เซียวกั๋วกงรับราชการในกองทัพมาทั้งชีวิต ลูกหลานจึงล้วนมีจิตวิญญาณของวีรบุรุษติดตัวมาตั้งแต่เกิด
เซียวอวี่หานเห็นสภาพที่หมดอาลัยตายอยากของเฉียวชิงหวั่นแล้วก็ทนดูไม่ได้ จึงพยายามจะเกลี้ยกล่อมนางมาตลอด
เมื่อป้าหวังเห็นว่าลูกสาวพูดแต่เรื่องที่สะกิดปมคนอื่น ก็รีบพูดตัดบทลูกสาวอย่างรวดเร็วว่า "ลูกหาน เจ้าพูดให้มันน้อย ๆ หน่อยเถอะ!"
"สองพี่น้องเขาแค่หยอกล้อกันเล่นเท่านั้น เจ้าอย่าคิดจริงจังไปเลย" ท่านยายพูดเกลี้ยกล่อม "นาน ๆ ทีหลานหวั่นจะกลับมาสักที อย่ามัวแต่ยืนกันอยู่เลย นั่งลงสิ"
ป้าหวังอธิบายว่า "ตั้งแต่เด็กลูกหานก็มักจะพูดไม่ค่อยคิด นิสัยอย่างกับผู้ชายไม่มีผิด ลูกหวั่นเป็นเด็กเรียบร้อยน่ารักมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ข้าก็กลัวนางจะถูกรังแกเข้า"
เฉียวชิงหวั่นส่ายหัว "ท่านป้า ไม่ต้องเป็นห่วง พี่หานทำใจรังแกข้าไม่ลงหรอก"
ชาติที่แล้ว พี่หานดีกับนางที่สุดแล้ว นางจำมันได้ไม่เคยลืม!
และในชาตินี้ นางจะไม่ยอมให้พี่หานต้องโดนทำร้ายอีกแน่นอน!
เซียวอวี่หานพูดอย่างเย่อหยิ่ง "เจ้าอย่าพูดไปเรื่อยสิ ใครทำใจไม่ลงกัน?"
ท่านยายถอนหายใจ "ลูกหวั่น ในนี้ไม่มีคนนอก เจ้าถอดผ้าคลุมหน้าออก ให้ยายดูว่าแผลบนหน้าเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"
ตอนที่ได้ยินว่าหลานสาวเป็นแผลบนใบหน้า นางรู้สึกปวดใจมาก ก่อนหน้านี้หลานหวั่นมีรูปโฉมที่สวยงามมาก อยู่ดี ๆ นางไปได้รับบาดเจ็บมาได้อย่างไร?
ตอนที่นางอายุสิบเอ็ดสิบสองปีก็มีรูปร่างหน้าตาที่ผอมเพรียวสวยสง่าแล้ว หากรอจนนางโตมาจนอายุสิบห้าปี จะต้องเป็นสวยจนไม่มีใครเทียบได้เป็นแน่
ชายที่ต้องการมาสู่ขอ จะต้องพากันเข้ามาจนธรณีประตูจวนรองเสนาบดีไม่แห้งเป็นแน่
แต่นางต้องมาเกิดอุบัติเหตุเช่นนี้ มันช่างน่าเสียดายยิ่งนัก!
เฉียวชิงหวั่นค่อย ๆ ถอดผ้าคลุมออกต่อหน้าทุกคน
เซียวอวี่หานเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ นางไม่คิดว่า แผลเป็นบนใบหน้าของน้องสาวจะยาวมากขนาดนี้ ตั้งแต่มุมของตาขวายาวไปจนถึงคาง
รวมกับผิวที่ขาวนวลของเฉียวชิงหวั่นแล้ว จึงทำให้รอยแผลเป็นนั้นดูโดดเด่นเป็นพิเศษ
ในที่สุดนางก็เข้าใจว่าทำไมน้องสาวถึงหวาดวิตกเช่นนั้น นางสวยมากมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะไปที่ใดก็มักจะเป็นจุดสนใจของคนรอบข้างเสมอ ตอนนี้นางต้องกลายมาเป็นเช่นนี้ คงจะไม่สามารถยอมรับได้ในทันทีแน่
“น้องหวั่น แผลเป็นที่หน้าของเจ้าไม่สามารถรักษาหายได้แล้วจริงหรือ?” เซียวอวี่หานมองดูนางด้วยความเสียใจอย่างมาก
ป้าหวังพูดอย่างอ่อนใจ "ได้ยินว่ารองเสนาบดีเชิญคนจากสำนักแพทย์หลวงมาจนหมดแล้ว แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้"
เฉียวชิงหวั่นนำผ้าคลุมหน้าขึ้นมาสวมอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าดวงตาของท่านยายเริ่มแดงก่ำแล้ว นางจึงรีบเดินเข้าไปปลอบทันที "ท่านยาย ไม่ต้องเสียใจไป ข้าเก็บตัวอยู่ในห้องหนังสือของท่านพ่อมาตลอดหลายวัน และศึกษาตำราวิชาแพทย์จากหนังสือทั้งหมดที่มีในนั้น ในที่สุดข้าก็พบวิธีรักษาจนได้"
นางพูดพลางยกมือขึ้นมาลูบแก้มของตน พลางจึงพูดยิ้ม ๆ ว่า "เพียงแค่ทายาให้ครบเป็นเวลาหนึ่งเดือน แผลเป็นนี้ก็จะหายไปเอง"
ท่านยายคิดว่านางแค่หาข้ออ้างมาเพื่อปลอบใจตนเท่านั้น
แผลเป็นยาวขนาดนี้จะไปรักษาเองหายได้อย่างไร?
"หลานหวั่น แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของหญิงสาวจะสำคัญ แต่นิสัย มารยาทและความรู้นั้นเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่า วันหน้ายายจะหาช่วยคู่สมรสที่ดีให้เจ้าอย่างแน่นอน"
ท่านยายกำลังสงสารนางอยู่ นางรู้อยู่ในใจดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เส้นทางการโต้กลับของยอดหมอหญิงอัปลักษณ์
รอตอนต่อไปค่าาาา...
เรื่องนี้ลงให้จบน้าค้าาา...