เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส นิยาย บท 1107

สรุปบท ตอนที่ 1107-1108: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 1107-1108 – เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส โดย Internet

บท ตอนที่ 1107-1108 ของ เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส ในหมวดนิยายดราม่า เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 1107 เธอทําได้ยังไง?

หัวหน้าทีมหร่วนกล่าวเสริมว่า “ไม่ว่ายังไง โครงกระดูกของผู้บริหารคนนั้นถูกพบเมื่อหลายปีก่อนใกล้กับเมืองเหิงหยวน ในตอนนั้นคนที่ค้นหากระดูกสําหรับชันสูตรศพก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคู่หมั้นของมิสเตอร์จ่าย”

หัวหน้าทีมหร่วนใช้มือกอดอก ท่าทางของเขาผ่อนคลายมากขึ้น

ตอนนี้ถึงตาพวกเขาแล้วที่จะได้เห็นความลําบากใจของคนแซ่มู่

เมื่อได้ยินดังนั้นสายตาของจ่ายหวินเชิ่งก็จับจ้องไปที่เจี่ยนอีหลิง

เจี่ยนอีหลิงเงยหน้ามองตรงไปที่คนแซ่มู่จากอ้อมกอดของจ่ายหวินเชิง

“ฉันพบชิ้นส่วนเล็บในกระดูกของผู้ตาย หลังจากตรวจสอบดีเอ็นเอแล้วมันไม่ใช่ของผู้ตายเมื่อหนึ่งปีก่อน ฉันจับคู่ดีเอ็นเอเข้ากับดีเอ็นเอที่เกี่ยวข้องในฐานข้อมูล แต่ในบันทึกนั้นไม่ได้บันทึกตัวตนของเจ้าของอย่างถูกต้อง ฉันรู้แค่ว่าที่มาของข้อมูลนั้นเป็นของตระกูลที่มีชื่อเสียงทางตะวันตก”

ในที่สุดสีหน้าของชายคนนั้นก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

อย่าบอกนะว่าเงี่ยนอีหลิงเป็นแพทย์นิติเวชที่รับผิดชอบชันสูตรพลิกศพ

เธอได้ตัวอย่างดีเอ็นเอมาได้ยังไง?

ร่างกายของเขามีแพทย์เฉพาะทางตรวจไม่เคยมีข้อมูลที่โรงพยาบาล อาจกล่าวได้ว่าข้อมูลทางกายภาพทั้งหมดของเขาไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน เจี่ยนอีหลิง

ได้รับข้อมูลมาได้ยังไง?

ชายคนนั้นคิดไม่ถึงความเป็นไปได้ในเรื่องนี้

และจากข้อมูลของเจี่ยนอีหลิง เธอเกือบจะจับคู่กับข้อมูลทั้งโลก

นี่ไม่ใช่แค่การพูดเท่านั้น ไม่เพียงแต่จะต้องมีความสามารถที่จะได้รับข้อมูล แต่ยังต้องมีสิทธิ์และมีเงื่อนไขในภารกิจนี้ด้วย

สายตาเขาจับจ้องอยู่ที่เจี่ยนอีหลิง “ดูเหมือนว่า ฉันจะสังเกตเธอน้อยเกินไป” เขาเริ่มสนใจเจี่ยนอีหลิงจากการหมั้นหมายอย่างเป็นทางการของเจี่ยนอีหลิงและจ่ายหวินเชิ่ง

เขาไม่ได้ศึกษาอดีตของผู้หญิงคนนี้มากกว่านี้

เขาประมาทเกินไปจริงๆ เขาสับสนกับรูปลักษณ์ภายนอกของสาวน้อยคนนี้

หลังจากนั้นไม่นาน ชายคนนั้นก็หัวเราะออกมา

“น่าสนใจดีนะ” ชายคนนั้นพูดว่า “ในกรณีนี้ เจ้าหน้าที่ตํารวจจะพาฉันกลับไปตรวจสอบใช่ไหม? ไม่เป็นไร ฉันให้ความร่วมมือ และให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่”

เมื่อรู้ว่าของตัวเองจะถูกนําตัวกลับไปสอบปากคํา ชายคนนั้นไม่ได้แสดงถึงความตื่นตระหนกที่คนธรรมดาควรจะมี

เขาจําเป็นต้องตื่นตระหนกงั้นเหรอ? นี่เป็นเพียงการสอบปากคําเท่านั้นไม่ใช่ว่าเขาถูก พิพากษาแล้ว ดังนั้นเขายังมีโอกาส

ชายคนนั้นยื่นมือออกไปและขอให้ทีมปฏิบัติการพิเศษจับกุมเขา

เมื่อเห็นท่าทางของชายคนนี้ สมาชิกในทีมที่คิดว่าพวกเขาได้รับชัยชนะครั้งใหญ่ก็รู้สึกไม่มีความสุขอย่างอธิบายไม่ถูก

ก่อนที่ชายคนนั้นจะจากไป เขาหันกลับไปและขยิบตาให้เงี่ยนอีหลิง “เธอน่าสนใจมาก ฉันเริ่มชอบเธอมากขึ้นเรื่อยๆ”

“ป่วยจริงๆ” เมื่อชายคนนั้นถูกนําตัวขึ้นรถหัวหน้าทีมหร่วนก็สาปแช่งเขา

หัวหน้าทีมหร่วนหันกลับมามองจ่ายหวินเชิ่ง “เมื่อกี้นาย…เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในควันสีขาวและจัดการกับคนจํานวนมากได้อีกด้วย?”

หัวหน้าทีมหร่วนมองจ่ายหวินเชิ่งด้วยความตื่นเต้นในการสอบถาม

จ่ายหวินเชิงไม่สนใจหัวหน้าทีมหร่วน

หัวหน้าทีมหร่วนถามอย่างไม่ยอมแพ้ว่า “นายท่านเชิงบอกฉันทีว่านายเรียนรู้ทักษะนี้จากที่ไหน ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพลังของนายสูงขนาดนี้””

นี่เป็นครั้งแรกที่หัวหน้าทีมหร่วนได้พบกับผู้เชี่ยวชาญที่สามารถแยกแยะทิศทางในหมอกได้

“มันไม่เกี่ยวอะไรกับนาย” เห็นได้ชัดว่าจ่ายหวินเชิ่งไม่มีอารมณ์จะพูดถึงค่าพลังของเขากับหัวหน้าทีมหร่วน

“อย่าเลย ฉันอยากรู้จริงๆ” หัวหน้าทีมหร่วนพูดกับเจี่ยนอีหลิงว่า “อีหลิงทําไมเธอถูกห้อมล้อมด้วยคนที่เชี่ยวชาญกันล่ะ? คราวที่แล้วก็พี่ชายของเธอ คราวนี้ก็แฟนของเธออีก”

นําเสียงของหัวหน้าทีมหร่วนฟังดูโลกเล็กน้อย

“ผู้ชาย” ทั้งหมดของเจี่ยนอีหลิง

ท่านผู้เฒ่าจ่ายน้ําตาคลอเบ้า

หลานสะใภ้ไม่ได้เข้าบ้านอย่างเป็นทางการ แต่เธอกลับช่วยตระกูลของพวกเขาก่อน และเธอยังเป็นกังวลมาก!

การที่หาลูกสะใภ้แบบนี้เจอนั้น เป็นพรที่ตระกูลจ่ายของพวกเขาในอดีตได้บ่มเพาะมาหลายชั่วอายุคนไม่ใช่เหรอ?

เมื่อพูดถึงท่านผู้เฒ่าจ่ายก็โทษตัวเองอีกครั้ง

“ปู่สับสนมากจริงๆ ปู่ไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของไอ้สารเลวนั่น เมื่อปู่คิดว่าเขามาที่บ้านเมื่อสองปีก่อนในฐานะแขก ปู่ต้องอาเจียนมื้อค่ําออกมาในชั่วข้ามคืนแน่นอน!

แค่คิดถึงใบหน้าของคนแซ่ภู่ เขาก็รู้สึกขยะแขยง

“ปู่อย่าตําหนิตัวเองเลย” เจี่ยนอีหลิงปลอบใจท่านผู้เฒ่าจ่ายและบอกเขาว่าอย่าโทษตัวเองอีกต่อไป

ตระกูลจ่ายมีธุรกิจขนาดใหญ่ และท่านผู้เฒ่าจ่ายเข้าใจเรื่องธุรกิจทั้งหมด แต่การสืบสวนและ ไขคดีแบบนี้ต้องการคนที่มีความเป็นมืออาชีพ

เจี่ยนอีหลิงไม่ได้ทําโดยตัวเองเพียงคนเดียว แต่เป็นผลมาจากความพยายามร่วมกันของทีมปฏิบัติการพิเศษทั้งหมด

ท่านผู้เฒ่าจ๋ายพูดกับเจี่ยนอีหลิงว่า “อีหลิง ปู่ดีใจจัง เธอเรียกฉันว่าปู่ นั่นทําให้ปู่ใจก็อ่อน!

เมื่อก่อนเงี่ยนอีหลิงเรียกเขาว่า ‘ปู่จ๋าย’ เมื่อขาดไปหนึ่งคํา ความหมายก็ต่างกันไปเล็กน้อย

ท่านผู้เฒ่าจ่ายหันไปมองจ่ายหวินเชิ่ง “เจ้าเด็กเหลือขอ เตือนแล้วนะ ภรรยาที่ดีแบบนี้ อย่าไปรังแกเธออีกเด็ดขาด ถ้าแกกล๊ารังแกเธอ ปู่จะไล่แกออกจากตระกูล”

“แล้วแต่ปู่”

“แล้วแต่ปู่งั้นเหรอ? เจ้าเด็กเหลือขอช่วยตอบด้วยความจริงใจหน่อยได้ไหม?”

“ปู่ อาเซิ่งบอกว่า ถ้าเขารังแกฉัน ให้ฉันลงโทษเขาได้ตามใจชอบ” เจี่ยนอีหลิงช่วยจ่ายหวินเชิงอธิบาย

“นั่นคือสิ่งที่อีหลิงพูดเอง” จ่ายหวินเชิ่งเสริม

“นับว่าเจ้ามีไหวพริบ” ท่านผู้เฒ่าจ่ายเหลือบมองจ่ายหวินเชิ่งและพูดกับเจี่ยนอีหลิงด้วยรอยยิ้มว่า “อีหลิง ดีแล้ว เธอช่วยพ่อตาของเธอตามหาฆาตกรปู่ไม่รู้ว่าเธอควรให้รางวัลอะไร

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส