เมียเสี่ย นิยาย บท 65

ลรินซึมซับความอ่อนโยนของเด็กน้อยไว้ เธอไม่หวังได้รับการให้อภัย และวันนี้ก็แอบมาเงียบๆ ตั้งใจว่าจะวางของขวัญแต่งงานไว้แล้วก็ออกไป ยังไม่ได้ทำอะไร เพราะมาเจอเด็กหลงทางซะก่อน

“น้าฝากอันนี้ไปให้เจ้าสาวหน่อยได้ไหมคะ” ลรินเงยหน้าขึ้นสบตากลมโตใสแจ๋ว แววตาสีน้ำตาลสวยดูอ่อนโยนเหมือนคนเป็นพ่อ และดูแน่วแน่ไม่ต่างจากคนเป็นแม่เลย

ปึ่ก! ตุบ!

“คิริน! แม่บอกว่าห้ามรับของจากคนแปลกหน้า” นคินทร์ปัดของขวัญที่ยื่นมาให้น้องสาวอย่างแรงจนหล่นไปอยู่บนพื้น มองผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้าด้วยดวงตาวาวโรจน์ ดวงตาสีดำขวับดูโกรธจัดจนลรินรู้สึกกลัว

‘น่ากลัวเหมือนแววตาเสี่ยขุนในวันนั้นเลย’

“ขอโทษจ๊ะ คือน้าเข้าไปในงานไม่ได้ ตั้งใจว่าจะมามอบของขวัญแต่งงานให้เจ้าสาว แต่น้าต้องไปแล้ว เลยฝากน้องสาวของหนูให้ช่วยเอาไปให้”

ลรินอธิบาย แต่เด็กชายกลับไม่ยอมฟัง ดึงรั้งน้องสาวออกห่าง มองเธอตาขวาง

“ระเบิดหรือเปล่า” นคินทร์จำมาจากในละครหลังข่าวที่เคยดูกับแม่ พวกผู้ร้ายชอบซ่อนระเบิดไว้ในกล่องของขวัญแบบนี้แหละ

“น้าจะเอาระเบิดมาจากไหนละจ๊ะ” ลรินรู้สึกเอ็นดูมากกว่าโกรธ เด็กชายดูทโมนกว่าเด็กสาวมากทีเดียว

“พี่คินทร์พอสักที คุณน้ากลัว” คิรินปราบพี่ชาย กว่าเธอจะปลอบคุณน้าให้หยุดร้องไห้ได้ พี่ชายยังมาทำตัวไม่น่ารักใส่คุณน้าอีก

“ทำอะไรกันจ๊ะเด็กๆ” หิรัญถามเด็กน้อยสองคนที่เป็นลูกแฝดของเพื่อน มองผู้หญิงที่นั่งหันหลังอยู่บนพื้นด้วยความสงสัย คงไม่ใช่พวกหลอกเด็กหรอกใช่ไหม

“คุณน้าคนนี้เขาจะเอาของขวัญไปให้แม่ปรายค่ะ/ พวกคนร้ายวางระเบิดครับ”

เด็กทั้งสองพูดพร้อมกันแต่คนละความหมายเลย ทั้งสองมองหน้ากันเหมือนจะเถียงกันจนหิรัญต้องรีบเดินเข้าไปใกล้

“ใจเย็นๆก่อนนะเด็กๆ เอาทีละคน” หิรัญชักปวดหัวไม่รู้จะเชื่อใครดี ผู้ใหญ่ที่ควรพูดก็เอาแต่นั่งเงียบ จนเขาต้องสะกิดไหล่เธอเพื่อให้ลุกขึ้นมาคุยกัน

“คุณมาหลอกเด็กในงาน?” หิรัญมองผู้หญิงที่แต่งตัวแตกต่างจากคนในงาน ก็งานวันนี้เน้นธีมสีขาวชมพู แต่เธอใส่ชุดสีฟ้ามา ดูก็รู้ว่าไม่ใช่แขกที่ได้รับเชิญ

“เปล่า” ลรินไม่กล้าหันไปมอง เธอไม่ต้องการเจอใครเลย แค่ต้องการมาวางของขวัญให้ปัญณิสาแล้วก็กลับไป ไม่คิดเลยว่าการทักทายเด็กสาวตรงหน้า จะนำพาเรื่องยุ่งยากมาให้

“เปล่าก็หันมาคุยกันดีๆดิ” หิรัญเรียกคนที่เหมือนจะพยายามหลบไม่ให้เขาเห็นหน้า เธอพยายามหลบ เขาเองก็พยายามก้มมอง จนตอนนี้เขาแทบจะหัวทิ่มพื้นอยู่แล้ว

“ไม่ อย่านะ ว๊าย!” ลรินหลบคนตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว หลบถอยหลังไปจนเกือบหงายท้อง โชคดีที่มีมือเล็กๆคว้าไว้ได้ก่อนจะหงายหลังลงไป

“อย่าแกล้งคุณน้านะคะ พ่อยักษ์” คิรินดุเพื่อนของพ่อ ที่กำลังทำท่าทางให้คุณน้าของเธอกลัว

“อ่า! พ่อเปล่านะครับหนูคีย์” หิรัญหน้าจ๋อย เมื่อโดนสาวน้อยใส่ร้าย เขาแกล้งเธอตอนไหนกัน

“ทำอะไรอยู่ตรงนั้นคะ!”

อารยายืนทำหน้าบึ้งอยู่ไม่ไกล วิ่งหาลูกทั่วทั้งงานจนเหนื่อย ตอนนี้ทั้งโกรธทั้งโล่งใจในเวลาเดียวกัน เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าลูกทั้งสอง ก่อนจะมองหิรัญกับผู้หญิงปริศนาที่ลูกสาวจับมืออยู่นิ่งๆ

“คุณแม่”

คิรินครางแผ่ว แม่ต้องดุแน่ๆ ถ้ารู้ว่าเธอวิ่งมาหาแม่คนเดียว แล้วยังมาคุยกับคนแปลกหน้าตรงนี้อีก เด็กน้อยก้มหน้าลงอย่างคนที่กำลังสำนึกผิดล่วงหน้า

“พ่อครับ!/พ่อขา”

เด็กทั้งสองวิ่งเข้าไปกอดพ่อ เพราะต้องการหาตัวช่วย เวลาแม่โกรธเด็กทั้งสองจะพึ่งพ่อ เวลาที่พ่อโกรธจะพึ่งแม่ แต่ไม่รู้เลยว่าครั้งนี้ ทั้งพ่อทั้งแม่โกรธพอๆกัน

“ไม่ต้องเลย โดนทั้งคู่”

อัครราชมองลูกทั้งสองด้วยสายตาคาดโทษ โกรธนะ แต่ตอนนี้โล่งใจมากกว่า ที่ลูกทั้งสองได้รับอันตรายใดๆ

ลรินขยับตัวเพื่อหลบออกไปจากบริเวณนั้นช้าๆ ด้วยท่าที่ยังนั่งยองๆ ขยับถอยหลังไปจนชนเข้ากับกระถางไม้ประดับ เจ็บก็เจ็บแต่ไม่สามารถส่งเสียงร้องได้ กลัวคนทั้งหมดจะรู้ว่าเธอเป็นใคร

“จะไปไหน” หิรัญเดินมายืนขวางทางไว้ ผู้หญิงอะไรทำตัวลับๆล่อๆ น่าสงสัยที่สุด

“คุณน้า” คิรินวิ่งเข้าไปช่วยพยุงคนที่ชนกระถางต้นไม้ ตั้งใจไว้ว่าจะช่วยคุณน้าเอาของขวัญไปให้แม่ปรายให้ได้

“ปล่อยน้าไปเถอะคะ ขอบคุณนะ”

ลรินกล่าวพึมพำ อยากจะโกรธที่โดนลูกสาวของอารยารั้งไว้ แต่ก็ซึ่งใจที่เด็กน้อยดูจะห่วงใยเธอกว่าคนอื่น คนตัวเล็กนั่งลงสำรวจบริเวณที่เธอชนต้นไม้ ได้ยินเสียงถอนหายใจโล่งอกด้วย

“ลุกขึ้นเถอะ ริน”

อารยาสังเกตมาสักพักนึงแล้ว ท่าทางกับสรีระคุ้นตา และเสี้ยวหน้าที่เธอเห็นไม่ค่อยชัด แต่จำได้ดีว่านั่นคือลรินไม่ผิดแน่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียเสี่ย