@หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
"เหมมมมม! คนหล่อของหนู~ เหมคนหล่อ เหมคนหล่อไปส่งหนูที่มหาลัยหน่อยยยยย~"
"อื้อ~" น้ำเสียงคุ้นหูดังรบกวนข้างกกหูในช่วงเช้าของวันใหม่ที่แสงแดดเริ่มสาดส่องเข้ามาในห้องนอน เหมราชเปล่งเสียงครางอื้อในลำคอเบาๆขณะพลิกตัวนอนตะแคงข้าง แต่ก็โดนศีรษะทุยเล็กของเจ้าของเสียงเมื่อสักครู่ดันเข้ามาคลอเคลียใต้ปลายครางจนต้องลืมตาตื่น
"ก่อกวนแต่เช้าเลยนะ" เขาเอ็ดคู่หมั้นสาวเบาๆ พร้อมกับกอดรัดศีรษะของเธอไว้แนบอก
"วันนี้หนูมีเรียนตอนเช้านะ ตอนเย็นมีรับน้องด้วย เฮียเหมไปส่งหนูที่มหาลัยหน่อยสิ"
"กี่โมงแล้ว เฮียยังไม่ได้อาบน้ำเลย"
"เจ็ดโมงกว่าแล้วค่ะ เฮียไม่ต้องอาบน้ำหรอก แค่ล้างหน้าแปรงฟันก็พอ เพราะเฮียเหมของหนูตัวหอมอยู่แล้ว"
"หนูก็ตัวหอมนะ ได้กลิ่นหนูทีไรเหมน้อยมันอยากเข้าไปสำรวจถ้ำของหนูทุกที" นักเลงหนุ่มยิ้มกริ่ม พลิกตัวนอนหงายอีกครั้ง แล้วยกตัวนาร์เนียขึ้นมานอนราบบนร่างกายเปลือยเปล่า มือหนาบีบเคล้นบั้นท้ายงอนงามเบาๆ พร้อมกับรูดแพตตี้ตัวจิ๋วของเธอออกอย่างชำนาญ
"ขอเวลาครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวเฮียซิ่งรถไปส่ง"
"ไม่เอา" นาร์เนียตอบหน้ามุ่ยเมื่อโดนดันตัวให้ลุกขึ้น ก่อนที่มือหนาหยาบกร้านจะเลื่อนเข้ามาบีบขยำดอกไม้งามเบาๆ เพียงแค่นั้นร่างกายก็ตอบสนองสัมผัสของเขาด้วยการปลดปล่อยน้ำหล่อลื่นออกมาเปิดทาง
"เมื่อคืนเฮียเหมก็ทำแล้ว"
"เมื่อคืนก็ส่วนของเมื่อคืน วันนี้ก็ส่วนของวันนี้" เขาใช้มือหนารวบกระโปรงนักศึกษาของเธอไว้ ขณะที่มืออีกข้างหนึ่งชักรูดแก่นกายใหญ่เบาๆ ก่อนจะดันมันเข้าไปในร่องสวาทฉ่ำแฉะ
"อ๊า..เฮียไม่ใส่ถุงยางอีกแล้ว"
"พูดเหมือนเฮียเคยใส่" เหมราชกระตุกยิ้มร้ายกาจ พร้อมกับยื่นมือขึ้นไปปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของเธอออก ก่อนจะเริ่มกระแทกกระทั้นร่องสวาทอย่างหนักหน่วงจนมันกระตุกตอดรัด
"ฮะ..เฮียคะ..อ๊า..ยะ..อย่ากระแทกแรง"
"เจ็บหรือเสียว" เด็กสาวกัดปากเบาๆ ขยับสะโพกตอบรับสัมผัสร้อนแรงของเขาให้เป็นคำตอบ
มันเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมงที่เขาและเธอใช้ช่วงเวลาเหล่านั้นตักตวงความสุขจากเรือนร่างของกันและกัน ใช้ความเร่าร้อนปรนเปรอกันเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
@มหาวิทยาลัย
"มาช้าอีกตามเคย ฉันยืนรอจนรากจะงอกอยู่แล้วเนี่ย" นาร์เนียยิ้มแหยเมื่อเดินเข้ามาในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์แล้วเห็นไพลินยืนเท้าเอวรออยู่ หล่อนทำหน้าบูดบึ้งทันทีที่เห็นหน้าเธอ
"บอกเฮียเหมราชของเธอให้เพลาๆเรื่องบนเตียงลงบ้างก็ดีนะ ฉันต้องยืนรอเธอเกือบทุกวันเลยเนี่ย"
"มะ..ไม่ใช่เพราะเรื่องนั้นสักหน่อยที่ทำให้เรามาสาย ไพลินก็รู้นิว่ารถในเมืองติดจะตาย"
"เหรอจ๊ะ" ไพลินทำหน้าล้อเลียน ก่อนจะเดินเข้าไปกอดคอเพื่อนสาว "จะด่าว่าตอแหลมันก็แรงไปสำหรับเด็กน้อยหอยสังข์อย่างเธอ เอาเป็นว่าเธอโกหกไม่เนียนก็แล้วกัน"
"เราขอโทษก็ได้ที่ให้ไพลินรอนาน งั้นเราไปเรียนกันดีกว่าโนะ" ไม่รอให้ไพลินได้บ่นอะไรต่อ นาร์เนียก็รีบเดินก้มหน้าเข้าไปในอาคารเรียนอย่างรวดเร็ว
"นาร์เนีย!" เสียงตะโกนของไพลินดังขึ้นตามหลัง ทำให้นาร์เนียเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นเพื่อไม่ให้ไพลินเดินตามทัน
ปึก!
"โอ๊ย!" เพราะมัวแต่ก้มหน้าก้มตาเร่งฝีเท้า ทำให้ไม่ทันระวังว่าจะมีใครเดินสวนออกมาหรือมีใครยืนอยู่ตรงหน้าหรือเปล่า นาร์เนียหลุดเสียงอุทานด้วยความตกใจเมื่อเผลอเดินชนแผ่นหลังของใครบางคนจนเกือบเสียหลักล้มลง
เธอถอยหลังออกมาลูบหน้าผากปอยๆ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เจ้าของแผ่นหลังกำยำหมุนตัวกลับมาพอดี ใบหน้าหล่อเหลาของเขาสะกดให้เธอจ้องมองจนไม่อาจละสายตา
"ขะ..ขอโทษค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจ" นาร์เนียกล่าวขอโทษขณะไล่มองดวงหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้า เขาดูงุนงงที่โดนเธอชนเข้าอย่างจัง
"นาร์เนีย!" ไพลินวิ่งหน้าตื่นเข้ามายืนข้างๆ พร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปกระซิบกระซาบ "ฉันตะโกนเรียกแล้วยังจะเซ่อซ่าเดินมาชนเขาอีกนะ"
"เรามองไม่เห็น ตอนมองเห็นก็เบรกไม่ทันแล้ว" นาร์เนียกระซิบตอบ
"ปีหนึ่งใช่ไหม ชื่ออะไร" น้ำเสียงทุ่มของคนตรงหน้าดังขึ้น ทำให้นาร์เนียและไพลินรีบหันหน้ากลับไปหาเจ้าของเสียงอย่างพร้อมเพรียง
"ชื่อนาร์เนียค่ะ ขอโทษนะคะที่เดินชนรุ่นพี่" นาร์เนียมองชายหนุ่มตาแป๋วอย่างลืมตัว ทำเอาคนโดนมองชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่มุมปากหนาจะยกยิ้มอย่างยากจะคาดเดา
"เดาว่าเธอคงไม่รู้จักฉันถึงกล้าเดินชนฉัน"
"นะ..หนูขอโทษค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจจริงๆ"
"หึ" ชายหนุ่มนิรนามกระตุกยิ้มมุมปากอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกไป แต่ยังไม่วายกล่าวทิ้งท้าย "ถ้าเจอกันอีกเธอจะเป็นคนแรกที่ฉันลงโทษ"
นาร์เนียได้แต่ยืนเสียวสันหลังกับคำพูดของรุ่นพี่หนุ่ม เธอมองไพลินตาแป๋วเป็นเชิงขอความช่วยเหลือ แต่เพื่อนสาวกลับยักไหล่ให้เป็นเชิงว่าจนปัญญาที่จะช่วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียนักเลง