ณ นครอีรูเดีย เครื่องบินไอพ่นส่วนตัวลำหนึ่งลงจอดที่สนามบินนอร์ธ แฮมป์ตันทำให้เที่ยวบินระหว่างประเทศทุกเส้นทางต้องล่าช้าถึงแปดชั่วโมง ตรงโถงทางเดินส่วนตัวมีชายห้าคนในชุดสูทและรองเท้าหนัง ยืนตัวตรงราวกับเสาไฟฟ้า พวกเขามองดูนาฬิกาข้อมือครั้งแล้วครั้งเล่าระหว่างรอบุคคลสำคัญผู้กำลังจะมายังเมืองนี้ ชนชั้นสูงของนอร์ธ แฮมป์ตันต่างรับรู้การมาถึงของเขา แต่ไม่มีใครสามารถเข้าใกล้โถงทางเดินส่วนตัวนี้ได้มากไปกว่านั้น แม้แต่ผู้ร่ำรวยที่สุดในนอร์ธ แฮมป์ตันที่ตั้งใจมาเพื่อแสดงความคารวะยังถูกไล่ไป ในที่สุดก็มีความเคลื่อนไหวจากโถงทางเดินนั้น “เทพสงคราม” ผู้คนต่างอุทานออกมา สายตาพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัวและความเคารพเมื่อเห็นภาพของตำนานไร้พ่ายแห่งอีรูเดีย เขาได้รับการขนานนามว่าเทพสงครามระดับห้าดาวเพียงหนึ่งเดียวในประวัติศาสตร์ของอีรูเดีย ครั้งหนึ่งเขาพิชิตกองกำลังที่เข้มแข็งที่สุดในสิบแปดประเทศอย่างราบคาบ เขาคือบุรุษผู้ทรงอำนาจและน่าเกรงขาม เขาผู้ซึ่งครองโลกด้วยอำนาจไร้เทียมทันได้ก่อตั้งกองกำลังห้ามหาสงคราม กองพันทหารม้า และอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อเขาเหยียบลงบนผืนแผ่นดินเกิด ลีวาย แกร์ริสันรู้สึกท่วมท้นไปด้วยอารมณ์อันหลากหลาย ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกทิ้งอยู่บนถนนของนอร์ธ แฮมป์ตัน ก่อนจะถูกรับไปเลี้ยงโดยครอบครัวแกร์ริสัน แต่ครอบครัวแกร์ริสันก็ไม่เคยรักใคร่ในตัวเขาเลย พ่อแม่บุญธรรมของเขาเอาแต่ทุบตี ดุด่าเขา ทำเหมือนเขาเป็นคนนอก พวกนั้นทำราวกับเขาไร้ตัวตน แต่เขาไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด เขาภาคภูมิใจในนามสกุลของเขามาโดยตลอดตั้งแต่ยังเด็ก และเขาพยายามจะนำความรุ่งโรจน์มาสู่ครอบครัวนี้เมื่อเขาโตขึ้น ในที่สุด ลีวายก็ได้ก่อตั้งกลุ่มบริษัทลีวายซึ่งเป็นม้ามืดที่ใหญ่ที่สุดในชุมชนธุรกิจของนอร์ธ แฮมป์ตัน ด้วยมูลค่าทรัพย์สินนับพันล้านทำให้ติดอันดับหนึ่งในธุรกิจแนวหน้าของนอร์ธ แฮมป์ตัน ผลักดันให้ครอบครัวแกร์ริสันที่กำลังตกอับกลับขึ้นสู่จุดสูงสุด อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่ครอบครัวแกร์ริสันไม่ได้แสดงความขอบคุณ พวกเขายังเก็บซ่อนความไม่พอใจต่อเขาไว้ด้วย ด้วยอิจฉาความสำเร็จของเขา พวกนั้นมองว่าเขาเป็นเสี้ยนหนามในเนื้อหนังของพวกเขาและต้องการครอบครองกลุ่มบริษัทลีวาย ไม่ว่าเขาจะมั่งคั่งและทรงอำนาจเพียงใด ถ้าพวกนั้นไม่ได้เป็นผู้ควบคุมเขาก็ยังคงเป็นคนนอกในสายตาของครอบครัวแกร์ริสันอยู่นั่นเอง ในที่สุด ในคืนแต่งงานของลีวาย ครอบครัวแกร์ริสันวางแผนกลั่นแกล้งเขาด้วยการทำให้เขาเมาก่อนที่จะโยนเขาลงบนเตียงของพี่สะใภ้ พวกนั้นต้องการจัดฉากว่าเขากำลังทำอะไรไม่ดีกับเธอและถูกจับได้บนเตียงโดยพี่ชายและพ่อแม่บุญธรรมของเขา คืนนั้นครอบครัวแกร์ริสันทำร้ายเขาอย่างโหดร้ายจนแขนขาหักแล้วนำเขาไปทิ้งบนถนนราวกับเป็นสุนัขป่า ไม่เพียงแต่ต้องพิการขายังถูกประณามหยามเหยียดในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำอีกด้วย จากดาวรุ่งในโลกธุรกิจ เขาตกเป็นเป้าแห่งการดูถูกเหยียดหยามเพียงชั่วข้ามคืน และในวันถัดมา เขาถูกลงโทษหลายข้อหาและถูกตัดสินจำคุกหกปี เขาไม่เคยลืมใบหน้าโหดเหี้ยมร้ายกาจของทุกคนในครอบครัวแกร์ริสันและการเย้ยหยันของเพื่อนๆ ร่วมชั้นเรียนและหุ้นส่วนทางธุรกิจ ยิ่งไปกว่านั้น เขาจะไม่มีวันลืมความผิดหวังบนใบหน้าของโซอี้ ภรรยาที่เพิ่งแต่งงานกันหมาดๆ เขาถือว่าครอบครัวแกร์ริสันคือบ้านของเขา และอุทิศตนให้ครอบครัว แต่พวกนั้นกลับทำกับเขาเหมือนเป็นขยะ มันรู้สึกเหมือนมีมีดแทงคว้านหัวใจของเขาทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ เขาเกลียดครอบครัวแกร์ริสันเหลือเกิน! แต่ใครจะคิดว่าลีวายจะถูกย้ายออกจากเรือนจำไปเข้าร่วมกับกองทัพอย่างลับๆ ภายในเวลาสองสามปี เขาได้ครอบครองโลกแห่งการทหารและกลายเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามระดับห้าดาวเพียงหนึ่งเดียว บัดนี้เขากลับมาแล้ว ครอบครัวแกร์ริสันต้องระวังตัวเอาไว้ “เป็นอย่างไรบ้าง มังกรฟ้า” ลีวายถาม มังกรฟ้า ผู้บัญชาการกองกำลังห้ามหาสงคราม ก้าวออกมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแล้วพูดอย่างนอบน้อมว่า “ท่านครับ ผมเกรงว่าคุณโซอี้ โลเปซ ภรรยาของท่านจะแต่งงานใหม่เวลาสี่ทุ่มคืนนี้ครับ!” นับตั้งแต่สามีของโซอี้ถูกส่งตัวไปเรือนจำในคืนวันแต่งงานเธอก็ใช้ชีวิตเหมือนแม่ม่ายมาโดยตลอดมีเพียงพระเจ้าที่รู้ว่าเธอถูกกดดันขนาดไหน และในเวลานี้ คนที่ลีวายต้องการพบมากที่สุดจนแทบทนไม่ไหวก็คือโซอี้ หลังจากลังเลอยู่ชั่วขณะ มังกรฟ้าก็พูดต่อว่า “ยิ่งไปกว่านั้นครับท่าน คืนนี้ครอบครัวแกร์ริสันจะจัดงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จที่ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ ที่โรงแรมคริสตัล พาเลซ ตอนนี้ผู้คนมากมายต้องการเชิญเทพสงครามไปร่วมงาน รวมทั้งครอบครัวแกร์ริสันด้วย แต่ผมยังไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธไปตรงๆ ครับ” “กี่โมง” ลีวายถามห้วนๆ “สองทุ่ม ครับ” “โอเค บอกครอบครัวแกร์ริสันว่าผมจะไปร่วมงาน” เพราะเวลาของทั้งสองงานไม่ตรงกัน ลีวายจึงยินดีตอบรับคำเชิญนั้น งานฉลองโอกาสที่กลุ่มบริษัทแกร์ริสันเข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นบริษัทมหาชนจะจัดขึ้นที่โรงแรมคริสตัล พาเลซ นอร์ธ แฮมป์ตัน พวกเขากลายเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยและทรงอำนาจภายในชั่วพริบตาเพราะความช่วยเหลือจากกลุ่มบริษัทลีวาย ห้องโถงคึกคักไปด้วยเสียงและความตื่นเต้น และเสียงแก้วกระทบกันดังก้องอยู่ในอากาศเป็นระยะๆ “ขอพระเจ้าอวยพรครอบครัวแกร์ริสัน” โจเซฟ หัวหน้าครอบครัวครอบครัวแกร์ริสันกล่าว “คนรุ่นเยาว์เป็นดาวเด่นในหมู่เรา ตอนนี้กลุ่มบริษัทแกร์ริสันได้เข้าตลาดหุ้นและกลายเป็นบริษัทดาวรุ่งในนอร์ธ แฮมป์ตันแล้ว” ลูกชายสามคนและลูกสาวอีกหนึ่งคนของโจเซฟช่วยกันต้อนรับแขกด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส คนรุ่นใหม่ของครอบครัวแกร์ริสันต่างก็เป็นพวกหลงตัวเองและหยิ่งยะโส เพราะหลังจากวันนี้ครอบครัวแกร์ริสันจะกลายเป็นครอบครัวที่ทรงอิทธิพล และพวกเขาจะก็กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มเด็กที่ร่ำรวยที่สุด แขกส่วนใหญ่ที่มาร่วมงานเลี้ยงส่วนใหญ่มาจากกลุ่มคนชั้นสูงในนอร์ธ แฮมป์ตัน “แกร์ริสัน รู้ไหมเกิดอะไรขึ้นวันนี้? งานเลี้ยงฉลองของคุณเทียบไม่ได้เลยกับงานนั้น” พวกเขาต่างซุบซิบกันเรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นในวันนี้ “ใช่ ฉันได้ยินว่าคนสำคัญมาถึงนอร์ธ แฮมป์ตันแล้ว” “คนที่ร่ำรวยที่สุดในนอร์ธ แฮมป์ตันอยากเจอเขาแต่ถูกไล่ออกมา ดูเหมือนว่าเขามีคุณสมบัติไม่เพียงพอ” “อย่างนั้นหรือ? เจสซี่ นีลเซ่นไปรอล่วงหน้าที่สนามบินตั้งห้าชั่วโมง!” โจเซฟพยักหน้า “ผมได้ยินมาอย่างนั้นเหมือนกัน ผมถึงกับส่งคนไปเชิญคนสำคัญคนนั้นมางานเลี้ยงนี้ด้วย” “ไม่มีทาง คนสำคัญจะมางานนี้ทำไม?” ไม่มีใครเชื่อเรื่องนี้ อันที่จริงโจเซฟ ในฐานะคนที่พึ่งมีอำนาจเพียงแค่พยายามเสี่ยงดวงเท่านั้น “พ่อครับ” เจย์คอบลูกชายคนที่สองของครอบครัวแกร์ริสันวิ่งเข้ามาหา “คนสำคัญยอมรับคำเชิญมางานเลี้ยงของเราแล้ว เขากำลังเดินทางมาครับ!” “พระเจ้าอวยพรครอบครัวแกร์ริสันแล้วจริงๆ” ทุกคนในครอบครัวแกร์ริสันแทบปกปิดความยินดีของพวกเขาไว้ไม่ได้ เพราะนี่คือโอกาสที่จะไปถึงเป้าหมายสูงสุดได้อย่างง่ายดาย คนรุ่นหลานของครอบครัวแกร์ริสันต่างมารวมตัวกัน ด้วยจิตวิญญาณที่อบอุ่น ไบรอัน พี่ชายของลีวายกับวิกตอเรียพี่สะใภ้ยิ้ม “จะว่าไป เรื่องมันเริ่มจากการติดคุกของลีวายที่ทำให้ครอบครัวแกร์ริสันมาถึงจุดที่เราอยู่ในวันนี้...” “ใช่ พูดถึงลีวาย รู้ไหมว่าวันนี้เด็กคนนั้นจะออกจากคุก” ใครคนหนึ่งถามขึ้นอย่างกระทันหัน “จริงหรือ นี่มันคือโชคร้ายหรือเปล่า ทำไมมันต้องถูกปล่อยออกมาในวันดีๆ แบบนี้ด้วย?” “ได้โปรด ได้โปรด ได้โปรด อย่ากลับมาเลย เขาคือความอัปยศที่สุดของครอบครัวแกร์ริสัน!” ริมฝีปากของวิกตอเรียขยับยิ้มเยาะเย้ย “พูดถึงเรื่องนี้ ลีวายเป็นเรื่องที่ดีที่สุดของสถานะครอบครัวแกร์ริสันในวันนี้” “นั่นก็เป็นสิ่งที่เขาควรทำอยู่แล้ว!” ไบรอันกล่าวว่า “เขาควรสนับนุนครอบครัวแกร์ริสันที่เลี้ยงดูเด็กกำพร้าอย่างเขา! กลุ่มบริษัทลีวายหลายพันล้านของเขาไม่มีความหมายอะไรเลย พูดสั้นๆ เลย เขาเป็นแค่สุนัขที่ครอบครัวแกร์ริสันเลี้ยงมา!” มีบางคนหัวเราะขึ้น “ที่จริงฉันสนใจเมียของลีวายมานานแล้ว เธอยังเป็นหม้ายอยู่เลย และฉันก็อยากแต่งงานกับเธอนะ” คำพูดของชายคนนั้นทำให้ทุกคนหัวเราะครืน “ทุกคน หยุดก่อน ฉันมีเรื่องสำคัญจะประกาศ” โจเซฟบอกและประกาศเรื่องที่บุคคลสำคัญกำลังเดินทางมาที่งาน มีเสียงปรบมือดังกึกก้อง แต่เมื่อเสียงปรบมือเงียบลง ยังคงมีคนปรบมืออยู่ เสียงนั้นดังชัดเจนมาจากที่ไกลๆ บนพรมแดง ชายคนหนึ่งเดินปรบมือเข้ามา ลักษณะดูห้าวหาญและกระฉับกระเฉง การเดินของเขาดูมีสง่าราศีน่ายำเกรงจนทำให้คนทั้งหลายต้องกลั้นหายใจ “นั่นลีวายนี่!” ไบรอันและวิกตอเรียอุทานออกมา ทันใดนั้นทุกสายตาก็จับจ้องไปที่เขา “ฉันลืมไปว่าเจ้าเด็กเหลือขอนี่ออกจากคุกวันนี้” พ่อแม่บุญธรรมของลีวายพูดขึ้นราวกับประสานเสียง ลีวายเดินทีละก้าวเข้าไปหาโจเซฟโดยไม่ใส่ใจกับสายตาประหลาดใจที่พุ่งมาทางเขา “มีนกน้อยส่งข่าวบอกผมว่าตอนนี้บริษัทเข้าตลาดหุ้นแล้ว คุณรู้สึกยังไงโจเซฟ มีความสุขไหม?” ลีวายส่งยิ้มให้เขาอย่างมีความหมาย “แกกล้าดียังไงถึงโผล่มาที่นี่ เจ้าเด็กอวดดี แล้วแกเรียกฉันว่ายังไงนะ?” โจเซฟรู้สึกโมโหทันที “ใครให้มันเข้ามา รู้ไหมว่ามันเพิ่งออกจากคุก ไม่เป็นมงคลเลย” ไบรอันยืนขึ้น “มาทำบ้าอะไรที่นี่ ลีวาย?” ลีวายมองเขาแบบหยั่งเชิง “ทำไมฉันจะมาไม่ได้ล่ะ?” “อย่างแรกเลย นายมันเด็กกำพร้า ครอบครัวแกร์ริสันชุบเลี้ยงนายมา แต่นายมักใหญ่ใฝ่สูงและอกตัญญู นายอยากได้พี่สะใภ้ และต้องการจะครอบครองสมบัติของครอบครัวแกร์ริสัน พอเรื่องมันแย่ลง นายยังพยายามจะฆ่าพ่อแม่อีก นายไม่มีสามัญสำนึกเลยหรือไง ยังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีหลงเหลือในหัวใจบ้างหรือเปล่า?” “นายเสียชื่อเสียงของนายในนอร์ธ แฮมป์ตันไปแล้ว และทุกคนก็รู้เรื่องนั้น นายไม่อายบ้างเลยเหรอถึงได้กล้ามาที่นี่?”