เส้นทางการโต้กลับของยอดหมอหญิงอัปลักษณ์ นิยาย บท 8

ฮูหยินเฉียวคิดเพียงว่าอยากจะให้จวนสงบสุข จึงไม่เคยคิดใส่ใจในเรื่องเล็กน้อยหลังบ้านมาก่อน

ใครจะไปรู้ว่า มีบางคนที่โลภมาก มีแล้วก็ยังอยากได้มากขึ้นไปอีก!

แม้ว่าเฉียวชิงหวั่นจะไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ แต่เฉียวฮูหยินก็เข้าใจสิ่งที่นางจะสื่อแล้ว ต่อไปคงจะต้องระวังตัวจากแม่ลูกคู่นั้นเอาไว้ให้มาก

หลังอาหารเย็น เฉียวชิงหวั่นก็กลับไปพร้อมสาวใช้

เมื่อนางกลับมาถึงเรือนของตน ซู่อีก็ตรงเข้ามารายงานเสียงเบาว่า "คุณหนู หลังจากที่คุณหนูออกไป ข้าน้อยแสร้งทำเป็นไม่เห็น ว่าอวิ๋นเอ๋อร์สาวใช้คนสนิทของคุณหนูรองมาหาหนานเหลียน และมอบบางสิ่งให้กับนาง”

ตอนนั้นเองลวี่จู๋กับชิวซีจึงเพิ่งเข้าใจว่าคุณหนูไม่ได้เข้าใจหนานเหลียนผิดแต่อย่างใด!

สาวใช้ทั้งสี่คนติดตามรับใช้คุณหนูมาตั้งแต่เล็ก และเฉียวชิงวานก็สนิทกับพวกนางกว่าสาวใช้คนอื่น ๆ มาก

เฉียวชิงหวั่นแค่นหัวเราะเสียงเย็น "นางรีบร้อนอยากจะทำเป็นคนดีเสียจริงนะ!"

ลวี่จู๋เสนอว่า "ทำไมคุณหนูไม่ลองเตือนหนานเหลียนแบบอ้อม ๆ ดูล่ะเจ้าคะ?"

“ไม่จำเป็น ให้พวกนางได้มีโอกาสแอบสมรู้ร่วมคิดกันสิ ถึงจะดี”

เฉียวชิงหวั่นสั่งว่า "ปกติพวกเจ้าเพียงแค่แอบจับตาดูนางเอาไว้ก็พอ ทันทีที่มีสิ่งของใดหายไป ให้รีบมารายงานกับข้าทันที"

ซูยี่พยักหน้าและพูดว่า "เจ้าค่ะ คุณผู้หญิง"

เช้าวันรุ่งขึ้น ป้าเยว่ออกไปกับสาวใช้

เมื่อเฉียวชิงหวั่นได้ยินข่าว นางก็รู้ทันทีว่าอนุเย่ว์กำลังจะออกไปจ่ายเงินค่าปิดปากแล้ว

ในขณะที่ลวี่จู๋และชิวซีกำลังแต่งตัวให้คุณหนูอย่างตั้งใจนั้นเอง

เฉียวชิงหวั่นส่ายหน้า พลางพูดว่า "อย่าเสียเวลาเลย วันนี้ไปจวนท่านตา ก็ใส่ชุดผ้าแพรสีขาวที่ท่านป้ามอบให้ข้าชุดนั้นก็แล้วกัน"

เมื่ออนุเย่ว์มาถึงร้านเฝ้าจันทรา ก็แอบขึ้นมาที่ห้องรับแขกบนชั้นสองอย่างเงียบ ๆ

"ท่านพี่ ทำไมถึงรีบร้อนเรียกข้ามาที่นี่ตั้งแต่เช้า?”เดิมทีอนุเย่ว์อยากจะหลับให้สบายเสียหน่อยแต่กลับถูกปลุกขึ้นมาแต่เช้า นางจึงอารมณ์เสียมากจริง ๆ

เย่ว์ผิงไม่อยากเสียเวลา จึงพูดตรง ๆ ว่า "น้องข้า ครั้งนี้มีเรื่องเดือดร้อนแล้ว เจ้าต้องช่วยข้า!"

“มีเรื่องอะไร?” อนุเย่ว์ไม่ได้ใส่ใจคำพูดของเขานัก นางค่อย ๆ นั่งลงช้า ๆ อย่างสบายใจ

“คุณหนูใหญ่ในจวนเจ้าไม่รู้ว่าไปกินยาอะไรผิดมา จู่ ๆ ก็เข้ามาตรวจสอบบัญชี!” เย่ว์ผิงพูดพลางกัดฟันกรอด

“แล้วอย่างไรหรือ? คุณหนูไม่เอาไหนเช่นนั้น จะไปตรวจพบอะไรได้?” อนุเย่ว์พูดด้วยนำ้เสียงดูแคลน

“หากว่านางตรวจไม่พบอะไรจริง วันนี้ข้าจะเรียกเจ้ามาที่นี่ทำไมกัน?”

เย่ว์ผิงมองดูท่าทีของนางที่ดูเหมือนกับว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา จึงตวาดด้วยความโมโหว่า "นางไม่เพียงตรวจพบความปกติ นางยังนำบัญชีในช่วงสองปีที่ผ่านมาออกมาตรวจจนหมด แล้วยังสั่งให้ข้านำวัตถุดิบเสบียงหลายสิบกิโลออกมาคืนให้นางภายในสองวันอีกด้วย!”

คราวนี้อนุเย่ว์จึงรู้สึกตกใจขึ้นมาจริง ๆ แล้ว

“ยัยคุณหนูโง่คนนั้นน่ะหรือ จะตรวจสอบบัญชีรู้เรื่อง?”

"ข้าจะโกหกเจ้าไปเพื่ออะไร? เมื่อวานข้ารวบรวมเงินมาได้หนึ่งหมื่นตำลึงแล้ว" เย่ว์ผิงพูดด้วยสีหน้าเย็นชา "เจ้าเองก็ต้องไปหาเงินมาให้ได้อีกห้าหมื่นตำลึง"

อนุเย่ว์ปฏิเสธอย่างไม่พอใจว่า "อะไรนะ ห้าหมื่นตำลึง? ข้าจะมีเงินมากมายขนาดนั้นได้อย่างไร? ห้าพันตำลึงข้ายังหามาไม่ได้เลย!"

"เย่ว์ชิวเหวิน อย่าบังคับให้ข้าต้องโมโหเชียว! หลายปีมานี้เงินที่ข้าส่งให้เจ้าไม่ได้มีแค่ห้าหมื่น ตอนนี้ข้าต้องการให้ความช่วยเหลือ แต่เจ้ากลับบอกว่าไม่มี? ไม่มีห้าหมื่นตำลึง สี่หมื่นตำลึงก็น่าจะมีมิใช่หรือ เจ้าคิดว่าหากฮูหยินในจวนเจ้าคนนั้นไปแจ้งความ เจ้าจะรอดตัวไปได้งั้นหรือ?”

อนุเย่ว์รู้สึกกลัวเล็กน้อย นางพูดเสียงอ่อนว่า "ท่านพี่ เราเป็นพี่น้องกัน ข้าจะทอดทิ้งพี่ได้อย่างไรกัน?"

เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของเย่ว์ผิงก็ดูดีขึ้นมาเล็กน้อย

“เจ้าแค่เอาเงินมาเสียโดยดีก็พอ ข้าจะบอกให้นะ หากว่าข้าต้องเข้าไปติดคุก เจ้าก็จะไม่มีที่พึ่งอีกต่อไป ถึงตอนนั้น พ่อกับแม่ยังต้องมาขอเงินเจ้าอีกเป็นแน่ มาดูกันว่าเจ้าจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร!”

อนุเย่ว์กัดฟันตอบว่า "ได้ ข้าจะกลับไปรวบรวมเงินเดี๋ยวนี้"

“รวบรวมเงินให้ครบภายในวันนี้ล่ะ พรุ่งนี้ข้ายังต้องซื้อวัตถุดิบเสบียงอีก” เย่ว์ผิงเร่ง

อนุเย่ว์ตอบอย่างหมดความอดทนว่า "ข้ารู้แล้ว"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เส้นทางการโต้กลับของยอดหมอหญิงอัปลักษณ์