สรุปตอน บทที่ 5 – จากเรื่อง เส้นทางการโต้กลับของยอดหมอหญิงอัปลักษณ์ โดย Internet
ตอน บทที่ 5 ของนิยายการเกิดใหม่เรื่องดัง เส้นทางการโต้กลับของยอดหมอหญิงอัปลักษณ์ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เย่ว์ผิงเดินไปหยิบสมุดบัญชีของสองเดือนนี้มาให้นางอย่างไม่มีทางเลือก
เฉียวชิงหวั่นเปิดพลิกดูทีละหน้าอย่างละเอียด พลางเอ่ยถามอย่างไม่ใส่ใจนัก "เสมียนเย่ว์ เจ้ามาที่ร้านเฝ้าจันทรานานเท่าใดแล้ว?"
“ตอบคุณหนูขอรับ ครบสองปีแล้วขอรับ”
สองปีหรือ? คงจะกินเงินของร้านไปไม่น้อย จริงไหม?
เฉียวชิงหวั่นปิดสมุดบัญชีเสียงดัง แล้วจึงถามเสียงเย็นว่า "เสมียนเย่ว์ เจ้าคิดว่าไม่มีใครสามารถมองช่องโหว่ในบัญชีพวกนี้ออกได้งั้นหรือ?"
เย่ว์ผิงรีบแก้ตัวทันทีว่า "คุณหนู ท่านเข้าใจข้าน้อยผิดแล้ว ข้าทำงานที่ร้านเฝ้าจันทราแห่งนี้มาสองปีแล้ว ไม่เคยทำงานผิดพลาดเลย คุณหนูพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?"
“ปลายเดือนที่แล้วเจ้าได้สั่งซื้อวัตถุดิบอาหาร ในปริมาณที่เพียงพอจะให้ใช้เดือนได้ทั้งเดือนแล้ว แต่เจ้าก็ซื้ออีกเมื่อต้นเดือนนี้ ซึ่งน่าจะเพียงพอสำหรับสองเดือน สุดท้ายเมื่อสิ้นเดือนนี้เจ้าก็ซื้อวัตถุดิบอีก เจ้าสั่งซื้อวัตถุดิบบ่อยครั้งเช่นนี้ไปเพื่ออะไรกัน?”
หนึ่งเดือนสั่งซื้อวัตถุดิบเพียงครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว แต่เขากลับซื้อถึงสามครั้งในสองเดือน แต่เนื่องจากการตรวจสอบบัญชีจะตรวจเพียงแค่บัญชีของเดือนปัจจุบันเท่านั้น ท่านแม่จึงไม่เคยตรวจพบความผิดปกติอะไรมาก่อน
วิธีที่เขาใช้ไม่ได้นับว่าฉลาดมากมายนัก แต่ขอแค่ตั้งใจและตรวจซำ้ไปซำ้มาหลายครั้งหน่อย ก็จะพบความผิดปกติได้ไม่ยาก
เยว่ผิงรีบพูดแก้ตัวทันทีว่า "คุณหนู วัตถุดิบในฤดูใบไม้ร่วงมีราคาถูก การที่เราซื้อตุนไว้เยอะหน่อยจะช่วยประหยัดไปได้มากในฤดูหนาว"
เฉียวชิงหวั่นไม่ได้เปิดโปงคำโกหกของเขาในทันที แต่ถามพลางยิ้มอย่างมีเลศนัยว่า "วัตถุดิบที่เจ้าตุนไว้อยู่ที่ใดงั้นหรือ?”
เย่ว์ผิงตอบทันทีว่า "ข้าให้คนนำวัตถุดิบไปเก็บตุนไว้ในโกดังด้านนอก"
"งั้นหรือ?" เฉียวชิงหวั่นไม่คิดจะปล่อยเขาไปง่าย ๆ "ไปเอาสมุดบัญชีในช่วงสองปีนี้มาให้ข้าทั้งหมด"
เย่ว์ผิงตกใจมากจนหน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อที่แตกพลั่ก เขาไม่คิดว่าจู่ ๆ คุณหนูใหญ่จะมาไม้นี้!
เมื่อเห็นว่าเขาดูไม่ค่อยเต็มใจ เฉียวชิงว่านจึงถามอีกครั้งว่า "ตอนนี้เจ้าของร้านกำลังตรวจสอบบัญชี แต่เจ้ากลับหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่ยอมเอาบัญชีออกมาให้ตรวจเช่นนี้ หรือว่าเจ้ากำลังปกปิดอะไรไว้อยู่? จะให้ข้าส่งคนไปแจ้งความก่อนดีหรือไม่?”
มาจนถึงตอนนี้ ลุงเหวินก็มองเห็นควาผิดปกติในตัวเย่ว์ผิงแล้ว จึงพูดเสียงดุว่า "คุณหนูจะตรวจสอบบัญชี แต่เจ้ากลับยึกยักไม่ยอมส่งมอบบัญชีเช่นนี้ มันหมายความว่าอย่างไร? หรือว่าเจ้ามีเรื่องปิดบังอยู่จริง ๆ"
แน่นอนว่าเย่ว์ผิงมีเรื่องปิดบังอยู่ แต่เขาไม่กล้าพูดออกมา
ตอนนี้หากเขายอมส่งมอบสมุดบัญชีออกมา เรื่องจะต้องปูดออกมาอย่างแน่นอน แต่จะไม่ส่งมอบ คุณหนูใหญ่คงจะต้องแจ้งความแน่!
สุดท้ายเขาก็ต้องส่งมอบสมุดบัญชีกองใหญ่ออกมาอย่างไม่มีทางเลือก
เฉียวชิงหวั่นไม่ได้รู้สึกยุ่งยากแต่อย่างใด นางค่อย ๆ พลิกตรวจดูสมุดบัญชีทีละเล่มอย่างละเอียด พบว่าวิธีการยักยอกเงินของเย่ว์ผิงล้วนเป็นวิธีเดิม ๆ ทั้งหมด
"เสมียนเย่ว์ เจ้านี่ทำงานเพื่อร้านเฝ้าจันทราดีเสียจริงนะ? เจ้าเริ่มกักตุนวัตถุดิบตั้งแต่ปีที่แล้ว มาจนถึงปีนี้จะอย่างไรก็ต้องมีหลายหมื่นกิโลแล้วจริงไหม? พาข้าไปดูวัตถุดิบที่กักตุนไว้หน่อยสิ"
"อะไรนะ?" เย่ว์ผิงใช้เงินพวกนี้หมดไปนานแล้ว แล้วจะไปเอาวัตถุดิบมาจากที่ไหน?
"เจ้ามีปัญหาอะไรงั้นหรือ?"
"ไม่ไม่ไม่ไม่..."
เฉียวชิงหวั่นพูดอย่างใจเย็น "เจ้าไม่มีปัญหาก็ดี อีกสองวันข้าจะมาที่นี่อีกครั้ง"
เมื่อทั้งสามคนเดินมาถึงหน้าประตู ลุงเหวินก็พูดด้วยสีหน้ารู้สึกผิดว่า "คุณหนู ข้าขอโทษ เย่ว์ผิงทำงานภายใต้ความรับผิดชอบของข้ามานานขนาดนี้ แต่ข้ากลับไม่เคยพบความผิดปกติของเขาเลย !"
กักตุนวัตถุดิบอะไร ล้วนเป็นข้ออ้างเท่านั้น!
วัตถุดิบหลายหมื่นกิโลไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ หากมิใช่เพราะคุณหนูใหญ่ตาแหลมพบเข้าเสียก่อน คงจะถูกเย่ว์ผิงยักยอกออกไปจนหมดแน่
"ลุงเหวิน ลุงไม่ต้องจำเป็นต้องโทษตัวเอง ท่านพ่อข้าเป็นคนแนะนำคนผู้นี้มา ลุงถึงไม่เคยคิดสงสัยในตัวเขา อย่างไรก็ตามข้าขอเตือนลุงไว่ก่อน ว่าคน ๆ นี้เป็นพี่ชายแท้ ๆ ของป้าเย่ว์"
ต่อมา เฉียวชิงหวันก็เอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงที่กดต่ำลงว่า "สองสามวันนี้ลุงต้องจับตาดูเขาไว้ให้ดี อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้ล่ะ!"
ลุงเหวินพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่ง "คุณหนู ไว้ใจข้าได้เลยขอรับ"
ลุงเหวินคนนี้มาจากครอบครัวของท่านแม่ ได้รับการฝึกฝนอบรมเป็นอย่างดีจากจวนกั๋วกง แน่นอนว่าเขาย่อมจงรักภัคดีต่อท่านแม่เป็นที่สุด
“ลูกหวั่นเอ๋ย เป็นเพราะความสะเพร่าของแม่เอง ลูกไม่สบาย แม่ยังไม่ได้อยู่ข้าง ๆ ดูแลลูก ตอนนี้ลูกไม่สบายตรงไหน แม่จะไปเรียกท่านหมอมาดูให้ลูก”
"อาการป่วยของข้าหายดีแล้วค่ะ" เฉียวชิงหวั่นจับมือแม่ของนาง และพูดด้วยตาแดงก่ำว่า "ข้ารู้ว่าช่วงนี้ท่านแม่ไม่อยู่บ้าน เพราะไปหาท่านยาย ข้าไม่เคยโทษท่านแม่เรื่องนี้"
เพราะว่าวันนี้เป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของท่านยาย เพื่อจะระลึกถึงท่านยาย ท่านพ่อท่านแม่จึงไปทานอาหารเจที่วัดเป็นเวลาเจ็ดวัน
เฉียวฮูหยินพูดด้วยสีหน้าโล่งใจ "ลูกหวั่น เจ้าโตขึ้นแล้วจริง ๆ ตอนนี้เจ้ารู้จักเห็นใจพ่อกับแม่แล้ว"
ทั้งสองเดินกลับไปที่เรือนของเฉียวชิงหวั่นพร้อมกัน
เฉียวชิงหวั่นถอดผ้าคลุมหน้าออกอย่างเปิดเผย เมื่อเฉียวฮูหยินได้เห็นรูปโฉมของลูกสาว ก็รู้สึกว่านางงดงามกว่าตนเองตอนยังสาวเสียอีก
น่าเสียดาย... อุบัติเหตุครั้งนั้นทำลูกสาวของนางต้องเสียโฉม!
เฉียวฮูหยินสามารถเข้าใจได้ว่าทำไมนิสัยของลูกสาวจึงเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จึงพูดปลอบโยนว่า "ลูกหวั่น ความจริงแล้วรูปโฉมภายนอกไม่สำคัญขนาดนั้น การขัดเกลามารยาทและนิสัยภายในก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน เจ้าไม่ต้องเก็บตัวอยู่ในบ้านตลอดเวลาเพราะแผลเป็นบนใบหน้า ออกไปเดินเล่นข้างนอกจะได้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง”
เฉียวชิงหวั่นรู้ดีว่า นี่ท่านแม่กำลังพูดปลอบใจนางอยู่
ไม่มีทางที่รูปโฉมภายนอกจะไม่สำคัญในสายตาคนนอก!
ชาตที่แล้วนางต้องสูญเสียอะไรไปมากมายเพราะแผลเป็นบนใบหน้านี้ของนาง แต่ก็เป็นเพราะแผลเป็นนี้แหละ ทำให้นางมองเห็นธาตุแท้ของคนรอบข้างได้อย่างชัดเจน
“ท่านแม่ ไม่ต้องห่วงข้า หลายวันมานี้ข้าคิดเอาไว้แล้ว อย่างมากข้าก็แค่ไม่แต่งงาน อยู่บ้านกับท่านพ่อท่านแม่ไปตลอดชีวิตก็ไม่เลว”
เฉียวฮูหยินมองลูกสาวด้วยสีหน้าเจ็บปวด "ไม่ได้หรอก ลูกสาวแม่ดีขนาดนี้ ในอนาคตจะต้องได้พบกับชายที่ดีโดยที่ไม่สนใจรูปลักษณ์ของเจ้า และรักเจ้าจากใจจริงอย่างแน่นอน"
หลังจากผ่านมาหนึ่งชั่วชีวิต นางก็ไม่สนใจเรื่องความรักอีกต่อไปแล้ว
นางแค่ต้องการปกป้องครอบครัว และแก้แค้นเท่านั้น!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เส้นทางการโต้กลับของยอดหมอหญิงอัปลักษณ์
รอตอนต่อไปค่าาาา...
เรื่องนี้ลงให้จบน้าค้าาา...