เชอรีชผลักเขาออกไป และเดินต่อไปข้างหน้า "ฉันจะกลับบ้าน"
บอยล์คว้าข้อมือเธอแล้วดึงเธอกลับเข้าไปในอ้อมแขนของเขา ก่อนจะกอดเธออย่างอ่อนโยน เขาลดสายตาลงและมองไปที่เธอด้วยสายตาที่อบอุ่นอย่างมาก เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล และลึกล้ำ “ลาซานญ่าของผมเป็นของคุณเสมอมา และผมจะทำให้คุณเท่านั้น คุณไม่มีเหตุผลที่จะต้องรู้สึกอึดอัด หรือร้อนรนเกี่ยวกับมันเลย"
"... แต่คุณก็ไม่ควรซี้ซั้วทำมันให้ผู้หญิงคนอื่นทั่วไป" มันทำให้เธอไม่ชอบ
น้ำเสียงของเชอรีชฟังดูราวกับว่าเธอกำลังโกรธเล็กน้อย เสียงนั้นค่อนข้างน่าพอใจสำหรับบอยล์
บอยล์ก้มหน้าลงจูบหน้าผากเธอ ขณะที่เขาพูด "ใช่ ผมรู้ คราวหน้าผมจะไม่ทำอีก"
จากนั้นบอยล์ก็จ้องไปที่เธอ และพูดว่า "วันนี้มันยอดเยี่ยมมาก"
เขาก้มหน้าลงและจูบเธออีกครั้ง เขาพูดต่อ "จูบนี้เป็นรางวัลของคุณสำหรับวันนี้"
เชอรีชพูดไม่ออก
บอยล์เหลือบมองไปที่โต๊ะ และพูดว่า "ทำได้ดีมาก คุณเลิกสั่งอเมริกาโน่เย็นแล้ว คุณทำดีมาก"
เขาก้มหน้าลง และจูบเธออีกครั้ง
เชอรีชพูดไม่ออก
จากนั้นเธอก็จ้องไปที่เขา และพูดว่า “คุณเรียกสิ่งนี้ว่ารางวัลงั้นเหรอ?”
“คุณไม่ชอบเหรอ?”
เชอรีชงุนงงกับเขามาก ขณะที่เธอนิ่งเงียบ
เธอไม่สามารถที่จะใส่ใจมีปฏิกิริยาโต้ตอบใด ๆ กับเขา
เชอรีชเดินไปข้างหน้าพร้อมกับยิ้ม ขณะที่บอยล์เดินตามเธอ ก่อนที่จะจับมือเล็ก ๆ ที่นุ่มนวลของเธอ
เชอรีชสะบัดมือของเขาออก แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ยังคงจับมือเธอ
ทั้งสองคนดูเหมือนกำลังทะเลาะ เนื่องจากหญิงสาวพยายามจะผลักเขาออกไปตลอดเวลา ในขณะที่ชายหนุ่มพยายามจะจับมือเธอไว้
เชอรีชกลับถึงบ้านในตอนกลางคืน
ขณะที่เธอกำลังจะเข้านอน โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น
คนส่งอาหารพูดว่า "ขอโทษนะครับ นี่ใช่คุณฟัดด์หรือเปล่า?"
"ใช่ค่ะ"
“คุณมีของมาส่ง ตอนนี้ผมอยู่ชั้นล่าง คุณออกมารับมันได้ไหมครับ?”
เชอรีชตอบ "วางมันไว้ข้างประตู ฉันจะลงไปเอาเดี๋ยวนี้"
"ได้เลยครับ"
เชอรีชคิดว่ามันแปลกมากเพราะเธอไม่ได้สั่งอาหารอะไร เธอสงสัยว่าใครเป็นคนสั่งอาหารให้เธอตอนกลางดึกแบบนี้
เมื่อเธอมาถึงประตู เธอก็สังเกตเห็นถุงพลาสติกห้อยอยู่ด้านนอกประตู
เชอรีชเอามันเข้ามาและเปิดถุงพลาสติก เธอสังเกตเห็นกล่องทัปเปอร์แวร์อยู่ในนั้น
เธอสงสัยว่าร้านอาหารไหนกัน ที่ให้กล่องทัปเปอร์แวร์ราคาแพงให้กับลูกค้าตอนที่เขาสั่งอาหารกลับบ้าน แทนที่จะใช่กล่องแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง
เธอเอาถุงพลาสติกขึ้นไปบนห้องของเธอ เมื่อเธอเปิดกล่องทัปเปอร์แวร์ออก เธอก็พบกับกลิ่นหอมของลาซานญ่าที่ทำสดใหม่ทันที ไอร้อนยังลอยออกมาจากกล่องอีกด้วย
เชอรีชรู้สึกงุนงง ขณะที่เธอเกาหัวของเธอ
เธอสังเกตเห็นโน้ตข้างกล่อง มันอ่านว่า 'ขอให้อร่อย มาดามลอว์สัน'
ลายมือเรียบร้อยและสวยมาก มันเป็นลายมือของบอยล์
เชอรีชหยิบช้อนและกัดไปคำหนึ่ง
สิ่งนี้ทำให้นึกถึงความทรงจำเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว
มันเป็นลาซานญ่าที่ทำเองอย่างไม่ต้องสงสัย
หัวใจของเธอเต้นแรงและรู้สึกอบอุ่น
เธอได้รับข้อความจาก 'ทำงานหนักเพื่อเชอรีช'
[อร่อยไหม?]
เชอรีชตอบกลับ [มันก็ดี แต่มันน่าจะดีกว่านี้]
ทำงานหนักเพื่อเชอรีชตอบกลับ [ผมทำดีที่สุดแล้ว ผมไม่ได้ทำอาหารมาหลายปีแล้ว ดังนั้นทักษะบางอย่างจึงขึ้นสนิม ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจ]
เชอรีชทานอาหารของเธอจนหมด
หลังจากที่เชอรีชทานอาหารเย็นเสร็จ เธอก็อาบน้ำล้างตัว จากนั้นเชอรีชก็ได้รับโทรศัพท์จากวิทนีย์ ขณะที่เธอกำลังนอนอยู่บนเตียง
“เฮ้ เชอรีช เธอรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาตาลี? ฮันท์ลีย์บอกฉันว่าเธอเจอเรื่องร้ายแรงมาก และมันก็น่าเศร้ามากด้วย เธอจำนาตาลีได้ใช่ไหม? คนที่เธอปฏิเสธที่จะเอาเรื่องแม้จะทำให้เธอโกรธก็ตาม?”
เชอรีชเลิกคิ้ว และตอบว่า “เกิดอะไรขึ้นกับนาตาลี?”
“เธอบอกพวกเราตอนงานคืนสู่เหย้าของมหาลัยว่าเธอมีแฟนรวย ใช่ไหม? ปรากฏว่าผู้ชายคนนั้นแต่งงานแล้ว และเธอเป็นเมียน้อยของเขา แต่ภรรยาของเขารู้เรื่องของทั้งคู่ ส่วนที่บ้าก็คือ นาตาลีท้อง แต่ภรรยาของเขายังไม่มีลูก เธอเลยทำให้นาตาลีแท้งโดยสั่งให้คนไปรุมโทรมเธอ… มันเป็นเรื่องน่าเศร้ามาก”
เชอรีชฟังโดยไม่มีปฏิกิริยาอะไรมากนัก เธอไม่ได้รู้สึกพึงพอใจกับการได้แก้แค้นเธอ และก็ไม่รู้สึกสงสารนาตาลีเลยแม้แต่นิดเดียวเช่นกัน
นาตาลีไม่เคยเป็นเพื่อนสำหรับเชอรีช
วิทนีย์พูด “ฉันได้ยินมาว่าไม่เพียงแต่นาตาลีจะแท้งลูก แต่เธอยังได้รับบาดเจ็บสาหัส เธอเกือบตาย ตอนที่เธอถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลโดยคนที่สัญจรผ่านไปมา เพราะเธอเสียเลือดมาก ดูเหมือนว่าขาทั้งสองข้างของเธอตอนนี้พิการ และเธอน่าจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่บนรถเข็น เฮ้อ ดูเหมือนว่าในที่สุดกรรมจะตามสนองบาปของเธอแล้ว ข่าวของเธอเป็นไวรัลในกลุ่มศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัย ฉันไม่คิดว่าเธอจะสามารถมีหน้าอยู่ในเมืองหลวงได้อีก"
…
หลังจากนั้น เชอรีชได้ยินว่านาตาลีเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอยู่ครึ่งเดือน เมื่อครอบครัวของเธอทราบเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว จึงเดินทางมายังเมืองหลวง พวกเขาเรียกร้องค่าชดเชยที่สูงมากจากตระกูลไวท์ ดูเหมือนว่าเหตุการณ์นั้นจะเงียบลงทันที หลังจากที่ครอบครัวไวท์จ่ายเงินให้ครอบครัวของนาตาลี
เนื่องจากครอบครัวของนาตาลีอาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทอันห่างไกล พวกเขาจึงไม่ค่อยมีประสบการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริง หนึ่งล้านเหรียญเป็นเงินจำนวนมหาศาลสำหรับพวกเขา
หลังจากที่ครอบครัวของเธอได้รับเงินแล้ว พวกเขาก็ไม่สนใจความต้องการของนาตาลี และใช้เงินล้านเหรียญเพื่อซื้อบ้านให้พี่ชายของนาตาลี
พวกเขายังบ่นว่าค่ารักษาพยาบาลของนาตาลีแพงเกินไป พวกเขาจึงตัดสินใจให้นาตาลีออกจากโรงพยาบาล และพาเธอกลับบ้าน
แมนดี้กับจอยได้ไปเยี่ยมนาตาลีที่บ้านเกิดของเธอหลังจากนั้น
แมนดี้กล่าวว่าสภาพความเป็นอยู่ของนาตาลีนั้นแย่มาก เพราะพ่อแม่ของเธอไม่สนใจเธอเลย พวกเขาทิ้งเธอไว้ตามลำพังในห้องแคบ ๆ และชื้น เนื่องจากเธอพิการและต้องนั่งอยู่บนรถเข็น เธอจึงต้องการความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมงทุกครั้งที่เธอต้องใช้ห้องน้ำ
พ่อแม่ของนาตาลีไม่ยอมจ้างคนดูแลให้เธอ เธอจึงทำได้เพียงดูแลตัวเอง
ทำให้นาตาลีมักจะทำให้ตัวเองตัวเปียก กว่าจะมีคนมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอ ก็หลังจากผ่านไปหนึ่งวันแล้ว
พ่อแม่ของเธอมักจะบ่นว่าเธอเป็นคนไร้ประโยชน์ พวกเขาบอกว่าเธอเป็นคำสาปจากชาติที่แล้วของพวกเขาที่กลับชาติมาเกิดในชาตินี้ เพื่อทรมานพวกเขา
ทำให้นาตาลีกลายเป็นบ้าหลังจากนั้น ในตอนที่เธอคลุ้มคลั่ง เธอพุ่งออกจากห้องด้วยเก้าอี้เข็นของเธอ และตกลงบันไดตอนที่เธอควบคุมรถเข็นไม่ได้ เธอได้รับบาดเจ็บที่ด้านหลังศีรษะจากเกิดอุบัติเหตุ
เนื่องจากครอบครัวของเธอไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาไอซียูราคาแพงขนาดนั้น พวกเขาจึงตัดสินใจยอมแพ้กับเธอ
นั่นเป็นเพราะหมอบอกพวกเขาว่า ถึงแม้เธอจะตื่นจากอาการโคม่าได้ เธอก็จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในสภาพที่เหมือนผัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน