อังเดรที่กำลังหัวเสียอยู่กับสายโทรศัพท์ของเอริก้าต้องหงุดหงิดเพิ่มมากขึ้นอีกหลายเท่าตัวเมื่อลูกน้องเข้ามารายงานด้วยใบหน้าตื่นตระหนกว่ายอดชายได้ผูกคอตายไปเสียแล้ว
“แค่นี้นะยายเอม พ่อมีเรื่องด่วนต้องทำ”
อังเดรตัดสายลูกสาวที่กำลังแว้ดๆ ใส่หูอย่างรำคาญเต็มทน ก่อนจะหันมาเค้นเสียงถามลูกน้องอีกครั้งด้วยความตกใจไม่แพ้กัน
“ว่าไงนะ ไหนแกบอกฉันอีกครั้งสิเบรท”
“ไอ้ยอดชายมันผูกคอตายไปแล้วครับ”
เมื่อได้ยินชัดเต็มสองหู อังเดรถึงกับสบถออกมาด้วยความเจ็บแค้นใจ
“ไอ้ระยำ! มันคงคิดสินะว่าหากมันไม่อยู่แล้ว ฉันจะบังคับลูกสาวของมันไม่ได้ ฝันไปเถอะ ฉันไม่ยอมแพ้แค่เพียงมันสิ้นลมหายใจหรอก”
อังเดรหัวเราะลั่น ใบหน้าอัดแน่นไปด้วยความเหี้ยมโหดก่อนจะหันไปสั่งลูกน้องด้วยน้ำเสียงชั่วร้ายราวกับปีศาจในนรก
“ห้ามแพร่งพรายเรื่องที่ไอ้ยอดชายมันตายแล้วเด็ดขาด รอให้นังเด็กยาหยีมันเอาเพชรสีทองของจริงมาให้ฉันเสียก่อน เมื่อนั้นแกค่อยสงเคราะห์ให้พ่อลูกได้ไปอยู่ด้วยกัน”
“ครับนาย”
เบรทลูกน้องคนสนิทเดินออกไปแล้ว อังเดรจึงต่อสายหาวินซ์ เอเมอร์ตัน ผู้ชายที่ยึดขวัญชีวาลูกสาวบุญธรรมของตนเองเอาไว้เป็นหลักประกัน
“เพชรสีทองจะต้องถึงมือคุณวินซ์ในวันพรุ่งนี้ เตรียมเงินห้าสิบล้านเหรียญเอาไว้รอผมได้เลยครับคุณวินซ์”
วินซ์วางสายโทรศัพท์ก่อนจะหันมามองขวัญชีวาที่จ้องมองเขาอยู่ก่อนแล้วด้วยสายตามืดมิด ก่อนที่คำพูดไร้ความรู้สึกจะกระเด็นออกไป
“พ่อคุณโทรมา...”
“พ่อหรือคะ พ่อถามถึงฉันไหม พ่อบอกไหมว่าจะมารับฉันกลับบ้านเมื่อไร” ท่าทางของสาวน้อยที่นั่งอยู่คนละมุมห้องกับตนเองทำให้วินซ์อดเวทนาไม่ได้
“เขาไม่ได้เอ่ยถึงคุณเลยแม้แต่คำเดียว”
ขวัญชีวานิ่งอึ้ง ก้มหน้าซ่อนน้ำตาแห่งความน้อยอกน้อยใจเอาไว้ วินซ์หรี่ตาแคบมองด้วยความสงสาร โดยลืมไปสนิทเลยว่าผู้ชายสายเลือดทระนงอย่างตนเองไม่เคยมีความรู้สึกพวกนี้มาก่อนเลยในชีวิต โดยเฉพาะกับเพศตรงข้ามที่ซื้อสามารถซื้อได้ด้วยเงินตรา
คอร์เนลไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต ความเจ็บปวดที่เกิดจากการทรยศของคนที่ตัวเองรัก ชายหนุ่มจ้องมองตู้เซฟของตัวเองที่ว่างเปล่าด้วยสายตาผิดหวัง หัวใจถูกบีบคั้นอย่างรุนแรงจนแทบจะไม่สามารถหายใจได้อีกต่อไป
“คุณทรยศผมจริงๆ”
“นายน้อยครับ รถพร้อมแล้วครับ”
เสียงเรียกเบาๆ ของเซอร์เกดังอยู่ข้างหลัง คอร์เนลข่มความปวดร้าวเอาไว้ภายใต้หน้ากากเย็นชา ก่อนจะหันกลับไปเผชิญหน้ากับคนสนิท
เซอร์เกอึ้งไปนานทีเดียวเมื่อเห็นดวงตาสีเขียวมรกตของคอร์เนลแดงก่ำ ริ้วรอยแห่งความเจ็บปวดพาดผ่านใบหน้าหล่อเหลานั้นมากมายนัก นายน้อยของเขากำลังร้องไห้?
“ถ้าฉันเชื่อนาย ไม่ดื้อดึงพายาหยีมาที่มอสโกด้วย ป่านนี้ฉันก็คงตัดใจจากเธอได้แล้ว และก็คงไม่ต้องมาเสียใจกับการทรยศของเธอเหมือนในตอนนี้”
น้ำเสียงของคอร์เนลสื่อความหมายแห่งความผิดหวังได้อย่างดีเยี่ยม เซอร์เกเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของเจ้านายตัวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย