“เป็นอะไรน้ำหวานสีหน้าไม่ดีเลย เหนื่อยเหรอไหวไหม”
บีบีถามเด็กในสังกัดระหว่างพักกองรู้สึกสงสารเธออยู่เหมือนกัน เพราะทำงานเจ็ดวันไม่มีวันหยุด เพราะต้องให้คิวกองละครที่ต้องหยุดถ่ายเพราะนางเอกป่วยถึงสองอาทิตย์ ฉากอื่นที่ไม่มีเธอทางผู้กำกับก็เก็บไปหมดแล้ว ละครก็เร่งออกอากาศให้ทันตามกำหนด นลินีเลยไม่ได้พักนี่ขนาดเธอยกเลิกไปหลายงานแล้วก็ยังเยอะเอาการอยู่ก็เพราะช่วงนี้นลินียังอยู่ในกระแสมากๆ ใครๆก็อยากขอคิวงานจากเธอ งานไหนที่พอจะเสนอเด็กในสังกัดคนอื่นไปแทนได้ เธอก็เสนอไปแทน ยกเว้นงานที่ติดสัญญาจริงๆและทางเจ้าของงานต้องการให้เป็นนลินีเท่านั้นและที่ต้องเคลียร์งานขนาดนี้เพราะอีกเดือนเศษก็จะเป็นงานหมั้น ก็ต้องเคลียร์คิวไว้สำหรับการเตรียมงานอีก ช่วงนี้เด็กของเธอจึงต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำทุกวัน
“ยังไหวค่ะพี่บี”
“ไหวทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ”
“น้ำหวานคิดเรื่องพี่พีทค่ะ”
“คุณพีทเขาทำไมบ่นเหรอ ตายจริงพี่ลืมไปว่ารับงานให้น้ำหวานทุกวัน จนลืมไปว่ามีคุณพีท เขาจะบ่นพี่ไหมนี่ ที่พี่ไม่ให้น้ำหวานพักเลย”
“ถ้าบ่นน้ำหวานจะไม่คิดมากเลยค่ะ แต่นี่พี่พีทไม่บ่นเลย แถมยังบอกให้น้ำหวานทำงานเต็มที่”
“อะไรกันเด็กคนนี้แฟนดีขนาดนี้ยังจะมาทำหน้าเบื่อโลกอีก ไอ้เราหรือก็คิดว่าคุณพีทเขาบ่นน้อยใจ”
“ไม่เลยค่ะ นอกจากพี่พีทเขาไม่บ่นแล้ว เขาก็ยังไม่โทรหาน้ำหวานเลยนะคะ ไม่โทรหาไม่ส่งข้อความมา มีแต่น้ำหวานที่โทรไปส่งข้อความไป จนบางทีน้ำหวานก็อดน้อยใจไม่ได้ เหมือนพี่พีทเขาไม่สนใจน้ำหวานเลย”
“โธ่เด็กโง่ คุณพีทน่ะเขานักธุรกิจนะ ไม่ใช่ธุรกิจธรรมดาด้วย น่าจะระดับหมื่นล้าน คนที่มีหน้าที่การ งานระดับนั้น เขาไม่คิดเล็กคิดน้อยเป็นเด็กๆหรอก”
“พี่บีคิดว่าอย่างนั้นหรือคะ”
“ก็ใช่น่ะสิจ๊ะ”
“แต่พี่บีคะ อีกไม่กี่วันจะหมั้นกันอยู่แล้ว พี่พีทเขายังไม่เคยบอกรักน้ำหวานเลยสักครั้ง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียครับ ผัวขอโทษ