“หนูนาคิดดูอีกทีดีไหมลูก”
“คิดดีแล้วค่ะ นาไม่ได้ตัดสินใจด้วยอารมณ์แน่นอน นาคิดทบทวนมาหลายครั้งแล้ว มันอาจจะดีที่นาเป็นคนไปเอง ทางนั้นก็เป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม ถ้ารุกออกมาให้ข่าวขนาดนี้ เขาคงมั่นใจและคิดดีแล้วค่ะ ถ้าพีทยังลังเลและตัดสินใจไม่ขาดอยู่แบบ นี้ รังแต่จะให้เกิดความเสียหายกับทุกฝ่ายซึ่งอาจจะกระทบต่อชื่อเสียงของสยามพาณิชย์ได้ เพราะทางโน้นเขาก็มีตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล ผิดพลาดอะไรขึ้นมามันไม่ดีมันอาจจะกระทบกับธุรกิจได้ นาเลยคิดว่านาจะไปค่ะ”
“โธ่หนูนาลูก”
ชายชราถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว ขนาดจะไปและเจ็บขนาดนี้ ลูกสะใภ้ของเขาก็ยังคิดถึงภัทรพลมาก กว่าคิดถึงตัวเอง รู้สึกเสียดายหญิงสาวผู้เป็นลูกสะใภ้ทางพฤตินัยอย่างสุดซึ้ง และคิดเสียใจแทนลูกชายคนเดียวของเขาว่าช่างไม่มีวาสนา ที่จะรักษาผู้หญิงดีดีแบบนี้เอาไว้ อดย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องราวของตนเองกับแม่ของภัทรพลไม่ได้ ที่ต้องจบกันทั้งที่ยังรัก ชีวิตของลูกชายเขาช่างคล้ายคลึงกับชีวิตของเขานัก
“แล้วหนูนาจะไปไหนลูก”
ภัทรพลไปพบบิดาของนลินีที่สำนักงานอัยการแต่เช้า แต่ได้คำตอบจากเลขาหน้าห้องของท่านว่า
“ท่านรองไปศาลค่ะวันนี้น่าจะไม่เข้า”
ชายหนุ่มจึงขอเบอร์โทรของหน้าห้องไว้ เพื่อที่จะได้โทรถามและมาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ หลังจากนั้นเขาก็ขับรถเข้าบริษัท
ศศินาไปพบติณห์ที่ตึกพิริยะตามเวลาที่นัดกับติณห์ไว้ ติณห์มานั่งรอศศินาก่อนเวลานัดเล็กน้อยที่คาเฟ่ใต้ตึกพิริยะ ร้านกาแฟใต้ตึกนี้เป็นของตวงพรน้องสาวของเขาที่ชอบทำขนมและเรียนจบหลักสูตรทำขนมมาจากฝรั่งเศส สิบโมงตรงศศินาก็เดินเข้ามาในร้านด้วยชุดสูทกางเกงแบบเข้ารูปพอดีตัวสีเปลือกมังคุด ดูน่ารักอ่อนหวานและเหมาะกับเธอมาก ไม่รู้เป็นอะไรแต่ติณห์รู้สึกว่าศศินาน่ารักขึ้นทุกครั้งที่เจอ และเขาก็คิดถึงเธอบ่อยๆ เวลาที่เขาเผลอ
“คุณนาสวัสดีครับ”
ติณห์ลุกขึ้นยืนต้อนรับเธอ เขารู้สึกขัดเขินแปลกๆ เหมือนกลับไปเป็นเด็กหนุ่มอีกครั้ง พรางยื่นช่อดอกกุหลาบสีขาวให้กับเธอ ศศินาตกใจที่ได้รับดอกไม้จากติณห์ เธอไม่ได้คิดว่าจะมาพบติณห์ในบรรยากาศแบบนี้ หญิงสาวรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่ก็เอื้อมมือไปรับไว้ พร้อมกล่าวขอบคุณ
“ขอบคุณค่ะ แต่เนื่องในโอกาสอะไรคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียครับ ผัวขอโทษ