เพลิงแค้นเทพสงคราม นิยาย บท 4

ตอนที่ 4 ข้าคือเทพสงคราม

“ฮึ?” ซามูเอลนิ่งไปเช่นเดียวกับคนอื่นๆ เขาหมายความว่ายังไง? ซามูเอลขมวดคิ้วนิ่วหน้า “นายจะบอกว่านายคือเทพสงครามเรอะ?” ลีวายยิ้ม “ใช่ ฉันคือเทพสงคราม แต่ฉันไม่เคยรู้จักนาย” ผู้คนระเบิดเสียงหัวเราะลั่น โดยเฉพาะซามูเอลหัวเราะเสียงดังมาก แม้แต่ผู้เฒ่าแฮร์รี่ก็ขำเพราะไม่เคยเจอใครที่สร้างเรื่องไร้สารพขนาดนี้มาก่อน ไอ้ตัวตลก! ลีวายคือตลกเอก “โอ๊ยโซอี้ สามีเธอเป็นคนตลกนะ!” เมลานี ภรรยาของซามูเอลเย้ยหยัน “เขาเรียกตัวเองว่าเทพสงคราม เพียงเพื่อพิสูจน์ตัวเองและรักษาหน้าตัวเองไว้ รู้รึเปล่าว่าเทพสงครามคือใคร เขาคือผู้บัญชาการสูงสุดของเก้าแดนสงครามที่กวาดล้างคนทั้งเผ่าได้ด้วยคำพูดเท่านั้น! อะไรนะ คุกคือแดนสงครามเรอะ? โอ พระเจ้า โซอี้ เธอมีสามีแบบไหนกันแน่ ฉันรู้สึกแย่แทนเธอเลยล่ะ!” คนอื่นๆ พยายามพูดแทรกขึ้น “ต่อไปอย่าพาเขาออกมาอีกเลยนะโซอี้ เธออาจไม่คิดว่ามันน่าขายหน้า แต่เราคิด!” “ใช่ ทีหลังอย่าพาเขามาร่วมงานเลี้ยงครอบครัวเราอีกเลย ครอบครัวโลเปซอยากรักษาชื่อเสียงของเราไว้!” “แอรอน ครอบครัวแกแย่มาก ฉันผิดหวังในตัวแกเหลือเกิน” แฮร์รี่มองแอรอนด้วยใบหน้าโกรธขึ้ง“พระเจ้า ชาติก่อนฉันทำบาปอะไรไว้นะ ถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้?” แอรอนและเคทลินก้มหน้า สีหน้าไม่ดี นี่เป็นวันที่น่าอัปยศอดสูที่สุด! โซอี้นั่งที่มุมห้องท่ามกลางใบหน้าที่เต็มไปด้วยการดูถูกดูแคลนเย้ยหยัน เธอไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว แต่น้ำตาไหลพรากอาบแก้มทั้งสองอย่างเงียบๆ เธอไม่คิดเลยว่าจะต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่น่าอับอายเช่นนี้ โซอี้มองลีวาย รู้สึกรังเกียจเล็กน้อย เธอไม่สนใจว่าลีวายจะเคยถูกคุมขัง และไม่ใยดีว่าการที่เขาเคยติดคุกจะเป็นตราบาปติดตัว ที่เธอสนใจคือทัศนคติของลีวาย ตอนแรก เธอคิดว่าเขาจะเริ่มต้นใหม่จากศูนย์และใช้ชีวิตตามอัตภาพหลังออกจากเรือนจำ แต่ตอนนี้ลีวาย แกร์ริสันคือความผิดหวังที่น่าขมขื่น เขาไม่อยู่กับความเป็นจริง เป็นคนชอบสร้างเรื่องน่าตื่นเต้น นี่ยังไม่ต้องพูดถึงความภาคภูมิใจบ้าๆ นั่นอีก! ตัวตลกอะไรอย่างนี้! โซอี้ไม่อยากจะยอมรับว่านี่คือสามีของเธอ “โอเค นายคือเทพสงครามเหรอ?” ซามูเอลไม่ยอมปล่อยลีวายให้รอดตัวไปง่ายๆ “คืนพรุ่งนี้จะมีงานเลี้ยงต้อนรับในนอร์ธ แฮมป์ตัน เพื่อต้อนรับคนสำคัญคนนี้โดยเฉพาะ หวังว่าจะได้เจอนายที่นั่นนะ!” ซามูเอลมีข้อมูลที่ทันเหตุการณ์ กำลังจะมีงานเลี้ยงนั้นจริงๆ ขณะที่ลีวายตัดสินใจจะลงหลักปักฐานในนอร์ธ แฮมป์ตัน บรรดาผู้อาวุโสได้มอบหมายให้เขาเป็นรองผู้ว่าการเมืองนอร์ธ แฮมป์ตัน ซึ่งดูสมเหตุสมผลมากกว่า ไม่ว่าจะอย่างไร จุดประสงค์ของการมาที่นี่ยังไม่แน่นอน และทุกคนก็หวาดกลัวบุคคลสำคัญคนนี้ มันจึงง่ายที่จะทำให้เกิดความตื่นตระหนก ด้วยเหตุผลนี้ เมืองนอร์ธ แฮมป์ตันจึงตัดสินใจที่จะจัดงานเลี้ยงต้อนรับขึ้น “โอ้ เธอจะได้ร่วมงานเลี้ยงต้อนรับนั่นด้วยรึ ซามูเอล?” แฮร์รี่อดที่จะถามไม่ได้เมื่อได้ยินบทสนทนาของพวกเขา ซามูเอลยักไหล่แล้วยิ้ม “ผมเพิ่งได้บัตรเชิญมาสองใบครับ!” อันที่จริงซามูเอลไปหาซื้อบัตรเชิญสองใบมาในราคาสองล้านเพียงเพื่อจะเอามาอวดที่งานเลี้ยงครอบครัววันนี้ ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างมองซามูเอลอย่างตกตะลึง ทีนี้สองล้านนั่นก็คุ้มค่าแล้ว! เขาคิดในใจอย่างเจ้าเล่ห์ “เธอพอจะหาบัตรเชิญเพิ่มได้อีกไหม ซามูเอล?” แฮร์รี่ถามอย่างไว้เชิง “ถ้าได้ พ่อเธอกับฉันจะได้ไปเปิดหูเปิดตาบ้าง!” เฟเบียนจ้องมองซามูเอลด้วยสายตาคาดหวัง “ผมจะต้องหาบัตรเชิญให้ได้ ไม่ว่าจะวิธีไหน!” ซามูเอลตอบทันที แม้จะรู้สึกว่าต้องจ่ายเงินจนกระเป๋าเบาแน่ๆ นั่นมันอีกสองล้านเลยนะนั่น! “ก็แค่โทรศัพท์อีกสักครั้ง!” ซามูเอลโทรไปซื้อบัตรเชิญเพิ่มอีกสองใบ “ว่าไง โซอี้” เมลานีกระเถิบตัวไปหาโซอี้ “พรุ่งนี้ฉันจะได้เจอเธอที่งานเลี้ยงมั้ย? ฮ่าฮ่าฮ่า...” โซอี้หน้าบึ้งเพราะรู้ว่าเมลานีจงใจทำให้เธออับอาย ไม่นานหลังจากนั้น รถยนต์สีดำคันหนึ่งมาจอดหน้าทางเข้าโรงแรมโกลเด้น พอร์ต จากนั้นชายคนหนึ่งในชุดสูทก็เดินเข้ามา “นั่นเลขาไรลีย์ไม่ใช่เหรอ?” แฮร์รี่รีบเข้าไปทักทายเขาเมื่อรู้ว่าผู้มาเยือนคือใคร ไรลีย์ ผู้ที่มาติดต่อประสานงานกับฝ่ายบริหารระดับสูงทุกวัน คือเลขานุการของสำนักงานเมืองนอร์ธ แฮมป์ตัน แน่ล่ะ เขาต้องแสดงความเคารพ “สวัสดีคุณโลเปซ ผมมาที่นี่เพราะเรื่องเดียว คือมาส่งบัตรเชิญให้ครอบครัวโลเปซสำหรับงานเลี้ยงในวันพรุ่งนี้จำนวนสิบใบ!” หลังจากส่งบัตรเชิญสิบใบให้แล้ว ไรลีย์ก็จากไปอย่างรีบร้อน นั่นคือภารกิจที่หัวหน้าเลขานุการเมืองนอร์ธ แฮมป์ตัน มอบหมายให้เขาทำ ขณะนั้น หัวหน้าเลขานุการเมืองนอร์ธ แฮมป์ตันนั่งอยู่ในรถที่จอดรอด้านนอก เขากลัวที่จะพบกับเทพสงครามผู้เป็นตำนาน คำพูดของเจ้านายใหญ่ของเขายังคงก้องอยู่ในโสตประสาท สมาชิกคนสำคัญทุกคนในครอบครัวพ่อตาของเทพสงครามต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงในวันพรุ่งนี้! เขาจะต้องส่งบัตรเชิญอย่างไม่ให้เป็นที่สนใจ โดยไม่เปิดตัวตนของผู้ส่งอีกด้วย ดังนั้นเขาจึงมอบหมายงานนี้ให้ไรลีย์ ลีวายไม่พูดอะไรเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ แต่ซามูเอลกลับตกตะลึง เกิดอะไรขึ้น? เราเพิ่งซื้อบัตรเชิญมาสองใบนี่นา! ทำไมพวกนั้นส่งบัตรเชิญมาให้เราพร้อมกันถึงสิบใบ? แล้วนั่นใครนะ? เลขาไรลีย์รึ? “เธอนี่มันสุดยอดลูกเขยเลยนะซามูเอล” แฮร์รี่หัวเราะร่วน “ที่ทำให้ท่านเลขาจากสำนักงานเมืองมาส่งบัตรเชิญสิบใบทันทีด้วยคำพูดเพียงคำเดียว ครอบครัวโลเปซภูมิใจในตัวเธอนะ!” เฟเบียนยิ้มหน้าบาน “ให้ตายสิ นายนี่น่าทึ่งจริงๆ ซามูเอล!” ฌอนมองซามูเอลอย่างชื่นชม “เมลานีได้แต่งงานกับคนดีจริงๆ เธอต้องเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลกแน่ๆ ไม่เหมือนโซอี้ที่แต่งกับอาชญากร!” ... “เสียใจด้วยนะที่สามีฉันน่าทึ่งเกินไป โซอี้ ถ้าเธอต้องการความช่วยเหลือในอนาคตก็บอกมา แต่ฉันคงไม่กล้าใกล้ชิดเธอมากเกินไปหรอกนะ” เมลานีหยุดไปชั่วขณะ “ฉันเกรงว่าจะมีใครพยายามเคลมพี่สะใภ้...” โซอี้รู้สึกโกรธจนเดือดปุดๆ เห็นได้ชัดว่าเมลานีดูถูกเธอ แต่เธอทำอะไรไม่ได้เลย เพราะการที่ซามูเอลสามารถทำให้เลขานุการจากสำนักงานเมืองมาส่งบัตรเชิญด้วยตัวเองได้ด้วยการโทรศัทพ์เพียงครั้งเดียวนั้นมันเกินจริงเหลือเกิน ยิ่งไปกว่านั้น บัตรเชิญสำหรับงานเลี้ยงระดับนี้ไม่ใช่สิ่งที่ครอบครัวโลเปซจะได้รับอย่างง่ายดาย ตรงกันข้ามกับแอรอนและเคทลิน ที่ยิ่งรู้สึกอิจฉามากขึ้นไปอีก ถ้ามีลูกเขยแบบนั้น พนันได้เลยว่าเราจะตื่นพร้อมกับรอยยิ้มทุกเช้าแน่นอน ชีวิตคงจะมีแต่นั่งนับเงิน เอ๊ะ แต่น้องชายของซามูเอลตกหลุมรักลูกสาวเราไม่ใช่เหรอ? แต่ถึงอย่างไรทั้งคู่ไม่อาจเปลี่ยนใจโซอี้ได้ พวกเขาจึงได้แต่คิดโดยไม่เอ่ยอะไรออกมา ขณะเดียวกัน ซามูเอลก็สับสนกับเรื่องทั้งหมด ฉันไปมีเส้นสายในเมืองนอร์ธ แฮมป์ตันที่ไหนกัน? พวกนั้นต้องเข้าใจผิดแน่ๆ แต่ในเมื่อเรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว ฉันคงต้องเล่นไปตามน้ำแล้วล่ะ ยังไงมันก็จะทำให้ฉันดูดีนี่นา! ซามูเอลหัวเราะคิกคัก “ขอโทษครับคุณปู่ที่ผมหาบัตรเชิญได้แค่สิบใบ ยังไงก็เถอะครับ งานเลี้ยงแบบนี้ไม่มีที่ว่างมากมายเสียด้วยสิครับ” แฮร์รี่ยิ้มจนปากฉีกเกือบถึงหู “เธอนี่มันสุดยอดจริงๆ ซามูเอล นี่แน่ะ ให้ปู่ดื่มอวยพรให้เธอสักรอบ” พอเห็นเหตุอย่างนั้น แอรอนก็รู้สึกอิจฉา “คุณปู่ ทำไมไม่แจกบัตรเชิญล่ะครับ” ซามูเอลบอก “แน่นอน” แฮร์รี่มีลูกทั้งหมดสี่คน ทุกคนได้รับบัตรเชิญ ยกเว้นครอบครัวของแอรอน บัตรเชิญสองสามใบที่เหลือเขาให้ฌอนกับหลานๆ คนโปรดของเขา “ขอบคุณครับ คุณปู่” ฌอนและเด็กคนอื่นๆ โบกบัตรเชิญในมือไปมาต่อหน้าครอบครัวของแอรอน ครอบครัวของแอรอนได้แต่ก้มหน้าเงียบ ไม่พูดอะไร ในสายตาของแฮร์รี่ พวกเขาไม่มีอะไรดีกว่าพวกน้องๆ และพวกเขาก็รู้ดี ได้แต่โทษตัวเองที่ไร้ค่า ในเวลานั้น ก็มีเสียงพูดดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ “ทำไมเราไม่ได้บัตรเชิญล่ะ” นั่นคือเสียงของลีวาย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เพลิงแค้นเทพสงคราม