ตอนที่ 204 แม่คนนี้โหดนิดหน่อย
"แกรู้มั้ย ว่าพูดแทรกรบกวนคนอื่นเวลากินข้าวมันเสียมารยาทน่ะ" ยศพลพูดอย่างมีความหมาย จารวีหรี่ตา เลิกคิ้วสูง และพูดลากเสียงยาว
"เหรอ" จารวีไม่พูดอะไรอีก จากนั้นก็เริ่มทานอาหารต่อ
ในตอนเย็น หลังจากวิตต์หลับแล้ว จารวีนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องรับแขก
ช่องข่าวกำลังประกาศข่าวอยู่
“.....ข่าวล่าสุดจากสถานีโทรทัศน์ค่ะ เกิดเหตุลักพาตัวอย่างโหดเหี้ยมในเมือง ตำรวจสงสัยว่าผู้ต้องสงสัยที่ลักพาตัวเป็นสาวชาวไทยที่ชื่อจารวี ตอนนี้ตำรวจได้ตั้งค่าหัวของหล่อนไว้จำนวนหนึ่งร้อยล้านฟรังก์ที่จะมอบเป็นรางวัลให้กับผู้ที่จับตัวหล่อนไว้ได้ ถ้าหากผู้ใดพบเห็นหรือทราบเบาะแส สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยนะคะ”
จารวีคิ้วขมวด พ่อของยศพลนี่ไม่ยอมวางมือง่ายๆ จริงๆ นึกไม่ถึงเลยว่าจะทุ่มเงินมากขนาดนี้เพื่อจะจับตัวเธอให้ได้
"ที่รัก คืนนี้ยังมีเรื่องสำคัญที่ยังไม่ได้ทำนะ…"
ยศพลเดินมาบ้างหลังโซฟา เขากอดจารวีจากด้านหลัง แล้วจูบเธออย่างเร่าร้อน แล้วไปหยุดอยู่ที่หน้าผากของเธอ
จารวีไม่ได้หลงในคารมแฟนหนุ่มของตน เธอกลับผลักยศพลออกไปอย่างเด็ดเดี่ยว
"ไม่รู้เหรอ ว่ารบกวนเวลาที่คนอื่นดูทีวีมันเสียมารยาทน่ะ…"
ยศพลนิ่งไปสักพัก แล้วตระหนักได้ถึงความผิดของตัวเอง
"ที่รัก ฉันผิดไปแล้ว! จากนี้ไป ฉันจะไม่กล้าทำแบบนี้อีกแล้ว เธอก็ลงโทษฉันสิ”
จารวีหรี่ตาแล้วมองเขาอย่างจริงจัง “ให้ฉันลงโทษนายยังไงดี”
"ลงโทษฉัน...โดยให้ฉันจูบเธอ ดีมั้ย"
“ป้าบ!” จารวีตบหน้าเขาด้วยหลังมือเบาๆ เธอมองโทรทัศน์ไป พลางยิ้มแล้วพูดว่า “ครั้งนี้พ่อของนายจริงจังมากเกินไปแล้ว เขาเอาเงินร้อยล้านฟรังก์มาแลกกับหัวของฉัน”
แววตาของยศพลมีประกายที่ดำมืดเล็กน้อย แล้วทำหน้าเหมือนไม่สนอะไรทั้งสิ้น “ไม่ว่าใคร ก็ห้ามแตะต้องผู้หญิงของฉันเด็ดขาด”
"เขาเป็นพ่อของนายนะ"
"ไม่ว่าใคร ก็ไม่มีสิทธิ์มาแตะต้อง...ครั้งก่อน ที่เขาเอาตัวเธอไปขัง ฉันก็คลั่งแทบบ้าอยู่ละ ถ้าเกิดเขาทำเรื่องบ้าๆ อะไรแบบนั้นอีก ฉันก็จะไม่ไว้หน้าเหมือนกัน” ยศพลทำหน้าเยือกเย็น
ในใจของจารวีรู้สึกว่าถูกทำให้ลอยสูงขึ้นด้วยความอบอุ่น
"คุณชาย คุณชายครับ เหมือนกับว่าจะมีเรือเร็วสะกดรอยตามหลังเรือของพวกเราอยู่ครับ”
มีบอดี้การ์ดคนหนึ่งวิ่งหน้าตั้งเข้ามาอย่างลนลาน
ยศพลลุกขึ้นยืน "ฉันไปดูก่อนนะ…"
จารวีก็เดินตามออกไปด้วย
หน้าจอแสดงผลในห้องควบคุมปรากฏให้เห็นจุดเล็กๆ ที่ตามหลังเรือของพวกเขาอยู่ตามคาด
จารวีรู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย
จุดดำเล็กๆ เหล่านั้นเปลี่ยนเป็นสามกอง ปรากฏให้เห็นเป็นจุดสามเหลี่ยมที่มุ่งหน้าเข้ามาล้อมเรือใหญ่ไว้
จารวีตื่นเต้นลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย “ทำยังไงดี”
ทันใดนั้นยศพลก็ออกคำสั่ง “ไปเตรียมการโจมตีเดี๋ยวนี้ ไม่ว่าใครก็ตามที่เข้ามาใกล้ ก็โจมตีมันให้หมด”
“ยศพล พวกเขาเป็นคนของพ่อของนายนะ นายเปิดศึกกับเขาแบบนี้มันจะไม่ดีรึเปล่า”
จารวีพูดออกมาอย่างกังวลและเป็นห่วง
“หรืออยากให้ฉันเห็นเขาพาผู้หญิงของฉันไปต่อหน้าต่อตารึไง” ยศพลพูดออกมาอย่างหยิ่งยโสและโอหัง
“ยิง…”
จารวีคิดอะไรได้ไม่มาก เธอเดินตรงออกมาจากห้องคนขับเรือ จากนั้นก็เดินเข้าไปในที่พัก แล้วเดินตรงไปในห้องนอนของวิตต์
ผ่านไปสักสองสามนาที ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น
แสงไฟอ่อนๆ ส่องไปยังใบหน้าของวิตต์ที่กำลังหลับใหล ใบหน้าของเขาเหมือนกับใบหน้าของยศพลอย่างกับเป็นคนคนเดียวกัน
เขาหลับใหลอย่างเงียบสงบ จารวียื่นมือออกไปลูบหน้าผากของเขาอย่างอ่อนโยน
"หม่ามี๊ อย่าไปนะ…"
วิตต์ยื่นมือออกมาดึงแขนจารวีไว้ แล้วพูดออกมาเบาๆ
เปลือกตาของจารวีชื้นเพราะน้ำตา เธอกระซิบเบาๆ ว่า “หม่ามี๊ไม่ไปไหนจ่ะ”
ผ่านไปครู่ใหญ่เธอจึงพบว่าวิตต์กำลังละเมอ เขาแค่ลุกขึ้นมาพูดไม่กี่ประโยค จากนั้นก็หลับต่ออย่างรวดเร็ว
เสียงปืนข้างนอกยังดังต่อเนื่องไม่หยุด จารวีกอดวิตต์อย่างกลัดกลุ้มใจ
เจ็ดปีเต็ม ในช่วงที่เขาต้องการแม่มากที่สุด เธอกลับไม่ได้อยู่ข้างกายเขาเลย
ในใจของจารวีรู้สึกถึงความละอายใจ เธอยังไม่ได้ทำหน้าที่ของคนเป็นแม่เลยแม้แต่อย่างเดียว
คืนนั้น จารวีกอดลูกชายที่หลับอยู่ในอ้อมกอดอย่างสะลึมสะลือ เสียงปืนนั่นทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยและจิตใจไม่สงบ
เช้าวันต่อมา ตอนที่เธอตื่น ก็พบว่าตนนอนอยู่ในอ้อมกอดของยศพล เธอตกใจจนลุกขึ้นมา
"ลูกอยู่ไหน"
ยศพลก้มลงมาจูบเธอ "ที่รัก ฉันอยู่นี่แล้ว ไม่มีอะไรแล้วนะ!”
"เมื่อคืนเป็นยังไงบ้าง"
เธอรีบรุดลงจากเตียง สวมรองเท้า เพื่อจะเดินไปหาวิตต์ แต่กลับถูกยศพลยื่นมือมาดึงแขนเอาไว้
"เธอเนี่ย ในใจมีแต่ลูก ไม่มีฉันบ้างเลยเหรอ"
“เลิกไร้สาระก่อน ฉันห่วงลูกมากจริงๆ…”
“เขากำลังหลับอยู่น่ะสิ เรือลำนี้ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว แล้วลูกจะเป็นอะไรได้ยังไง”
ยศพลกดลงไปบนร่างของจารวี แล้วจูบอย่างเร่าร้อนราวกับฝนที่เทกระหน่ำลงมา
"อ๊ะ อุ๊ อื๊ม…"
มือใหญ่ของยศพลเปิดเสื้อของเธอ แล้วรูดถูไปทั่วร่างของเธอ
ใบหน้าเล็กๆของจารวีเปลี่ยนเป็นสีแดง ทั้งสองคนกำลังจะค่อยๆ เข้าด้ายเข้าเข็ม
ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา
“หม่ามี๊ หม่ามี๊…”
เสียงของวิตต์ดังขึ้น จารวีตกใจจนผลักยศพลออกไปอย่างรีบร้อน เธอจัดแจงชุดนอนของตนให้เรียบร้อยด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย