หิรัญเดินตามไปเงียบๆ ไม่ได้เป็นห่วงว่าเธอจะเดินไปไหนในที่มืดๆแบบนั้น แต่อยากรู้ว่าเธอจะไปทำอะไรมากกว่า
ลรินเดินไปตามทางเดินของวัด ลัดเลาะไปตามเส้นทางที่เคยเหยียบย่างมาเมื่อหกปีก่อน ในตอนที่แม่เธอเสีย แม้จะไม่เคยมาอีกเลย แต่กลับจำได้ดี แม้ไม่มีแสงไฟส่องสว่าง ใช้เพียงแสงจันทร์นำทาง จนมาถึงบริเวณที่เก็บเถ้าอัฐิภายในวัด
ลรินเดินไปยกมือไหว้บุพการีที่เหลือไว้เพียงรูปถ่ายให้เห็น ภาพในวัยเด็กแจ่มชัดขึ้นมา จนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว ยืนร้องไห้เงียบๆ ด้วยความรู้สึกที่ถาโถม
ภาพผู้หญิงที่อุ้มชูเธอตอนเด็กยิ้มให้เธอด้วยความอ่อนโยน นั่นคือภาพแม่ที่งดงามที่สุด แม้หลังจากนั้นจะไม่เคยได้เห็นท่านยิ้มอีกเลย แต่เธอกลับจำได้เพียงภาพที่ท่านยิ้มให้ แม้จะถูกบังคับให้เดินไปในเส้นทางที่ผิด แต่เธอยังติดภาพจำแสนหวานของมารดามาตลอด
“เห็นหรือเปล่า ว่าทำอะไรกับหนูไว้บ้าง รู้สึกรักหนูขึ้นมาบ้างหรือเปล่า”
ลรินพูดพลางสะอื้น เธอเป็นเพียงเครื่องมือของแม่ ที่ตั้งใจเก็บเธอไว้เพื่อต่อลองกับพ่อ ช่วงแรกๆแม่ทะนุถนอมเธออย่างดี เพื่อให้พ่อเห็นใจ แต่พอพ่อเลือกผู้หญิงคนใหม่ และแม่เธอกลายเป็นเพียงเมียน้อยที่มาก่อน แม่ก็เริ่มเปลี่ยนไป
ทั้งๆที่มาก่อน แต่แม่ไม่ต่างจากชู้ หรือเมียน้อย พ่อเลือกแต่งงานกับผู้หญิงที่มาทีหลัง ผลักแม่ลงสู่ขุมนรก นั่นคือชนวนความแค้นที่ผลกรรมตกลงมาที่เธอ
แม่ที่แสนใจดีเปลี่ยนไปทันทีที่ถูกพ่อทำแบบนั้น ปลูกฝังเธอให้เห็นแก่เงินมากกว่าสิ่งอื่นใด หลอกให้เธอขอเงินพ่อมาให้ได้มากที่สุด เมื่อมันไม่พอต่อความต้องการที่ขาดหาย ก็เริ่มมองหาเหยื่อรายใหม่ โดยใช้ร่างกายของเธอเป็นเครื่องมือ
ลรินอยากจะโกรธ อยากจะเกลียดท่านให้มากกว่านี้ แต่ทำไม่เคยได้เลยสักครั้ง เธอยังหวังเสมอว่าท่านจะเหลียวแลเธอเหมือนตอนเด็ก แต่ก็ไม่เลย ไม่เลยสักครั้ง
“นี่! กลับได้ยัง”
เสียงเรียกอยู่ข้างหลัง ดึงสติเธอออกจากความทรงจำทั้งหมด ใบหน้าเปื้อนน้ำตาหันกลับไปมอง อยากจะร้องไห้ต่อ แต่เห็นหน้าเขาแล้วร้องไม่ออก
“เร็วดิ นี่ไม่ใช่รถบริการสาธารณะ” หิรัญเบ้ปาก ไม่รู้สึกสงสารหรือเห็นใจใบหน้านองน้ำตา ที่ยืนรอให้ร้องไห้มานมนานก็ดีแค่ไหน เขาควรทิ้งเธอไว้แล้วหนีกลับไปก่อนด้วยซ้ำ
ลรินปาดน้ำตาออกจากใบหน้า ไม่หวังความเห็นใจจากใครทั้งนั้น ดีแค่ไหนที่เขาไม่ทิ้งไป เดินตามไปจนถึงรถ ยังไม่ได้บอกว่าจะไปด้วย เขาก็มองด้วยสายตาดุดัน ทำให้ต้องก้าวขาขึ้นไปนั่งอย่างขัดไม่ได้
“บอกมาดิ ต้องให้ถามตลอดเลย” หิรัญพูดอย่างหงุดหงิด นี่เขาเป็นคนขี้หงุดหงิดตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เห็นหน้าเธอทีไรแล้วเป็นแบบนี้ตลอด ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
“โรงแรมxxx” ใบหน้าสวยแดงขึ้นนิดหน่อย รู้สึกอายนิดๆ เหมือนชวนเขาไปทำเรื่องไม่ดี อาจจะเพราะเมื่อก่อน พูดชื่อโรงแรมทีไร ก็หนีไม่พ้นเรื่องนั้น เธอเลยไม่ค่อยอยากเอ่ยถึงสถานที่แบบนั้นเท่าไหร่
หิรัญเผลอมองใบหน้าเขินอายนั่นเพียงครู่ก็ออกรถ โรงแรมที่เธอพักอยู่ เป็นโรงแรมเล็กๆข้างโรงพักที่เขาทำงานประจำอยู่ ไม่รู้ว่าไปส่งเธอที่นั่น จะถูกคนในโรงพักเห็นหรือเปล่า เขาไม่อยากถูกลูกน้องแซวแปลกๆ ว่าพาสาวเข้าโรงแรม เขาจึงตัดปัญหาโดยทิ้งเธอให้ลงหน้าโรงพัก แล้วขับหนีกลับบ้านทันทีที่เธอลงจากรถได้ ไม่อยากมีประเด็นกับคนแบบเธออะ เขากำลังจะดูตัวซะด้วยสิ
อัครราชพาเมียกับลูกทั้งสองกลับถึงบ้านเกือบตีสอง เพราะอยู่ฉลองอาฟเตอร์ปาร์ตี้กับบ่าวสาว มองภรรยาที่เดินออกมาจากห้องลูกเงียบๆ หลับแล้วสินะเจ้าตัวแสบทั้งสอง เรื่องลงโทษเอาไว้ทำพรุ่งนี้แล้วกัน
“พี่ขุนอย่าโกรธลูกเลยนะคะ”
อารยาทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงข้างสามีที่อาบน้ำเสร็จก่อน กว่าเธอจะกล่อมลูกนอนได้ ใช้เวลามากโข ทั้งที่ตั้งใจว่าวันนี้จะอาบน้ำพร้อมกันแท้ๆ
“อื้อ”
“ไอซ์ไปอาบน้ำก่อนนะคะ เหนียวตัวมากเลย”
“เดี๋ยวสิ” อัครราชรั้งตัวภรรยาไว้ เขานั่งรอตั้งนาน จะรีบหนีไปไหนละ
“อะไรคะ ไอซ์เหนียว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียเสี่ย