“ไม่ใช่แค่วงการบันเทิงนะมึง รองนายกก็มา ไหนจะรัฐมนตรีอีกไม่รู้ตั้งกี่กระทรวง นี่มันงานระดับประเทศเลยนะเนี่ย”
ดนุรุจพูดพร้อมกับรับไหว้ดาราหลายคนที่เข้ามาทักทายเขา
เขาหันมองดูบรรยากาศโดยรอบที่มีแต่ความครื้นเครง ใช่เขาควรจะมีความสุข แต่ทำไมในใจมันช่างแห้งแล้งเหลือเกิน ใจอดคิดไม่ได้ว่าถ้างานนี้เป็นงานหมั้นระหว่างเขากับศศินาเขาคงมีความสุขไม่น้อย ภัทรพลสะบัดศรีษะเบาๆเพื่อไล่ความคิดฟุ้งซ่าน เตือนตนเองว่า มันไม่อาจแก้ไขอะไรได้อีก เขาต้องทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด หน้าที่ที่เมียรักของเขาเลือกทางเดินไว้ให้
“คุณพีทคะได้ฤกษ์แล้วค่ะ ท่านให้บีมาตามไปเริ่มพิธีค่ะ”
บีบีผู้จัดการของคู่หมั้นของเขาเดินมาตาม เขาเดินตามหญิงสาวไป ทำทุกอย่างตามที่ทุกคนสั่ง ให้ยิ้มก็ยิ้มให้นั่งก็นอนให้ไหว้ก็ไหว้ จนถึงขั้นตอนการสวมแหวน จึงได้มีโอกาสพินิจคู่หมั้นตัวเองชัดๆ เธออยู่ในชุดไทยห่มสไปเฉียงสีเข้าคู่กับชุดเขา แลดูอ่อนหวานน่ารัก เหมือนนางในวรรณคดี รอยยิ้มแย้มปรากฎอยู่เต็มใบหน้างาม
หญิงสาวส่งมือให้ชายหนุ่มผู้เป็นคู่หมั้น เขาหยิบแหวนเพชรเม็ดงามขนาดห้ากะรัตมาสวมที่นิ้วนางของเธอ เสียงกดชัตเตอร์ของช่างภาพชื่อดัง รัวไม่ยั้งเพื่อเก็บภาพที่ดีที่สุด เธอก้มลงกราบแทบตักเขา เขายกมือรับไหว้ด้วยใบหน้าที่ฝืนยิ้มให้สดชื่นที่สุด ในอกแน่นไปหมด อึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก รู้สึกถึงน้ำใสๆไหลลงมาจากหางตา
“เจ้าบ่าวตื้นตันจนน้ำตาไหลเลยค่ะ”
เสียงแซวจากทีมงานคนหนึ่ง เรียกแขกคนอื่นๆให้หันมามองอย่างเอ็นดู ช่างภาพทำหน้าที่เก็บภาพแห่งความชื่นมื่นไว้ เขายกมือขึ้นเช็ดน้ำตาลวกๆ คนอื่นอาจจะคิดว่ามันเป็นน้ำตาแห่งความปลื้มปิติ มีแต่เขาเท่านั้น ที่รู้ว่ามันคือน้ำตาแห่งความอาดูร ทันทีที่สวมแหวนหมั้น เหมือนชีวิตเขากับศศินาจะห่างกันออกไปอีก แต่เขาจะอดทนอดทนรอวันที่เขาจะเป็นอิสระ
“คณพีทหอมแก้มน้องน้ำหวานหน่อยค๊า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียครับ ผัวขอโทษ