เช้าวันรุ่งขึ้น บอยล์ออกจากบ้านตอนแปดโมงครึ่ง เขาปั่นจักรยานและผ่านถนน 14 ตามปกติ
ที่สุดถนน เขาเห็นพวกอันธพาลสี่คนถือแท่งเหล็กกำลังยืนตระหง่านอยู่ราวกับว่าพวกมันกำลังรอเขาอยู่
“บอยล์ เจ้านายของเราสั่งให้เรามาแนะนำให้แกเลิกทำคดีนี้ซะ”
บอยล์ลงจากจักรยานของเขา เขาถอดเสื้อคลุมตัวนอกของเขาออก แล้วแขวนมันไว้บนจักรยาน จากนั้นเขาก็ดึงเสื้อแขนยาวคอปกสีขาวของเขาขึ้น ท่าทางของเขาดูเฉยเมย แต่มันมีความเหี้ยมโหดดำมืดในดวงตาของเขา “ถ้าแกอยากจะสู้ ก็ทำมันให้เร็ว ฉันกำลังรีบ”
พวกอันธพาลทั้งสี่คนทำเสียงขึ้นจมูก “ดูเหมือนว่าแกจะไม่สนใจคำแนะนำดี ๆ ของเรา เดี๋ยวพวกเราจะสอนแกว่าฉลาดหมายความว่าอะไร”
“พวกเรา โจมตี!”
…
การพิจารณาคดีจะเริ่มตอนสิบโมงตรง
เมื่อเก้าโมงสิบนาทีผ่านไป เจนนิเฟอร์กับพ่อของเธอกำลังยืนอยู่ที่ทางเข้าศาลเพื่อรอคอยบอยล์อย่างใจจดใจจ่อ
ฮันท์ลีย์โทรหาบอยล์สองครั้งแต่ไม่มีใครรับสาย
พ่อของเจนนิเฟอร์อยู่นิ่ง ๆ ไม่ได้แล้ว เขาถามฮันท์ลีย์ “ทนายฮันท์ลีย์ ทนายบอยล์ไม่มาเหรอครับ?”
ฮันท์ลีย์เข้าใจความกังวลของเขาและปลอบเขา “คุณลุง ไม่ต้องห่วง บอยล์ไม่ใช่คนขี้กลัว เขาจะไม่ตื่นเวทีแม้ว่าจำเลยจะเป็นคนเลวที่ทำผิดกฎหมาย เขาอาจจะรถติด”
ฮันท์ลีย์ไม่เชื่อแม้แต่คำพูดของเขาเอง บอยล์ไม่ได้ขับรถ ดังนั้นรถติดจึงไม่ใช่อุปสรรคของเขาในการมาถึงศาลอย่างแน่นอน
แต่บอยล์เป็นคนตรงต่อเวลามาก มันเป็นคดีที่สำคัญมาก และการพิจารณาคดีจะเริ่มตอนสิบโมง เขามักจะมาถึงก่อนเวลาการพิจารณาคดีของศาล
…
มันยุ่งเหยิงไปหมด ณ ถนนหมายเลข14
บอยล์นอนอยู่บนพื้น เขากัดฟันด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรง และพยุงตัวเองลุกขึ้นบนพื้นด้วยแขนของเขาก่อนที่จะลุกขึ้นยืน
เขาถูกแทงที่ท้องขวาล่างของเขา บาดแผลมีเลือดไหลออกเยอะมาก และทำให้แขนเสื้อของเขาเปื้อน
พวกอันธพาลพวกนั้นวิ่งหนีไปหลังจากแทงมีดเข้าไปในตัวเขา เพราะพวกมันกลัวคนที่เดินผ่านเห็น
บริเวณนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด
บอยล์ใช้มือข้างหนึ่งกดบาดแผล ในขณะที่เขาเดินโซเซออกจากถนน
เขายกมืออีกข้างหนึ่งขึ้น และเหลือบมองไปที่นาฬิกาข้อมือของเขา มันเป็นเวลาเก้าโมงสี่สิบห้าแล้ว เขาไม่สามารถแจ้งความกับตำรวจ หรือโทรเรียกรถพยาบาลได้ เขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ
ช่องท้องด้านล่างขวาของบอยล์ เต็มไปด้วยเลือด และเลือดก็ไหลผ่านนิ้วมือของเขา ภาพนั้นดูน่ากลัวมาก และผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาตามถนนก็ไม่สามารถเพิกเฉยเขาได้ สองสามคนเดินเข้ามาหาเขา และถามด้วยความเป็นห่วง
“คุณครับ คุณอยากให้ผมไปส่งคุณที่โรงพยาบาลไหม?”
“ได้โปรด ไปส่งผมที่ศาล ขอบคุณ"
…
เหลือเวลาอีก 10 นาทีก่อนจะเริ่มการพิจารณาคดี คนที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปในห้องเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการพิจารณาคดีแล้ว
ฮันท์ลีย์เจอกับครอบครัวของจำเลย และทนายที่ทางเข้า
จำเลยมีสีหน้ามั่นใจ “ทนายความบอยล์ ที่เก่งมากในการปกป้องโจทก์ของเขาไม่มาเหรอวันนี้? ฉันไม่คิดว่าเขาจะยกธงขาวเร็วขนาดนี้”
ด้วยรอยยิ้มที่ไม่จริงใจบนใบหน้าของเขา ฮันท์ลีย์มองไปที่เขา และพึมพำด้วยเสียงแผ่วเบา ซึ่งมีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน "ถ้าบอยล์มาช้า เพราะแกทำอะไรลับหลังเรา เตรียมตัวรับหมายเรียกจากศาลได้เลย อย่าลืมว่าในฐานะทนายความ เราสามารถทำอะไรแบบนั้นได้อย่างแน่นอน”
จำเลยทำเสียงขึ้นจมูก และจ้องเขม็งไปที่ฮันท์ลีย์ ก่อนจะเข้าไปในศาล
ฮันท์ลีย์เหลือบไปมองที่เวลา การพิจารณาคดีจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้า พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้หากพวกเขายังคงรอบอยล์อยู่ที่ทางเข้า ด้วยเหตุนี้ เขาจึงบอกเจนนิเฟอร์ และพ่อของเธอว่า “เข้าไปข้างในกันก่อนเถอะ”
พ่อของเจนนิเฟอร์ถามอย่างกังวลว่า “ทนายบอยล์จะมาเมื่อไหร่?”
ดวงตาของฮันท์ลีย์เป็นประกายอย่างแน่วแน่ “ผมเชื่อว่าบอยล์จะมาถึงตรงเวลา”
“เราจะทำอย่างไรถ้าเขาไม่มา?”
“ถ้าบอยล์ไม่มา ผมจะเป็นตัวแทนของพวกคุณทั้งหมดแทนเขาเอง ผมก็เป็นหนึ่งในทนายที่คุณแต่งตั้งเช่นกัน”
แต่ข้อโต้แย้ง และหลักฐานทั้งหมดอยู่กับบอยล์ ฮันท์ลีย์ไม่มีความมั่นใจในการชนะคดีด้วยตัวเอง
หากบอยล์เป็นคนว่าความ พวกเขามั่นใจว่าจะชนะคดีอย่างแน่นอน และลงโทษให้จำเลยจำคุกเกินสิบปี
…
อีกสองนาทีก่อนถึงสิบโมง ในห้องพิจารณาคดี ทนายของโจทก์ยังมาไม่ถึง
ฮันท์ลีย์เหลือบดูนาฬิกาของเขาเป็นครั้งคราว เวลากำลังหมุนไป และหัวใจของเขาเต้นรัวด้วยความประหม่า
เขาไม่ได้กังวลว่าเขาจะต้องว่าความแทนลูกค้าในนามของบอยล์ แต่เขากลัวว่าบอยล์อาจจะประสบอุบัติเหตุระหว่างทางมาศาล
เวลาสิบโมงตรง บอยล์ยังไม่ปรากฏตัว
ผู้พิพากษาตีค้อน “ทนายของโจทก์ยังมาไม่ถึงงั้นหรือ?”
พ่อของเจนนิเฟอร์เหลือบมองไปทางฮันท์ลีย์อย่างร้อนใจ ฮันท์ลีย์ที่กำลังนั่งอยู่ที่ม้านั่งของผู้ชม มองไปที่ใบหน้าที่น่ารังเกียจของครอบครัวของจำเลย และตัดสินใจที่จะยืนขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของโจทก์
ในขณะที่เขากำลังจะลุกขึ้น ประตูใหญ่ของห้องพิจารณาคดีก็ถูกผลักเปิดออก
ดวงตาของทุกคนจับจ้องไปที่บอยล์
สีหน้าของพวกเขามีทั้งตกใจ กลัว หรืออยากรู้อยากเห็น
ชายหนุ่มมีบาดแผลร้ายแรงมากที่ท้องด้านขวาซึ่งมีเลือดไหลออกมาเยอะมาก แทนที่จะไปโรงพยาบาล เขากลับตัดสินใจรีบมาที่ศาลเพื่อเข้าร่วมพิจารณาคดีงั้นเหรอ?
บอยล์เพิกเฉยต่อสายตาที่อยากรู้อยากเห็นทั้งหมด และเดินไปที่ม้านั่งของทนายความโจทก์อย่างแข็งขัน
"ผมขอโทษ ผมมาสายไปสองนาที”
“ทนายโจทก์ โปรดอธิบายเหตุผลที่คุณมาสาย”
บอยล์ลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวอย่างน่ากลัว แต่เขาอธิบายตัวเองอย่างใจเย็น “ผมถูกทำร้ายระหว่างทางมาที่นี่ และได้รับบาดเจ็บสาหัส”
บาดแผลของบอยล์ที่ท้องด้านขวาเป็นภาพที่ไม่อาจหักล้างได้ ทุกคนที่นั่งอยู่เป็นพยานได้ ผู้พิพากษาพยักหน้า และตีค้อนเพื่อระบุการเริ่มต้นของศาล
ฮันท์ลีย์มองไปที่บอยล์ด้วยความกังวล บ้าจริง! บอยล์บ้าไปแล้ว! เขาไม่สนใจแม้แต่ชีวิตของเขา!
ทุกนาทีและวินาทีที่ยืนอยู่ในศาลเป็นการทรมาน และเป็นการเจ็บปวดสำหรับบอยล์ ราวกับว่าเขากำลังเดินอยู่บนคมมีด
ริมฝีปากของเขาซีด และแม้แต่เสียงของเขาก็ตะกุกตะกักเมื่อเวลาผ่านไป แต่เขาสามารถทำให้จำเลยถอยได้ด้วยข้อโต้แย้งที่หนักแน่น และมีเหตุผลของเขา
…
หลังจากสองชั่วโมงของความเพียรพยายามในการว่าคดี
ผู้พิพากษาก็ตัดสินคดี “ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตราสองร้อยสามสิบหก ผู้ที่ข่มขืนผู้หญิงด้วยความรุนแรง ข่มขู่ หรือวิธีการอื่นใด จะถูกลงโทษด้วยการจำคุกสามปี แต่ไม่เกินสิบปี แต่พฤติกรรมที่เลวร้ายของจำเลยเทรเวอร์ เลนซ์ และการเคลื่อนไหวอย่างลับ ๆ ส่งผลให้เกิดความบอบช้ำทางจิตใจอย่างร้ายแรงต่อจำเลยเจนนิเฟอร์ เลฮีย์ ทำให้เธอพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้ง…”
ในท้ายที่สุด เทรเวอร์ก็ถูกตัดสินจำคุกสิบปี
สงครามสิ้นสุดลง และเทรเวอร์ถูกนำตัวออกไป
พ่อของเจนนิเฟอร์ร้องไห้ ในขณะที่เขารู้สึกตื้นตันใจกับความยุติธรรมโดยชอบธรรมที่เพิ่งเกิดขึ้น
เมื่อบอยล์ยืนขึ้น เขาก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงจากบาดแผลของเขา ใบหน้าของเขาซีดอย่างน่ากลัว ในขณะที่หน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ
“ทนายบอยล์!”
“บอยล์!”
บอยล์ไม่สามารถทนต่อความเจ็บปวดได้อีกต่อไป ในขณะที่โลกของเขามืดมิดก่อนที่เขาจะทรุดตัวลงกับพื้น
…
เมื่อเชอรีชเรียนเสร็จ เธอก็รีบไปที่ร้านอาหาร เอมเมอรัลด์ แบมบู ทันทีเพื่อรอบอยล์
เธอยืนอยู่ข้างทางเข้าร้านอาหารในขณะที่กำลังรอเขา อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไปนานบอยล์ก็ยังไม่มา
ตอนแรกเธอคิดว่าคดีในศาลอาจจะยังคงดำเนินอยู่ เธอจึงไม่ได้โทรหาเขา เมื่อมันถึงเวลาเที่ยงครึ่ง เธอคิดว่าการพิจารณาคดีควรจะจบแล้วในตอนนั้น เธอจึงโทรไปสองสามสายแต่ไม่มีใครรับสาย
พวกเขาสัญญาว่าจะเจอกันตอนเที่ยงแต่มันผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว บอยล์ก็ยังไม่มา และไม่ได้แจ้งให้เธอทราบถึงเหตุผลที่เขาไม่มาด้วย เป็นใครก็ต้องโกรธถ้าถูกคนผิดนัด
เชอรีชกัดริมฝีปากของเธอ และพยายามโทรหาเขาเป็นครั้งสุดท้าย ไม่มีใครรับสายอีกครั้ง
บอยล์ปล่อยให้เธอรอเก้องั้นเหรอ?
…
ในขณะเดียวกัน บอยล์ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลด้วยรถพยาบาล และถูกส่งตัวไปที่ห้องผ่าตัดเพื่อทำการผ่าตัดทันที
แม้ว่ามีดจะไม่ได้โดนอวัยวะสำคัญใด ๆ ของเขา แต่เขาสูญเสียเลือดจำนวนมากเนื่องจากไม่ได้รับการรักษาในทันที หลังจากสามชั่วโมงในการที่หมอทำงานช่วยชีวิตอย่างลำบาก การผ่าตัดก็จบลงด้วยดี
จากนั้นบอยล์ก็ถูกส่งไปยังหอผู้ป่วยปกติ เป็นเวลาหนึ่งทุ่มแล้วเมื่อเขาฟื้นคืนสติ
ฮันท์ลีย์กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ กำลังปอกแอปเปิ้ลอยู่ เขาหยอกล้อบอยล์เมื่อเห็นเขาตื่นขึ้น “ทนายบอยล์ นายกล้ามาก! บาดแผลร้ายแรงขนาดนี้ นายเลือกวิ่งตรงไปที่ศาลโดยไม่ลังเล นายควรให้คุณค่ากับชีวิตของนายมากกว่านี้! ต้องบอกว่าคดีของนายในศาลครั้งนี้ทำให้นายมีชื่อเสียง ตอนนี้ข่างนี้กำลังเป็นที่นิยมบนเฟสบุ๊ก และแม้แต่ชาวเน็ตก็กำลังเผยแพร่ข่าวการกระทำที่กล้าหาญของนาย และชัยชนะของนาย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน