เมียครับ ผัวขอโทษ นิยาย บท 46

“เดี๋ยวค่ะจริงไหมคะที่มีข่าววงในบอกว่าคุณภัทรพลคบหากับคุณศศินาแบบลับๆ มาเป็นสิบปีแล้ว และอาศัยอยู่ด้วยกัน”

จบคำถามนี้นักข่าวที่เหลือก็ฮือฮา ส่งเสียงดังระงมส่งคำถามกันอีกรอบ ช่างภาพทำหน้าที่บันทึกภาพ กันสนั่นหวั่นไหว หันมาจ่อไมค์ถามศศินาที่ยืนอยู่ไม่ไกลแทน ศศินารู้สึกเหมือนโลกจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากปากนลินี เธออยากวิ่งหนีจากตรงนี้ ออกไปให้ไกลจากที่นี่แต่ยังไม่ได้ทำตามที่ใจคิด คำถามที่เธอไม่อยากตอบก็ถูกส่งมาที่เธอ เสียงคำถามอื้ออึงในหู ภาพนักข่าวจำนวนมากจ่อไมค์มาที่เธอแสงแฟลชวิบวับจนแสบตาไปหมดทุกคนต่างรอคอยคำตอบ เธอเหลือบตามองไปทางภัทรพลที่ยืนหน้าซีดอยู่ข้างรัฐมนตรีช่วยผู้ซึ่งมองมาอย่างรอคำตอบ ความกดดันทั้งหมดถูกโยนมาที่เธอ ในเวลาไม่ถึงนาทีแต่ศศินากลับรู้สึกว่านานชั่วกัปป์ชั่วกัลป์ เธอไม่อยากโกหก

... แต่ถ้าพูดความจริงออกไปจะกระทบกับคนมากมาย ชื่อเสียงของนลินีจะป่นปี้ ถ้าเธอบอกเพียงว่าเธอกับภัทรพลมีความสัมพันธ์อย่างไรกัน ท่านสุรวิทย์จะอับอายที่หลานสาวถูกหลอกให้คบซ้อน งานวันนี้จะพังทลายลง จากงานแถลงข่าวประชาสัมพันธ์ผลงานบริษัทจะกลายเป็นงานที่สาดสีแห่งความหมองมัวมาที่สยามพาณิชย์แทน ผู้คนจะจดจำแต่เพียงว่า บริษัทที่มีผู้บริหารที่ปลิ้นปล้อนหลอกลวงเชื่อถือไม่ได้ ความเป็นบริษัทที่มีจริยธรรมสูงสุดถึงสี่ปีซ้อนจะหายไปทันที ความภูมิใจของเจ้าสัวอนันต์ที่สั่งสมคุณงามความดีไว้ตลอดการทำงานจะสูญเปล่า เพราะจากนี้ไปคนมากมายจะจดจำภาพลักษณ์ของบริษัทจากภาพวันนี้ และที่สำคัญที่สุด ผู้ชายคนนั้น ผู้ชายที่เธอรัก เขาจะกลายเป็นคนสารเลวให้คนทั้งประเทศรุมประนาม ผู้ชายที่มีเมียแล้ว แม้จะยังไม่แต่งงาน แต่อยู่กินกันมานานร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาเกือบสิบปี ทิ้งเมียไปหาผู้หญิงคนใหม่ที่สาวกว่าสวยกว่า เรื่องนี้สังคมไทยรับไม่ได้ และจะถูกเล่นข่าววิพากษ์วิจารณ์ไปอีกตราบนานเท่านาน ไม่มีวันที่ผู้คนจะลืมเลือนเพราะเมื่อไหร่ที่ชื่อถูกเอ่ยถึงแล้วเอาไปเป็นคำค้นหาในอินเตอร์เนตก็จะมีแต่ข่าวนี้ไม่มีวันหายไปไหน นี่อาจจะเป็นการตอบแทนครั้งสุดท้ายให้กับผู้ชายที่เธอรัก ผู้ชายที่เป็นดั่งครอบครัว ครอบครัวคนสุดท้ายบนโลกใบนี้ของเธอ ศศินาสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดปั้นยิ้มที่คิดว่าดีที่สุด ก้าวออกไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ยืนข้างนางเอกสาวแล้วบอกว่า

“ไม่จริงค่ะ ดิฉันกับคุณภัทรพลเป็นเพียงเพื่อนสนิทกันค่ะ เราเป็นเพื่อนเรียนคณะเดียวกัน สนิทกันมาก จนคนภายนอกอาจจะเข้าใจผิดได้ แต่จริงๆ แล้ว คนในจะรู้ดีค่ะ ว่าไม่มีอะไรเลย สมัยเรียนเวลาเขาไปชอบสาวๆ ที่ไหน ยังมาปรึกษาดิฉันอยู่เลยค่ะ แต่ตอนนี้เขาคบกับน้องน้ำหวานคนเดียวค่ะ ยังมาปรึกษาดิฉันอยู่เลย ว่าจะจีบน้องยังไงฝากนักข่าวทุกสำนักช่วยแก้ข่าวด้วยนะคะ ว่าดิฉันยังโสดนี่ขายไม่ออกมาหลายปีเพราะคนเข้าใจผิดแบบนี้ค่ะ ต้องขอบคุณคำถามนี้นะคะที่ทำให้ดิฉันได้ชี้แจง ต่อไปใครจะจีบเข้ามาเลยนะคะ โสดค่ะ”

นักข่าวหัวเราะให้กับมุขตลกของเธอ รวมไปถึงท่านสุรวิทย์ ก็พลอยหัวเราะไปด้วย

“อ้าวโสดจริงๆ เหรอคุณศศินา เก่งๆ แบบนี้น่าเสียดายลูกชายคนโตของผมยังว่างนะ ทาบทามเป็นลูกสะใภ้ไว้ก่อนได้ไหม”

สิ้นเสียงของท่านรัฐมนตรีช่วยบรรยากาศก็ดูผ่อนคลายขึ้น

“คุณศศินาให้คุณน้ำหวานผ่านไหมคะในฐานะเพื่อนสะใภ้”

“ให้ผ่านอยู่แล้วสิคะ สวยน่ารักแสนดีแบบนี้ ใครจะมองข้าม ขนาดคุณภัทรพลโสดมาตั้งหลายปี ยังตกหลุมรักในเวลาอันรวดเร็วเลยค่ะ”

ทุกคำพูดที่พูดออกไป ช่างกรีดใจตัวเอง เจ็บ เจ็บเสียให้พอ หลังคำตอบของเธอนักข่าวก็หันไปสนใจพระเอกนางเอกของงาน มีคำถามมากมายถึงความรักของคนทั้งคู่ รวมไปถึงคำถามต่อท่านสุรวิทย์ว่าถูกใจหลานเขยคนนี้ไหม และจะมีข่าวดีเมื่อไหร่ ศศินาเหลือบมองภาพคนทั้งสามที่แย้มยิ้มให้สัมภาษณ์ เธอสบตากับเขานิ่งนานก่อนจะเดินออกมาจากวงสัมภาษณ์เงียบๆ เดินออกไปห่างไกลผู้คน