เส้นทางการโต้กลับของยอดหมอหญิงอัปลักษณ์ นิยาย บท 10

ทุกคนในจวนกั๋วกงล้วนพร้อมใจกันคุกเข่าลงเพื่อทำความเคารพ "คารวะอ๋องเสียน"

ใบหน้าของมู่ฉางชิงเปื้อนด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน "ทุกคนไม่ต้องมากพิธีนัก ข้าเพียงแค่ผ่านมาที่จวนกั๋วกง อยากจะเข้ามาคุยเล่นกับเฉินอี้ จึงเดินเข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญเอง"

เฉียวชิงหวั่นที่ยืนอยู่ด้านหลังสุดของฝูงชน จ้องมองดูเขาเงียบ ๆ

เขาสวมเสื้อคลุมยาวสีดำ มีคิ้วเรียวยาวและดวงตาเปล่งประกาย ใบหน้าที่อ่อนโยนราวกับหยกนำ้ดีนั้น มักจะมีรอยยิ้มเปื้อนบนใบหน้าเสมอ

ในบรรดาองค์ชายทั้งหลาย เขาเป็นผู้ที่มีรูปร่างหน้าตาและความสามารถที่โดดเด่นที่สุด

มู่ฉางชิงดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงสายตาของนาง จึงหันมามองอย่างสงสัย

เฉียวชิงหวั่นรีบก้มหน้าลงทันที นางรู้สึกผิดต่อมู่ฉางชิงมาโดยตลอด

เมื่อทุกคนยืนขึ้น ท่านยายก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อพูดทักทายกับมู่ฉางชิงพอเป็นพิธี แล้วจึงเชิญให้เขาขึ้นนั่งด้านบน

“อ๋องเสียน เชิญนั่งเจ้าค่ะ” ท่านยายกล่าวเป็นมารยาทว่า “ต้องขอประทานอภัยด้วย ที่มีเพียงนำ้ชาและขนมธรรมดามาต้อนรับท่านอ๋อง อาจจะไม่ดีสมฐานะท่านนัก”

มู่ฉางชิงตอบอย่างเคารพ "เหล่าฮูหยิน ไม่ต้องเกรงใจข้านัก เฉินอี้กับข้าเป็นเพื่อนกันมานานหลายปี ท่านเพียงแค่ปฏิบัติต่อข้าประหนึ่งลูกหลานคนหนึ่งก็พอ ไม่ต้องเชิญข้าขึ้นนั่งหรอก"

เซียวเฉินอี้ก็พูดสนับสนุน "ท่านย่า ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว จื่อเซวียนไม่ใส่ใจในพิธีรีตองพวกนี้หรอก"

สะใภ้หวังพยักหน้าและพูดว่า "เช่นนั้นก็รีบเข้าไปนั่งที่เถิด"

หลังจากที่ทุกคนนั่งลงกับที่แล้ว เซียวเฉินอี้ก็พบว่ามีแม่หญิงสวมผ้าคลุมหน้าอีกคนหนึ่งอยู่ในจวน ดวงตาเรียวคู่นั้นของนางดูคล้ายกับท่านป้าของเขามาก

เขาถามอย่างสงสัย "เจ้าคือลูกพี่ลูกน้องข้า น้องหวั่น ใช่หรือไม่?"

เฉียวชิงหวั่นพยักหน้าอย่างเกร็ง ๆ เอ่ยทักทายอย่างอ่อนน้อม "สวัสดีเจ้าค่ะ ท่านพี่เฉิน"

ดวงตาของมู่ฉางชิงจ้องมองมาที่เธอ แม้ว่าเขาจะมีรอยยิ้มบนใบหน้าแต่กลับแฝงไปด้วยความห่างเหิน

ในใจของเฉียวชิงหวั่นรู้สึกว่าชายคนนี้คล้ายกับนางมากในบางมุม ใช้ชีวิตโดยใส่หน้ากากไว้ตลอดเวลา

นางมักจะแสร้งทำตัวเป็นเด็กดีและเชื่อฟังอยู่เสมอ ในขณะที่เขามักจะแสดงตัวว่าอ่อนโยนและไม่เป็นพิษเป็นภัย

เซียวเฉินอี้กล่าวว่า "ไม่แปลกใจเลยที่วันนี้ท่านยายดูยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา ที่แท้ก็เพราะเจ้ามาท่านเลยดีใจมากเช่นนี้"

ระหว่างที่ทุกคนกำลังพูดคุยเล่นกัน เฉียวชิงหวั่นสังเกตเห็นว่า ตอนที่ทิ้งตัวลงนั่งมู่ฉางชิงใช้มือนวดคลึงที่หัวเข่าของเขา ดูเหมือนว่าตอนนี้ขาของเขาก็มีปัญหาแล้ว

เดิมเฉียวชิงหวั่นเพราะมีรอยแผลเป็นบนใบหน้า จึงสวมผ้าคลุมหน้าไว้ตลอดเวลา แต่วันนี้นางยอมถอดผ้าคลุมออกอย่างเปิดเผย ทุกคนในจวนกั๋วกงล้วนพากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก

แม้แต่มู่ฉางชิงที่เห็นอะไรมามาก ก็ยังมีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นรอยแผลเป็นบนใบหน้าของนาง

หลังจากทุกคนรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ เซียวเฉินอี้และมู่ฉางชิงก็ไปที่ห้องหนังสือด้วยกัน

เซียวอวี่หานพูดด้วยสีหน้ามีความสุขว่า "น้องหวั่น ข้าสั่งให้คนปลูกกุหลาบหนูไว้ในสวน โตมาได้สวยเชียว ไปดูมันด้วยกันเถอะ"

ทั้งสองจึงเดินไปที่สวนด้วยกัน

“กุหลาบหนูดอกนี้สวยมากใช่หรือไม่?” เซียวอวี่หานชี้ไปที่ดอกไม้สีเขียวดอกหนึ่ง

เฉียวชิงหวั่นพยักหน้าและพูดว่า "กุหลาบหนูสีเขียว หาดูได้ไม่ง่ายเลยนะ!"

"แน่นอน ดอกนี้สนมหลันเป็นคนมอบให้ข้า มันมีกลิ่นหอมมาก ข้าไม่เคยเห็นดอกไม้ชนิดนี้มาก่อน" เซียวอวี่หานพูดอย่างตื่นเต้น

สนมหลันเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดของมู่ฉางเหยี่ยน เนื่องจากครอบครัวเดิมของนางไม่มีอำนาจมากนัก แม้ว่านางจะพยายามอย่างมากจนให้กำเนิดเจ้าชายออกมาจนได้ ก็ยังไม่สามารถเลื่อนตำแหน่งขึ้นไปเป็นสนมเอกได้

เฉียวชิงหวั่นถามอย่างเป็นห่วง "พี่หานคุ้นเคยกับ สนมหลันมากงั้นหรือ?"

นางค่อนข้างเป็นห่วงว่า หากแม่ลูกชายที่คิดไม่ซื่อคู่นั้นหันมาสนใจอำนาจทางทหารของตระกูลเซียว พวกเขาจะลงมือทำร้ายพี่หานของนาง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เส้นทางการโต้กลับของยอดหมอหญิงอัปลักษณ์