เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส นิยาย บท 1105

สรุปบท ตอนที่ 1105-1106: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

ตอน ตอนที่ 1105-1106 จาก เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 1105-1106 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายดราม่า เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 1105 เป็นเรื่องดีที่เธอพึ่งพาผม

“อีหลิง บอกฉันมาว่าเขาพูดจริงรึเปล่า”

จ่ายหวินเชิ่งก้มหน้าถามเจี่ยนอีหลิง

ดวงตาสีดําขลับคู่นั้นจ้องไปที่เจี่ยนอีหลิง

เจี่ยนอีหลิงกอดเอวจ่ายหวินเชิ่งแน่นขึ้น

“ไม่จริง ไม่จริง…”

เสียงแผ่วเบาแว่วออกมาจากอ้อมแขนของเขา

“บอกฉันว่าเขามาทําอะไร?”

“เอาเข็มทิศ”

เจี่ยนอีหลิงกอดจ่ายหวินเชิ่งอย่างกังวล

เธอประหม่า

“เขามาเพื่อขอเข็มทิศเหรอ?” จ่ายหวินเชิ่งเข้าใจความหมายของเจี่ยนอีหลิง

เจี่ยนอีหลิงพยักหน้า เพราะพิงหน้าอกของจ่ายหวินเชิ่งอยู่ เมื่อพยักหน้าศีรษะของเธอกระทบเข้ากับหน้าอกเขาสองสามครั้ง

สายตาของจ่ายหวินเชิ่งลึกล้ํายิ่งขึ้น เมื่อเขามองไปที่ชายคนนั้นอีกครั้ง ดวงตาก็เต็มไปด้วยแสงอันเยือกเย็น

ชายวัยกลางคนหัวเราะขึ้น “สาวน้อย เธอมีความสามารถมากจริงๆ ตอนที่แฟนไม่อยู่ ก็พูดกับฉันอย่างใจเย็น ไม่ตื่นตระหนกเลยสักนิด แต่ตอนที่แฟนอยู่ ก็ทนไม่ได้ที่จะเข้าไปในอ้อมกอดของเขา ช่างเป็นสัตว์ร้ายตัวน้อยที่ขี้กลัวจริงๆ”

“เธอเป็นผู้หญิงของผม เป็นเรื่องดีที่เธอพึ่งพาผม” จ่ายหวินเชิ่งตอบด้วยน้ําเสียงเย็นชา “ส่วนคุณ ไปกับหัวหน้าทีมหร่วนและคนอื่นๆ จะดีกว่า”

“อาเชิ่ง นายทําร้ายใจอามากไปแล้ว ตอนเด็กๆ อายังอุ้มนายอยู่เลยนะ” ชายคนนั้นยิ้มอย่างชั่วร้าย

เจี่ยนอีหลิงจับมือจ่ายหวินเชิ่งแน่นขึ้นทันที

การถูกคนที่รู้จักหลอกลวงนั้นเจ็บปวดมากกว่าการถูกคนแปลกหน้าทําร้าย

เมื่อรับรู้ถึงความกังวลของเจี่ยนอีหลิง จ่ายหวินเชิ่งก็เอื้อมมือออกไป และตบหลังเจี่ยนอีหลิงเบาๆ “ฉันไม่เป็นไร เขาไม่มีผลต่อฉัน”

แม้ว่าจ่ายหวินเชิ่งจะไม่รู้ว่าคนสกุลมู่ทําอะไรให้เจี่ยนอีหลิงกังวล แต่เขาก็รู้ว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับตัวเองอย่างแน่นอน

จ่ายหวินเชิ่งเข้าใจเจี่ยนอีหลิงดี สิ่งเดียวที่สามารถทําให้อารมณ์เธอเปลี่ยนไปได้ คือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคนที่เธอรัก

ตอนนี้หัวหน้าทีมหร่วนเข้ามาจากข้างนอก

สมาชิกคนอื่นๆ ล้อมรอบคนสกุลมู่เพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่สามารถหลบหนีได้

“มิสเตอร์มู่ ครั้งนี้คุณหนีไม่พ้นแล้ว คุณถูกจับข้อหาทําการฆาตกรรมจ่ายป๋อเชิน” หัวหน้าทีมหร่วนมองผู้ชายสกุลมู่อย่างดุร้าย

นี่คือฆาตกรที่ทีมปฏิบัติการพิเศษไล่ตามมาเกือบยี่สิบปีแล้ว

เมื่อได้ยินค่าพูดของหัวหน้าทีมหร่วน ร่างกายของจ่ายหวินเชิ่งก็แข็งทื่อ

ฆาตกร…ที่ฆ่าพ่อ…

ทันใดนั้น ความหนาวเย็นก็ลอยขึ้นมาจากฝ่าเท้า ความวุ่นวายตรงหน้าเขาดูเหมือนจะไม่มีอยู่อีกต่อไป

เลือดสีแดงไหลนองบนพื้นรก ค่อยๆ ไหลไปที่เท้าของเขาและแทรกซึมเข้าไปในรองเท้า เขาไม่ได้ยินเสียงใครเลย ในความเงียบนั้นเหมือนคนตาย

จ่ายหวินเชิ่งเหมือนถูกแยกออกจากโลกนี้ และจมอยู่กับความทรงจําของตัวเอง

“อาเชิ่ง”

จ่ายหวินเชิ่งมองลงมาอีกครั้ง เสียงที่อ่อนโยนนั้นอยู่ในอ้อมแขนเขา
ไม่มีเลือดที่เท้า

ผู้ชายคนนี้เป็นเพื่อนของพ่อจริงๆ เขาเคยได้ยินจากพ่อเขาว่าผู้ชายคนนี้และพ่อกับแม่รู้จักกัน เมื่อตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย ความสัมพันธ์ของพวกเขาแน่นแฟ้นมาก

ชายคนนี้ไม่มีอิทธิพลต่อจ๋ายหวินเชิ่ง แต่เขาไม่สามารถให้อภัยกับสิ่งที่อีกฝ่ายทํากับพ่อแม่ของเขาได้

จ่ายหวินเชิ่งไม่ได้พูดอะไร แต่ท่าทางเขาได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาเชื่อเจี่ยนอีหลิงและหัวหน้าทีมหร่วน

ชายวัยกลางคนไม่แปลกใจเลย “นายทําให้ฉันเสียใจจริงๆ ฉันห่วงใยนายเสมอ ฉันใส่ใจทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับนาย”

หัวหน้าทีมหร่วนเกือบจะรังเกียจสกุลมู่ “ในเมื่ออยู่ที่นี่แล้วก็ช่วยทําตัวน่ารังเกียจให้น้อยลงหน่อย ที่คุณยังสนใจเขาอยู่ เพราะกลัวว่าเขาจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของคุณใช่ไหมล่ะ?”

“คุณตํารวจคนนี้อย่าพูดใส่ร้ายผมมั่วซั่วเลย ผมเป็นห่วงเขาเพราะเขาเป็นลูกชายเพื่อนเก่าของผม เพื่อนเก่าของผมทั้งสองคนจากไปแล้ว ผมก็ควรดูแลเขามากขึ้นถูกไหม?”

ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายว่าไม่สามารถพูดคําหยาบได้ หัวหน้าทีมหร่วนและสมาชิกที่อยู่ข้างหลังคงจะพูดจาหยาบคายแล้ว

หัวหน้าทีมหร่วนสูดหายใจเข้าลึกๆ “ผมต้องยอมรับอย่างหนึ่ง คุณทําได้ดีมากในเรื่องของจ่ายป๋อเชิน คุณไม่ได้ทิ้งเบาะแสอะไรไว้ให้เราเลย คดีนี้จึงกลายเป็นคดีที่ยังไม่คลี่คลาย” “คุณตํารวจ คุณไม่ควรพูดเรื่องนี้กับผม แต่ควรพูดกับฆาตกรคนนั้น” ชายวัยกลางคนดูเยือกเย็นมากขึ้น

ไม่ว่าเรื่องนี้จะมีหลักฐานหรือไม่ เขาก็ไม่ต้องการให้ใครมาเตือนตนเอง

ตระกูลจ่ายมาหลายปี และยังไม่มีใครรู้

แต่หากตระกูลจ่ายมีหลักฐานเพียงเล็กน้อย เขาก็คงจะไม่เดินเตร็ดเตร่อยู่ใต้สายตาของหัวหน้าทีมหร่วนเผยรอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้าเคร่งขรึมของตน “แต่เมื่อสองสามปีก่อน คุณฆ่าผู้บริหารของบริษัทจ่ายคนหนึ่ง และเรายังสามารถดําเนินการได้”

รอยยิ้มบนใบหน้าของคนสกุลมู่เปลี่ยนไปในพริบตา

หัวหน้าทีมหร่วนรู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที

คนสกุลมู่คนนี้คิดจริงๆ หรือว่าพวกเขาสร้างฉากใหญ่โตขนาดนี้ เพื่อต้องการที่จะเล่นกับเขาแค่นั้น?

คนสกุลมู่คิดว่าเจี่ยนอีหลิงเริ่มไล่ตามฆาตกรเมื่อสองปีก่อน และตอนนี้ก็ยังไล่ตามอย่างว่างเปล่ารึไง?

ชายสกุลมู่คนนี้อวดดีเกินไปแล้ว เขาดูถูกความสามารถในการทํางานของทีมปฏิบัติการพิเศษเกินไปใช่ไหม?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส