เมียขัดดอก นิยาย บท 14

"ใครให้แกพาผู้หญิงคนนี้เข้าบ้าน"

"คุณคะ" ผู้เป็นภรรยาจ้องสามีตาเขม็ง

"คุณจะไม่ให้ผมพูดได้ยังไง ก็ผมไม่ได้ต้องการผู้หญิงคนนี้มาเป็นสมาชิกในบ้าน" เพราะพ่อนิสัยแบบนี้นอร์เวย์ถึงได้ไม่กลับบ้านตอนที่เขาขัดใจพ่อ ยังมาซ้ำรอยเซอร์เวย์อีกคน ส่วนรันเวย์น่ะเหรอ ที่ไม่เข้าบ้านเพราะเหตุผลเดียวกันเป๊ะ

"ปุ" ปลาบปลื้มตกใจกับคำพูดของปู่ คิดว่าคนเป็นปู่ว่าให้ตัวเอง

"ปู่ไม่ได้ว่าให้ปลื้มสักหน่อยลูก มีแต่ปลื้มนี่แหละที่เห็นใจปู่"

ไอยวริญทำใจไว้แล้วว่าจะเจออะไรที่บ้านของเขาบ้าง แต่ที่เธอไม่ได้ทำใจก็เพราะเรื่องเด็กคนนี้ ตกลงเขาเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือว่ามีภรรยาอยู่แล้ว อย่างหลังคงไม่ใช่ถ้ามีภรรยาเขาจะพาเธอเข้าบ้านทำไม

"แม่ว่าพาน้องขึ้นไปข้างบนก่อน" อมรรัตน์มองไปเห็นรอยจ้ำที่ริมฝีปากและซอกคอของแฟนลูกชาย กลัวว่าสามีจะเห็นแล้วนำมาพูดให้ผู้หญิงเขาอาย

"ครับ" เซอร์เวย์ส่งปลาบปลื้มให้กับคุณย่าแล้วก็พาเธอขึ้นบ้าน

"ป้อ" ปลาบปลื้มร้องตามคุณลุงไป ใบหน้าของเซอร์เวย์และนอร์เวย์ไม่ได้ต่างกันมาก แต่ปลาบปลื้มก็รู้แหละว่าทั้งสองไม่ใช่คนคนเดียวกัน เวลาเรียกลุงทีไรเขาจะชอบเรียกพ่อ

"วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่หนูไม่ได้มาครับ หนูนอนกับย่านะครับ" ประโยคที่อมรรัตน์คุยกับหลาน ไอยวริญไม่ได้ยินแล้ว เพราะตอนนี้เธอขึ้นไปถึงชั้นสอง

"เข้ามาสิ"

"ค่ะ" หญิงสาวเดินตามเข้าไปในห้องนอนอันกว้างขวาง

"เตรียมตัวด้วย เดี๋ยวอีกสักครู่ผมจะพาลงไปทานข้าวร่วมกับครอบครัว"

"คุณหมอคะ" หญิงสาวอายที่จะพูดแต่ก็ต้องพูดกับเขาก่อน

"มีอะไร"

"คือว่า" มือเรียวยกขึ้นมาลูบต้นคอตัวเองเล็กน้อย เพื่อให้เขาเห็นว่ามันมีรอยที่เขาทำไว้เมื่อคืนนี้

"ปล่อยมันไว้แบบนั้นแหละ"

"ปล่อยไว้แบบนี้?" หรือว่าเขาจะจงใจ นี่เขาจงใจให้มันมีรอยเหรอ?

ทั้งสองขึ้นมาเพียงไม่นานแม่บ้านก็มาตามลงไปทานข้าว

"แล้วคุณพ่อล่ะครับ"

"พ่อบอกว่าไม่หิว ก็เลยตามตาปลื้มขึ้นไปที่ห้องของหลานแล้ว..อย่าสนใจเลยนะหนู" อมรรัตน์หันมาพูดกับหญิงสาวที่เอาแต่นั่งเงียบ

"ค่ะ"

"ถ้ารักชอบกันก็ตบแต่งให้เป็นเรื่องเป็นราว" พอคุยกับฝ่ายหญิงแล้วนางก็หันไปพูดกับลูกชาย

"แอะ" ชายหนุ่มที่เพิ่งจะเอาอาหารเข้าไปในปากเกือบสำลักออกมา

"เราก็อายุมากแล้ว แม่ว่าได้เวลาที่จะมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้วล่ะ ไม่ต้องไปสนใจพ่อ"

"ผมยังไม่ได้คิดเรื่องนั้นครับแม่" เขาไม่หันมามองเธอเลยด้วยซ้ำ

"ไม่ได้คิดเรื่องนั้น หมายความว่ายังไง"

"เออ..ไม่ใช่ไม่คิดหรอกครับแม่ แต่อายยังไม่พร้อมนี่สิครับ" ชายหนุ่มเอื้อมไปตักอาหารแล้ววางใส่จานข้าวให้กับเธอเหมือนคู่รัก

"หนูชื่ออายเหรอจ๊ะ"

"ค่ะ"

"ชื่อก็น่ารัก คนก็น่ารัก"

"ขอบพระคุณมากค่ะ" หญิงสาวยกมือขึ้นมาไหว้

"หนูยังไม่อยากแต่งงานเหรอ"

"เรื่องนั้น.."

"หนูพูดมาได้เลยนะลูก อยู่ด้วยกันขนาดนั้นแล้ว"

"คือ อาย"

แพทย์หญิงอมรรัตน์อยากให้ลูกชายเป็นหลักเป็นฐานสักที ถ้าแต่งงานไปสามีจะได้ไม่ต้องไปยุ่งยากกับเรื่องของลูกๆ อีก

"เรื่องสินสอดทองหมั้น แม่จะจัดแบบไม่ให้หนูน้อยหน้าใครเลย"

อึก! เซอร์เวย์ตกใจอีกครั้ง อะไรของแม่เนี่ย เพิ่งเคยพาผู้หญิงเข้าบ้านครั้งแรกก็จะมาคุยเรื่องแต่งงานแล้ว

"ขอบคุณค่ะคุณแม่" ดวงตางามกรอกไปมองเขาเล็กน้อย ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็ดีน่ะสิ เรื่องแม่ของเธอจะได้ง่ายขึ้น

"ดูแฟนเราสิไม่มีเครื่องประดับเลย เดี๋ยวแม่จะดูของหมั้นไว้ด้วย"

ขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะหยุดแม่ พ่อก็เดินอุ้มปลาบปลื้มออกมาพอดี

"ขอบคุณมากครับแม่ แต่เรื่องนั้นเดี๋ยวผมจัดการเองก็ได้"

"เมื่อไรเราจะว่างจัดการล่ะ เรื่องพวกนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแม่ดีกว่า หนูคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมจ๊ะ" พอพูดกับลูกชายจบนางก็หันไปพูดกับว่าที่ลูกสะใภ้บ้าง

"คุณแม่น่ารักจังเลยค่ะ" หญิงสาวยิ้มหวานแบบปิติยินดี แต่ในใจก็เต้นแรงเพราะคิดว่าถ้าอยู่กันสองต่อสองต้องถูกเขาตำหนิยกใหญ่แน่

..บนรถ..

ผิดความคาดหมายมาก ถ้าเขาตำหนิสักนิดเธอจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่เขาเล่นนิ่งเงียบมาจนถึงโรงพยาบาล

"ฉันขึ้นไปข้างบนก่อนนะคะ" หญิงสาวหันไปพูดด้วยแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร ชายหนุ่มลงจากรถแล้วเดินตรงเข้าไปก่อน

ไอยวริญรีบสาวเท้าเดินตามไปจนทันเขาตรงหน้าประตูลิฟต์

"ไปไหนกันมาคะเนี่ย" ขณะที่กำลังยืนรอลิฟต์อยู่ก็ได้ยินเสียงสุพัตรา

"ไปค้างที่บ้านมา"

"ไปค้างที่บ้านเหรอคะ" สายตาสุพัตรากรอกมองไปดูผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ หญิงสาวรีบเอาคอเสื้อขึ้นมาปิดรอยนั้นไว้ ถึงแม้มันจะจางลงไปมากแล้วแต่เธอก็ยังคงประหม่าอยู่

"ฉันขอตัวก่อนนะคะ" พอประตูลิฟต์เปิดออก เธอก็รีบเข้าไปด้านใน

"เดี๋ยวผมขึ้นไปส่ง ถ้ามีอะไรค่อยไปเจอกันที่ห้องทำงานแล้วกัน" ชายหนุ่มหันไปพูดกับสุพัตราก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดลง

"เธอแน่มากเลยนะ" แพทย์หญิงสุพัตราได้แต่มองตามลิฟต์ที่กำลังเลื่อนขึ้นไปชั้นบน ที่จริงสุพัตรารู้อยู่แล้วว่าเซอร์เวย์ไม่ได้ตายด้านหรือไม่ได้ชอบผู้ชาย เพียงแค่เขายังไม่เจอใครที่สามารถจะทะลายกำแพงนั้นได้

"เรื่องที่แม่ผมพูด คุณไม่ต้องเก็บไปใส่ใจ"

"เรื่องอะไรคะ"

"ก็เรื่องแต่งงานไง"

"ฉันเป็นประเภทที่ไม่อยากจะขัดใจผู้ใหญ่ด้วยสิคะ"

"อย่าบอกนะว่าคุณต้องการให้มันเป็นแบบนั้นตั้งแต่ทีแรกแล้ว" ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียขัดดอก