ตอนที่ 201 ฉันจะแย่งชิงเธอมาให้ได้
“อาหารเช้ามาแล้วว”
ยศพลยกจานอาหารออกมา บนจานมีไข่ม้วน หมูแฮมและขนมปัง
อังคณารีบหายตัวไป ตั้งใจแกล้งทำเป็นบอกว่ามีธุระแล้วหนีไป เธอไม่อยากอยู่เป็น กขค
จารวีสูดกลิ่นหอมจากอาหารเช้า แล้วดื่มนมร้อน
“คิดไม่ถึงเลย ว่าฉันจะได้กินอาหารเช้าฝีมือนาย”
บางครั้ง ความสุขก็เข้ามาอย่างกะทันหันเหมือนเป็นความรู้สึกที่ลวง ทำให้รู้สึกมันไกลจนเอื้อมไม่ถึง
“ฮ่าฮ่า ต่อไป ทุกวันฉันจะทำอาหารเช้าแบบนี้ให้เธอนะ”
คำพูดที่เอาใจใส่ ออกมาจากปากของยศพล มันช่างน่าฟังเหลือเกิน
ยศพลก้มลงมาจูบที่ริมฝีปากของเธอ
เธอลองเป็นฝ่ายที่ปฏิเสธจูบของเขา ทั้งสองคนค่อย ๆ โน้มตัวลงไปบนโซฟา
ยามเช้าที่มีแสงแดดสาดส่อง พวกเขาพักผ่อนไปแล้วทั้งคืน ตื่นมาก็เลยรู้สึกสดชื่นและมีกำลัง
ยศพลเปิดชุดนอนของจารวีออก เธอไม่ได้ใส่ชุดชั้นใน ร่างที่เซ็กซี่ของจารวีนั้นทำให้เขาหลงใหล
ยศพลออกแรงใช้ปลายลิ้นจูบสิ่งที่นุ่มนวลและอิ่มเอิบของเธอ จารวีส่งเสียงครางออกมาอย่างทนไม่ได้
เป็นเพราะเสียเวลาไปกับ “อาหารเช้า” ที่ไม่คาดคิดไปหนึ่งชั่วโมง เวลาที่ทั้งสองคนออกมาก็เลยช้าไปหน่อย
เมื่อจารวีเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย รถของยศพลก็รอเธออยู่ข้างนอกแล้ว
คิดถึงและเพ้อฝันอยากที่จะเข้ามาในคฤหาสน์โพธิสูงไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ในที่สุดความเพ้อฝันก็เป็นจริง
ในใจจารวียังคงรู้สึกกระวนกระวายอยู่เล็กน้อย
เธอรู้สึกตึงเครียดมาก ๆ
“ฉัน ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี”
ยศพลมองไปที่จารวีครู่หนึ่ง เขาดึงเธอมาโอบกอดในอ้อมอกของเขา
“ผู้หญิงของฉัน ฉันแค่รู้สึกชอบก็พอแล้ว อย่างอื่นไม่ต้องสนใจหรอก…”
ความรักจากยศพล ทำให้จารวีรู้สึกสบายใจขึ้น
รถค่อย ๆ แล่นออกจากเขตเมืองปารีส เขาขับรถช้าๆ มุ่งไปยังเขตชานเมือง
“เราจะไปถึงที่นั่นกี่โมงเหรอ”
ยศพลใช้สายตาที่ดำเฉียบคมจ้องไปที่เธอ “ไม่ต้องกังวล โอเคมั้ย ปล่อยให้ตัวเองผ่อนคลายหน่อยเถอะ”
“ก็ได้…”
ยศพลเปิดเพลงในรถ จารวีก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเรื่อยๆ
บรรยากาศนอกรถเริ่มเปลี่ยนเป็นป่าไม้อย่างช้าๆ รถยิ่งขับก็ยิ่งลึกเข้ามา เมื่อเริ่มขับเข้าใกล้ ๆ ก็เห็นยามยืนรักษาการณ์ยืนเฝ้าอยู่ที่แต่ละจุด พวกเขาเป็นบอดี้การ์ดที่ใส่ชุดลายทหาร ทำหน้าที่คอยลาดตระเวนสำรวจสถานการณ์ระหว่างทางเข้า
จารวีตกใจเล็กน้อย “นี่ ยศพล ทำไมฉันรู้สึกว่าเหมือนนายพาฉันเข้ามาในเขตหวงห้ามของการทหารเนี่ย”
“เฮอะๆ พ่อฉันกลัวตาย ก็เลยจัดตั้งยามยืนรักษาการณ์มากมายขนาดนี้ขึ้นมา เขาขาดความรู้สึกที่ปลอดภัยน่ะ”
ยังไม่ทันถึงบ้านโพธิสูง จารวีก็รู้สึกได้ถึงอำนาจของพ่อยศพล
เวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ หลังจากที่ผ่านจุดยืนยามมาสองสามจุดแล้ว ตรงสุดสิ้นทางมีป้อมปราการโบราณสไตล์ยุโรปอยู่หลังหนึ่ง
ความรู้สึกภายในใจของจารวีเริ่มรู้สึกมีแรงกดดันขึ้นมาอีกครั้ง ไม่แปลกเลยที่นักสืบเอกชนบอกว่าเป็นตระกูลหนึ่งที่ลึกลับ แท้จริงแล้วบ้านโพธิสูงนั้นมีอิทธิพลมาก มากซะจนจารวีนึกไม่สามารถที่จะจินตนาการขอบเขตได้เลย
ก่อนหน้านี้ เธอไม่สามารถที่จะรู้จักและเข้าใจยศพลได้ดีพอ แต่ตอนนี้ เธอได้เข้าใจทุกอย่างแล้ว
“คุณชาย กลับมาแล้วเหรอครับ!”
รถของยศพลหยุดจอด มีบอดี้การด์รีบมาเปิดประตูให้ทันที พวกเขาใส่ชุดทหารเหมือนกันทุกคน
“ไปกัน!”
ยศพลจูงมือจารวีเดินเข้าไปข้างใน
“วีคนสวย…”
ทันใดนั้นก็มีเสียงที่คุ้นหูดังมาจากข้างหลัง จารวีหันไป ก็เห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งวิ่งมาจากสวนดอกไม้ด้านข้างของป้อมปราการ
จารวีเบิกตากว้าง “วิตต์…”
“แดดดี๊……” วิตต์เรียกอย่างเคารพนบน้อม
จารวีรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโง่เขลา “เธอ เมื่อกี้เธอเรียกเขาว่าอะไรนะ”
วิตต์ยิ้มอย่างร่าเริง “เขาไง เขาเป็นแดดดี๊ของผม ทำไมเหรอ”
จารวีใจเต้นรัวมาก เหมือนกับคนที่กำลังจะจมอยู่ในความตาย แล้วเห็นเชือกฟางเส้นหนึ่งที่สามารถช่วยชีวิตได้ เธอจับไหล่ของวิตต์ไว้แน่น แล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ “เธออายุเท่าไหร่”
วิตต์ยิ้มแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองยศพล เหมือนกำลังรอคำสั่งจากเขา
“เขาน่ะเหรอ! เจ็ดขวบแล้ว”
ยศพลพูดอย่างเยือกเย็น
“อะไรนะ!!!” จารวีเกือบจะเป็นลม คือเขา เขาเป็นลูกของเธอ!! เธอคิดว่าลูกของเธอตายไปแล้ว
จารวีกอดวิตต์ไว้อยู่ในอ้อมกอดอย่างไม่ได้สนใจอะไร น้ำตาของเธอไหลรินออกมาเป็นหยด ๆ ราวกับไข่มุกอย่างไม่หยุด
“วิตต์ เธอคือลูกของฉัน...”
สองแม่ลูกกอดกันแน่น จารวีดีใจซาบซึ้งจนไม่รู้จะพูดอะไรออกมา
ผ่านไปนานสักพัก จารวีค่อย ๆ ลุกขึ้นมา จารวีเดินไปตรงหน้ายศพลอย่างโกรธเคือง แล้วไปทุบตีตรงอกยศพล
“อีตาบ้า นายมันบ้ามาก คิดไม่ถึงเลยว่านายจะหลอกฉัน! นายบอกว่าเค้าตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมนายถึงต้องทำแบบนี้ด้วย
จารวีโกรธเขามาก อีตาบ้านี่ นึกไม่ถึงเลยว่ากล้าลองเธอว่าลูกตายแล้ว ทำให้เธอรู้สึกทรมานมาหลายปี
ยศพลไม่ได้ตอบโต้อะไร ปล่อยให้เธอทุบตีต่อไป พอจารวีทุบตีเขาจนเหนื่อยแล้ว เขาก็กุมมือทั้งสองของเธอขึ้นมา
“ตอนนั้นเขาก็ติดเชื้อไวรัส HVE แม้แต่หมอก็ยังบอกไม่ได้ว่าจะรอดหรือจะตาย ฉันไม่อยากให้เธอต้องมานั่งคาดหวังและกังวล แล้วทำให้เธอต้องมาทรมานใจอีกครั้ง”
ยศพลจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง “ฉันแค่คิดว่าฉันจะแบกรับความเลวร้ายทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นไว้คนเดียว ตอนนี้เขาก็กลับมาอยู่ข้างกายเธอแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ตาบ้า นั่นคือความคิดของนาย นายชอบคิดเองเออเองทุกเรื่องอยู่เรื่อย วิตต์ ออกไปจากที่นี่กับหม่ามี๊เถอะ”
จารวีจับมือวิตต์ไว้ แล้วเดินออกไปข้างนอกอย่างโกรธแค้น เธอต้องการที่จะพาลูกของเธอออกไป
“หม่ามี๊…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย