แปะๆๆๆๆ
เสียงปรบมือของสามหนุ่มบดินทร์ ต้นน้ำ และสหรัฐดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงหลังจากนาร์เนียและเหมราชแลกแหวนหมั้นกันเรียบร้อยแล้ว พวกเขาทำหน้าปลาบปลื้มไม่ต่างจากรตีและเดวิด ทำราวกับตื้นตันใจนักหนาที่ได้เห็นเพื่อนรักเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที
"กูปลื้มใจมากที่ส่งมึงถึงฝั่ง ไม่เสียแรงที่กูเป็นผู้พิทักษ์ซิงมึงมาตั้งแต่กางเกงสีน้ำเงิน" ต้นน้ำยกมือทาบอกพลางทำหน้าปลาบปลื้ม ท่าทางขี้เล่นของเขาเรียกรอยยิ้มขบขันจากเจ้าของบ้านอย่างนภาและไตรภูมิอีกครั้ง
"คนแรกและคนสุดท้ายของกันและกัน โคตรโรแมนติกเลยว่ะ เมื่อไหร่พระเจ้าจะเห็นใจกูแล้วส่งผู้หญิงคนสุดท้ายมาให้กูบ้างวะ"
"มึงหาคนแรกให้ได้ก่อน" บดินทร์ตบบ่าสหรัฐ เบาๆ ก่อนจะเบนสายตาไปหาเหมราช "กูอยากพูดว่าดีใจมากที่ส่งมึงถึงฝั่งแล้ว แต่ไอ้เหี้ยต้นน้ำมันแย่งพูดไปแล้ว งั้นขอให้มึงกับน้องนาร์เนียรักกันนานๆก็แล้วกัน ให้กำเนิดเมียกูเร็วๆด้วย"
เหมราชชูนิ้วกลางใส่บดินทร์โดยไม่ให้ไตรภูมิและนภาเห็น แต่คนโดนด่าทางอ้อมกลับลอยหน้าลอยตาไม่สะทกสะท้านใดๆ
"ยินดีต้อนรับลูกสะใภ้ของแม่นะ" รตียื่นมือเข้าไปลูบผมลูกสะใภ้หมาดๆด้วยความเอ็นดู พร้อมกับหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าใบหรู
"ของขวัญต้อนรับลูกสะใภ้จ้ะ"
"ขอบคุณค่ะ" นาร์เนียไหว้ขอบคุณอย่างนอบน้อม พร้อมรับของขวัญมาเปิดดู ภายในกล่องกำมะหยี่สีแดงขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือบรรจุสร้อยคอเพชรชุดใหญ่ไว้ รวมถึงต่างหูและสร้อยข้อมือเพชรเข้าชุด เป็นของขวัญที่มีมูลค่าเทียบเท่ากับสินสอดสิบล้านบาท
"เป็นลูกสะใภ้แม่แล้วอยากได้อะไรก็บอกแม่นะ หรือบอกพี่เหมเขาก็ได้ แม่อนุญาตให้รีดไถเต็มที่" รตีพูดติดตลก
"ขอบคุณนะคะ หนูชอบของขวัญมากเลยค่ะ"
"ถ้าโดนเหมรังแกอย่าเพิ่งทิ้งลูกชายแม่นะ มาบอกแม่ เดี๋ยวแม่ตบมันเอง"
"ค่ะ" นาร์เนียพยักหน้ารับยิ้มๆ ต่างจากเหมราชที่ทำหน้าระอากับความเห่อลูกสะใภ้ของผู้เป็นแม่
"ขอบคุณที่เอ็นดูนาร์เนียมากขนาดนี้นะคะ" นภาพูดขึ้นบ้างหลังจากที่นั่งมองมาหลายนาที เธอสัมผัสได้ถึงความเมตตาและเอ็นดูที่รตีกับเดวิดมีให้ลูกสาวของเธอ
"ได้ข่าวว่าคุณนภาก็เอ็นดูตาเหมไม่น้อยเหมือนกัน ขอบคุณนะคะที่ยอมรับลูกชายไม่เอาไหนของฉันเป็นลูกเขย"
"เหมเป็นเด็กดีนะคะ ไม่เคยสร้างความหนักอกหนักใจให้ครอบครัวเราเลยค่ะ อีกอย่างฉันชอบคนจริงใจแบบเหมค่ะ เหมก็เป็นเหมือนลูกชายของฉันอีกคนนึง"
"คุณนภาพูดจริงเหรอคะคุณไตรภูมิ" รตีถามไตรภูมิติดตลก
"ครับ แค่ดูแลลูกสาวผมได้ ไม่ทำตัวเป็นนักเลงไปยกพวกตีกับใครอีกผมก็เบาใจแล้วครับ"
"เรื่องนี้ต้องยกความดีความชอบให้หนูนาร์เนียเลยครับที่ทำให้เหมมันเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นได้" เดวิดเยินยอลูกสะใภ้อย่างออกนอกหน้า ทำเอาไตรภูมิกับนภายิ้มแก้มปริ
"ไหนๆก็หมั้นหมายกันเรียบร้อยแล้ว งั้นอยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนค่อยกลับนะคะ ฉันทำแกงไว้หลายอย่างเลยค่ะ" นภาเอ่ยชวน ก่อนจะหันหน้าไปหาเพื่อนของลูกเขยทั้งสามคน "เดี๋ยวทานข้าวกับแม่ก่อนนะค่อยกลับบ้าน"
"ครับ!" สามหนุ่มตอบประสานเสียง
เมื่อพูดคุยกันเสร็จแล้วนภากับไตรภูมิจึงเดินนำเข้าไปในห้องรับประทานอาหารก่อน โดยมีรตีกับเดวิดเดินตามเข้าไป ในขณะที่บดินทร์ ต้นน้ำ และสหรัฐยังนั่งอยู่ที่เดิม เพราะไม่อยากตามไปเป็นส่วนเกิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียนักเลง