เส้นทางการโต้กลับของยอดหมอหญิงอัปลักษณ์ นิยาย บท 6

เฉียวชิงหวั่นจูงมือของแม่เอาไว้ พลางพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า "ท่านแม่ ข้ารู้สึกว่าง ๆ จึงออกไปตรวจบัญชีที่ร้านเฝ้าจันทรามา แล้วข้าก็พบความลับที่ยิ่งใหญ่เข้า"

คำพูดนี้ทำเอาเฉียวฮูหยินตกตะลึงไม่น้อย เมื่อก่อนเฉียวชิงหวั่นไม่ยอมไปสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านเลย จึงไม่ต้องพูดถึงการที่นางจะช่วยตรวจสอบบัญชี

แต่นางก็ไม่ได้คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่อะไร คิดว่าลูกสาวของตนแค่ออกไปเที่ยวเล่น แล้วจึงเข้าไปตรวจสอบบัญชีเพื่อฆ่าเวลาเท่านั้น

เฉียวชิงหวั่นพยุงให้แม่ของนางนั่งลง รินนำ้ชาให้ด้วยตนเอง และพูดต่อว่า "เสมียนทำบัญชีของร้านเฝ้าจันทราสั่งซื้อวัตถุดิบถึงสามสี่ครั้งในสองเดือน มันจะไม่บ่อยเกินไปหน่อยหรือคะ?"

หลังจากได้ยินลูกสาวพูดเช่นนี้ เฉียวฮูหยินก็ตระหนักได้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น นางนึกย้อนไปอย่างละเอียดอีกครั้ง และพบว่าจำนวนการสั่งวัตถุดิบในทุก ๆ เดือนมันมากเกินไปจริง ๆ

แต่เย่ว์ผิงเป็นคนที่นายท่านแนะนำมา ดังนั้นนางจึงไม่ได้คิดอะไรมาก

เฉียวชิงหวั่นตั้งใจพูดเตือนว่า "ที่จริงแล้วท่านพ่อไม่รู้นิสัยของเย่ว์ผิงคนนี้ดีพอ เขามีพรสวรรค์ในการคิดบัญชีก็จริง แต่ข้าได้ยินมาว่า เย่ว์ผิงคนนี้เป็นพี่ชายแท้ ๆ ของอนุเย่ว์ที่อยู่ในเรือนตะวันตก"

“พี่ชาย?” จนถึงตอนนี้เฉียวฮูหยินจึงเพิ่งจะตระหนักได้ถึงความรุนแรงของปัญหานี้

อนุเย่ว์จะพูดตามจริงก็เป็นแค่เมียน้อย ครอบครัวของนางไม่จำเป็นต้องมาถึงจวนรองเสนาบดี เฉียวฮูหยินจึงไม่เคยพบหน้าครอบครัวของอนุเย่ว์มาก่อน

“ลูกหวั่น ลูกพักผ่อนก่อน แม่ต้องไปจัดการธุระข้างนอกเสียหน่อย” เฉียวฮูหยินพูดด้วยนำ้เสียงเคร่งเครียด

เมื่อเห็นว่าท่านแม่ได้รับฟังคำพูดของนางไปคิดแล้ว เฉียวชิงหวั่นจึงค่อยรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย

ต้องให้ท่านแม่ตระหนักได้ว่าอนุเย่ว์คนนี้ไว้ใจไม่ได้ ต้องระมัดระวังป้องกันตัวเองให้มากจากคนคิดไม่ซื่อพวกนี้

เฉียวชิงหวั่นเองก็ไม่ได้อยู่เฉย ๆ นางหยิบยาสมุนไพรที่ซื้อกลับมาออกมาทีละชนิด สั่งสาวใช้ทั้งสามคนว่า "พวกเจ้าเฝ้าประตูเรือนให้ดี ห้ามปล่อยให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาเด็ดขาด"

พอนางพูดจบ ก็เดินเข้าไปในห้องและปิดประตูห้องสนิท

หนานเหลียนยื่นคอมองอย่างสงสัย "คุณหนูกำลังเตรียมจะทำอะไรงั้นหรือ?"

ซูยี่ตอบอย่างเย็นชาว่า "อย่าถามในสิ่งที่เจ้าไม่ควรถาม"

ช่วงนี้หนานเหลียนนอกจากจะไม่ค่อยอยากจะทำงาน พอมีโอกาสยังชอบพูดชื่นชมคุณหนูรองให้คุณหนูฟังทุกครั้ง นางไปกินยาผิดมาหรืออย่างไร?

ตกลงว่าใครเป็นเจ้านายของนางกันแน่?

หนานเหลียนพูดอย่างไม่พอใจ "ข้าก็แค่อยากรู้เฉย ๆ มิได้หรือ? ท่าทีแบบนี้ของเจ้าหมายความว่าอย่างไร?"

ซู่อีขี้เกียจจะทะเลาะกับนาง จึงตั้งใจจะไปทำหน้าที่ของตนต่อ

พอหนานเหลียนเห็นว่านางไม่พูดต่อแล้ว ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก จึงพูดตะโกนเสียงดังว่า "ซู่อี เจ้าคิดว่าคุณหนูใหญ่พาเจ้าออกไปด้วยครั้งเดียว เจ้าก็เป็นคนโปรดแล้วงั้นเหรอ อย่าฝันไปหน่อยเลย คุณหนูชอบข้ามากที่สุดต่างหาก"

ลวี่จู๋และชิวซีที่ได้ยินเสียงทะเลาะดัง พวกนางจึงรีบเข้ามาเกลี้ยกล่อมสงบศึกทันที

“ทุกคนก็ล้วนทำเพื่อประโยชน์ของคุณหนูใหญ่ทั้งนั้น มีอะไรก็ค่อย ๆ คุยกัน อย่าทะเลาะกันเลย!”

หนานเหลียนยังไม่ยอมปล่อยไปง่าย ๆ "ก็มีแต่ซู่อีที่ชอบพูดประชดแปลก ๆ ใส่ข้าทุกวัน ข้าไม่ได้ยั่วโมโหนางสักหน่อย!"

"ทะเลาะอะไรกัน"

ประตูถูกเปิดออกจากห้องริมด้านหนึ่ง เฉียวชิงหวั่นยืนมองมาที่พวกนางด้วยสีหน้าเย็นชา

เฟล่าสาวใช้ก้มหัวลงอย่างรวดเร็ว "คุณหนู..."

เฉียวชิงหวั่น หันไปมองซู่อีพลางพูดเสียงอ่อนว่า "ซู่อี เจ้าบอกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้น"

ซู่อีรู้ว่าตนทำเสียงดังรบกวนคุณหนู กำลังคิดจะก้มหน้ายอมรับความผิด แต่หนานเหลียนกลัวว่านางจะฟ้องโดยโยนความผิดให้นาง จึงชิงพูดขึ้นตัดหน้า โดยฟ้องว่า "คุณหนู ช่วงนี้พี่ซู่อีช่างอวดดีนัก ข้าน้อยแค่ถามด้วยความเป็นห่วงคุณหนูเท่านั้น ก็โดนนางดุเข้าให้แล้ว"

ความสามารถในการใส่ร้ายป้ายสีของนาง ช่างเหมือนกับเฉียวซือโหรวเสียจริง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เส้นทางการโต้กลับของยอดหมอหญิงอัปลักษณ์