เมษา...
ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น น้องพอใจรู้รหัสตู้เซฟแม่ของคุณพีเจ ตอนแรกฉันคิดว่าเขาบอกลูกถ้าแกไม่จูงมือฉันกับคุณพีเจมาที่ห้องนี้ห้องที่เขาบอกกับฉันว่าเป็นห้องของแม่ของเขาซึ่งเขาไม่เคยอนุญาตให้ใครเข้ามาแต่น้องพอใจดกกลับเดินเข้าห้องนี้เหมือนคุ้นเคย แกเดินไปที่ตู้เซฟแล้วกดรหัสฉันและคุณพีเจถึงกับมองหน้ากันด้วยความอึ้งที่แกรู้เรื่องนี้ คุณพีเจบอกว่ามีแค่เขาคนเดียวที่รู้รหัสนี้คนอื่นไม่มีใครรู้ แล้วลูกรู้ได้ยังไงนี่คือสิ่งที่ฉันคิด จนกระทั่งลูกบอกกับฉันว่าแกเคยอยู่ห้องนี้ห้องนี้เป็นของแกทั้งที่แกไม่เคยมาที่นี่เลย
"น้องว่าน้องเคยอยู่ห้องนี้เหรอคะ"
"ใช่ค่าแม่ น้องเคยอยู่ห้องนี้จริงๆน้องจำได้"
"เธอจำเรื่องที่ฉันเคยบอกได้ไหม" คุณพีเจหันมาถามฉันเสียงเบาเหมือนกลัวว่าลูกจะได้ยิน
"เรื่องอะไรคะ"
"เรื่องที่แม่มาเข้าฝันฉันตอนนั้นไงแล้วท่านก็บอกว่าท่านจะกลับมาอยู่กับฉัน แล้วตอนนั้นเธอเป็นคนบอกกับฉันเองว่าแม่อาจจะมาเกิดเป็นลูกของฉัน"
"นี่คุณกำลังจะบอกว่าน้องพอใจคือ..."
"ฉันมั่นใจว่าใช่นะ มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะน้องพอใจมีปานที่ข้อมือเหมือนแม่ของฉันซึ่งฉันก็เพิ่งสังเกตเมื่อเช้า" ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นจริงๆ ฉันพอจะนึกออกแล้วล่ะว่าเขาเคยพูดเรื่องนี้เมื่อหลายปีก่อน และนั่นทำให้ฉันนึกย้อนไปตอนที่น้องพอใจอายุได้ซักขวบกว่าๆแกกำลังหัดพูดจู่ๆแกเรียกชื่อคุณพีเจขึ้นมาทั้งที่ฉันไม่เคยสอนไม่เคยบอกให้แกเรียก ฉันหันไปมองลูกที่ตอนนี้นั่งอยู่บนเตียงเปิดดูอัลบั้มรูปที่วางอยู่ข้างโต๊ะหัวเตียงแกมองอย่างตั้งใจแล้วจู่ๆแกก็ร้องไห้ ฉันตกใจที่เห็นแกเป็นแบบนั้นก็รีบเดินไปหาลูกแล้วถามว่าแกเป็นอะไร แกบอกว่าแกคิดถึงคนๆนี้แล้วแกก็ชี้ไปที่รูปผู้ชายคนนึงซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าเขาคือใคร
"คนๆนี้ใครเหรอคะ" ฉันหันไปถามเขา
"รูปพ่อฉันเอง" คุณพีเจตอบฉันเสียงสั่นตอนที่เห็นลูกนั่งร้องไห้แล้วชี้ไปที่รูปของพ่อเขา
"พ่อคุณ??"
"อื้มใช่"
"แล้วลูกร้องไห้ทำไมทำไมแกถึงบอกว่าแกคิดถึงล่ะคะ"
"อาจจะเป็นเพราะแม่รักพ่อมากก็เลยทำให้รู้สึกแบบนั้น"
"แล้วเราจะทำยังไงดีคะฉันไม่อยากให้แกต้องมารู้สึกหรือจดจำเรื่องราวเกี่ยวกับอดีต ตอนนี้แกคือลูกของฉัน คือ..." ฉันไม่รู้จะพูดยังไงให้เขาเข้าใจฉันกลัวว่าเขาจะคิดว่าฉันหวงลูกไม่อยากให้ลูกจำอะไรเกี่ยวกับครอบครัวของเขาได้
"แล้วเธอจะทำยังไง"
"เอาอย่างนี้มั้ยคะเราพาแกไปหาพระที่วัดเผื่อท่านจะช่วยได้"
"ก็ได้"
หลังจากตัดสินใจว่าจะพาลูกไปหาพระที่วัดฉันก็พาลูกไปอาบน้ำแต่งตัว พอลงมาด้านล่างก็เจอคุณไทด์เดินเข้าบ้านมาพอดี
"อ้าวจะไปไหนกันเหรอสองคนแม่ลูก"
"ไปวัดค่าคุณลุงไทด์^^"
"ไปวัด ไปทำไมมีอะไรหรือเปล่า" คุณไทด์หันมาถามฉัน
"ไว้เมจะเล่าให้ฟังทีหลังนะคะ" คือฉันไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดีและอาจจะต้องอธิบายนาน
"แล้วนี่จะไปกันยังไงให้พี่ไปส่งมั้ย เสร็จแล้วเราจะได้ไปหาบ้านเช่าต่อ"
"ไม่ต้อง!!!" เสียงคุณพีเจดังขึ้นจากทางทางด้านหลังเขาเดินล้วงกระเป๋าลงมาสายตาจ้องไปที่คุณไทด์อย่างไม่พอใจ
"อ่อ ถ้านายจะไปส่งเมษาที่วัดก็แล้วไปฉันคิดว่าเมษาจะไปเอง"
"พี่ไทด์จะไปด้วยกันมั้ยคะ"
"อื้มไปสิ ดีเหมือนกันตั้งแต่กลับมาพี่ยังไม่ได้เข้าวัดทำบุญเลย ถือโอกาสไปทำบุญที่วัดซะหน่อย"
พีเจ...
ผมมองเคืองไปที่เมษาที่จู่ๆดันชวนไอ้ไทด์ไปวัดด้วยทั้งๆที่รู้อยู่ว่าผมไม่ชอบขี้หน้ามันแต่ก็ยังชวนมันไปด้วยอีก เห็นแล้วเสียอารมณ์ชิบหาย ยิ่งเวลาเห็นสองคนนั้นพูดคุยกันอย่างสนิทสนมก็ยิ่งน่าหมั่นไส้ แต่ที่ผมแปลกใจตัวเองก็คือเมื่อก่อนเวลาที่เห็นสองนี้คุยกันผมจะรู้สึกโกรธเคียดแค้นอยากเอาชนะแต่ตอนนี้ผมกลับไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นแต่ผมรู้สึกไม่พอใจไม่อยากเห็นไม่ชอบให้เธอเรียกมันว่าพี่ไทด์ ผมจึงเดินไปคว้าลูกมาจากเมษาโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัวดีที่ลูกยอมมากับผมแต่โดยดีจากนั้นผมก็พาแกเดินออกมาจากบ้านตรงไปยังโรงรถทันทีเพราะผมกลัวว่าเมษาจะพาลูกไปนั่งรถไอ้ไทด์
"ไว้เจอกันที่วัดนะ"
"ค่ะพี่ไทด์^^" หึ ยิ้มหวานให้มันอีก แม่งเอ้ย ผมว่าจะไม่มองไม่สังเกตแล้วนะแต่ก็อดไม่ได้
"แม่จ๋าเราจะไปที่ไหนกันเหรอ"
"เอ่อ....ไปทำบุญค่ะ" เมษาหันไปตอบลูกที่นั่งคาร์ซีทอยู่ตรงเบาะด้านหลังส่วนเมษาผมบังคับให้มานั่งหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียไร้รัก