออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้มาฆ่าเพื่อนของผมทุกคน เขาไว้ชีวิตผม และให้ผมกลับมารายงานภารกิจ โดยให้บอกคุณเนลสันว่าผู้หญิงคนนั้นตายแล้ว"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน