การประชุมกับหุ้นส่วนสำคัญผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในวันนี้ค่อนข้างหนักหนาเอาการเลยทีเดียว เริ่มประชุมตั้งแต่สิบโมงเช้าจนตอนนี้เกือบจะห้าโมงเย็นอยู่แล้ว หุ้นส่วนคนสุดท้ายก็ยังไม่เลิกออกความคิดเห็นเสียที
หากเป็นในเวลาปกติเขาคงนั่งฟังด้วยความตั้งอกตั้งใจ แต่ตอนนี้...เวลานี้...สมองของเขาไม่ได้อยู่กับตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว มันบินข้ามฟ้าไปไกลอยู่ที่หน้ามหาวิทยาลัยของแม่ลูกสาวคนสวยของศัตรูเสียแล้ว
วันนี้สินะที่หล่อนต้องให้คำตอบกับเขา ว่าจะเลือกห่วงตัวเองหรือว่าห่วงบิดา
เขาไม่ใช่คนดีเลยที่ใช้วิธีนี้มาบีบคั้นเพื่อให้แม่สาวน้อยคนนั้นยอมทอดร่างให้เชยชม แต่เขาไม่มีทางเลือก สมองและร่างกายร้องบอกว่าต้องการแม่นั่นแทบคลั่ง และเขาก็ไม่โง่พอที่จะปฏิเสธความต้องการของตัวเองเพราะความสงสารคนทรยศหรอก
แต่มันต้องไม่ใช่วันนี้ ไม่ใช่คืนนี้ เขาจะต่อเวลาให้กับยาหยีอีกสักสองสามวัน ปล่อยให้หล่อนทุรนทุรายอยู่กับความหวาดกลัว ปล่อยให้หล่อนติดต่อกับพ่อของตัวเอง ซึ่งเขามั่นใจว่าหล่อนต้องติดต่อกับไอ้ยอดชายแน่หากเข้าตาจนจริง และเขาจะทำให้หล่อนต้องวิ่งแจ้นกลับมาขอขึ้นเตียงกับเขาเอง
คอร์เนลระบายยิ้มด้วยความพึงพอใจ ลุกขึ้นและเดินอ้อมโต๊ะทำงานไม้มะฮอกกานีราคาแพงระยับออกไปยืนนิ่งอยู่ริมหน้าต่าง ทอดสายตามองสวนสวยเบื้องล่างนิ่ง พลางหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดหาคนสนิททันที
“ให้คนไปบอกยาหยีว่าวันนี้ไม่ต้องมา ผมให้เวลาคิดอีกสองสามวัน” กรอกเสียงเรียบลงไปตามสาย แล้วก็ต้องเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ
“ว่ายังไงนะ เธอมาแล้วเหรอ”
“ครับ นั่งรออยู่ในห้องรับแขก ผมเห็นว่านายน้อยยังประชุมกับผู้ถือหุ้นไม่เสร็จก็เลยยังไม่ได้ขึ้นไปรายงาน เอ่อ...งั้นผมให้เธอกลับไปเลยนะครับนายน้อย”
คอร์เนลกัดฟันแน่น ดวงตาสีเขียวเข้มจัดด้วยความรู้สึกมากมาย โดยเฉพาะความหิวกระหายอันแรงกล้า
“ไม่ต้อง ฉันจะลงไปพบเธอเอง” หนุ่มหล่อตัดสายด้วยความหงุดหงิดงุ่นง่าน
“เธอโชคไม่ดีเองนะยาหยี”
คนตัวโตก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องทำงานของตัวเองในทันที โดยไม่มีทีท่าจะกลับมาฟังผู้ถือหุ้นคนสุดท้ายที่ยังพล่ามไม่จบต่อแม้แต่นิดเดียว
แม้จะเป็นครั้งที่สองแล้วกับการนั่งอยู่ในห้องรับแขกหรูภายในคฤหาสน์หลังงามของคอร์เนล แต่ยาหยีก็มีความรู้สึกว่าตัวเองคือสิ่งแปลกปลอมที่น่ารังเกียจอยู่ดี สมบัติติดกายทุกอย่างรวมกันแล้วยังได้ราคาไม่ถึงหนึ่งในร้อยส่วนของพรมเช็ดเท้าที่วางไว้หน้าประตูห้องเลย
ความเคร่งเครียดบีบคั้นจนไม่สามารถจะนั่งนิ่งๆ ต่อไปได้ หญิงสาววางหนังสือเรียนสองสามเล่มที่ถืออยู่ลงบนโต๊ะตรงหน้า และผุดลุกขึ้นยืน
“จะไปไหน”
เสียงห้วนกระด้างดังขึ้นทางด้านหลัง ทำให้ยาหยีหันกลับไปมอง แล้วเจ้าความตื่นเร้าแสนอันตรายก็พุ่งเข้าใส่อย่างรุนแรง
เขาดูหล่อเหลาและมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อวานนี้เสียอีก สาวน้อยลืมความอดสูไปในทันทีเมื่อได้สบตากับผู้ชายตรงหน้า ร่างกายเบ่งบานและร้อนรุ่มแปลกประหลาด รู้สึกราวกับว่าช่องท้องบีบเกร็งอย่างรุนแรงจนปวดร้าว ยิ่งได้เห็นสายตาหิวกระหายของเขาที่มองมาด้วยแล้ว หล่อนก็ยิ่งร้อนระอุไปทั้งตัว หัวใจสาวกระโดดโลดเต้นจนแทบจะหลุดออกมาจากขั้ว
คอร์เนล ซีร์ยานอฟสมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติ เรือนกายสูงใหญ่ของเขาที่อยู่ในชุดลำลองสีเขียวมะกอกนั้นดูน่าเกรงขามและน่าหลงใหลได้ในเวลาเดียวกัน
เขาเคลื่อนกายเข้ามาด้วยท่าทางสง่างาม สาวน้อยลดตาลงมองบ่าทรงพลังของเขาด้วยความตื่นกลัว แก้มสาวแดงระเรื่อขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
“ตกลงหรือว่าปฏิเสธล่ะ”
“เอ่อ...คือ...”
“ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธผมอยู่แล้ว” ทั้งน้ำเสียงและแววตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยัน
“ยิ่งผู้หญิงข้างถนนอย่างคุณก็ยิ่งไม่มีทาง”
ความโอหังของผู้ชายยโสตรงหน้าทำให้ยาหยีหน้าร้อนผ่าว สมองเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้งหลังจากถูกความหล่อเหลาของคอร์เนลปิดสวิตช์ไปนาน โทสะแรงกล้ากระพือขึ้นอย่างรุนแรง จนไม่สามารถจะสงบปากสงบคำ ก้มหน้าให้เขาย่ำยีด้วยวาจาโหดร้ายได้อีกต่อไป
“ถ้ามองฉันเป็นผู้หญิงข้างถนน แล้วทำไมคุณถึงยังต้องการให้ฉันขึ้นไปอยู่บนเตียงด้วยล่ะ ทำไมไม่รับเงินของฉันซะ แล้วทุกอย่างก็จบ!” เชิดหน้ามองคนตัวโตด้วยความขุ่นเคือง ผู้ชายอะไรหล่อซะเปล่า แต่ปากร้ายชะมัด
คอร์เนลหัวเราะร่วน ทั้งๆ ที่สถานการณ์ตรงหน้ามันไม่มีอะไรให้น่าขบขันเลยสักนิด
“เงินขี้ปะติ๋วแค่นั้นนะเหรอที่จะเอามาชดเชยกับสิ่งที่พ่อของคุณทำไว้กับผม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย