สรุปเนื้อหา ตอนที่ 1157-1158 – เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส โดย Internet
บท ตอนที่ 1157-1158 ของ เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส ในหมวดนิยายดราม่า เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 1157 และไม่มีใครมีความสามารถเทียบนายได้
มู่หรูไห่ถามจินเฟิงต่อว่า “ไม่มีอะไรอื่นอีกแล้วเหรอ?”
“ไม่…ไม่มีแล้ว”
จินเฟิงเองก็อยากจะรู้เพิ่มว่ามีอะไรอีกเหมือนกัน แต่ปัญหาคือสองคนนั้นอยู่บ้านจินจิ่นทั้งวัน
ไม่ไปไหนทั้งนั้น บางครั้งก็เห็นพวกเขาสองคนเดินผ่านลานบ้านและเดินจากบ้านไปยังรถแค่นั้น มู่หรูไห่ยิ้มมุมปาก “เมื่อสองปีก่อน สาวน้อยคนนี้เล่นงานฉันไว้อย่างหนักเชียว ตอนนี้อยากรู้จริงๆว่าเธอจะหาอะไรฉันได้อีก”
แม้ว่าจินเฟิงจะโง่แค่ไหน เขาก็ควรรู้ว่าชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้ต้องมีปัญหาอะไรกับเด็กหญิงที่เสียโฉมอยู่ในบ้านน้องสาวเขาแน่นอน
“บอส งั้นผมยังต้องดูพวกเขาอยู่ไหม?”
“ไม่ คืนนี้ไปพบกับพวกเขา”
“คิดว่าไง อาหย่ง” ชายหนุ่มข้างหลังมู่หรูไห่เดินตามมาอย่างเงียบๆ
เมื่อเทียบกับบอดี้การ์ดผิวดําคนอื่นๆ ชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้มีรูปร่างกํายํา ใบหน้าเขามีรอยแผลเป็นที่ชัดเจนจากตาซ้ายไปจนถึงด้านล่างขวาของมุมปาก ทําลายใบหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างสมบูรณ์
ชายคนนั้นสวมชุดสีดําและพันด้วยผ้าพันแผลสีขาวในมือของเขา ไม่แน่ใจว่ามีบาดแผลอยู่บนนั้นหรือไม่
“คนที่เป็นอัมพาตอยู่บนเตียงมาสองปี ไม่จําเป็นต้องให้ผมลงมือ”
ชายที่ถูกมู่หรูไห่เรียกชื่ออาหย่งตอบด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“เขามีความสามารถมากก่อนจะล้มป่วยและยังเก่งมากด้วย แน่นอนฉันรู้ดีว่าไม่มีใครมีความสามารถเทียบนาย
ชายที่ชื่ออาหย่งคนนี้มีฐานะพิเศษมาก ตั้งแต่เด็กเขาต้องดิ้นรนอยู่บนความเป็นความตายมาตลอด
เขาคือยอดฝีมือระดับสูงที่ซ่อนตัวอยู่ในเมืองสมัยใหม่ และความแข็งแกร่งของเขานั้นเทียบไม่ได้กับคนธรรมดาทั่วไป
เขาแข็งแกร่งแค่ไหน แม้แต่มู่หรูไห่ก็ไม่มีทางประเมินได้
การรับมือกับคนอย่างจ่ายหวินเชิ่งก็แค่การเล่นสนุกเท่านั้น ต่อให้อาหย่งใช้มือข้างเดียวก็เพียงพอแล้ว
“ในเมื่อมิสเตอร์มู่ต้องการให้ผมจัดการเขา ผมก็จะไป” อาหย่งสีหน้าไร้อารมณ์ แต่เขาเชื่อฟังคําสั่งของมู่หรูไห่
จินเฟิงมองอยู่ด้านข้าง ในใจรู้สึกหวาดกลัวและคาดหวังไว้เล็กน้อย
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ามิสเตอร์มู่คนนี้มาจากที่ไหน แต่ก็สามารถมอบเงินให้เขาและช่วยเขาแก้แค้นได้ ไม่มีอะไรให้เขาไม่พอใจ
ในลานบ้านของจินจิ่น หยูซีให้คนตั้งเต็นท์ชั่วคราว ด้านในเต๊นท์มีโต๊ะอาหารขนาดใหญ่วางอยู่ ทุกคนนั่งกินข้าวเย็นบนโต๊ะขนาดใหญ่
หยูซีน้ําลายไหลมองไปที่ปลาตัวใหญ่ตรงหน้าจ่ายหวินเชิ่ง
แพคเกจความรักพิเศษเป็นอะไรที่น่าเย้ายวนใจจริงๆ
ผัดกบ มะกรูดสโครล เนื้อสันในหลากสี หน่อมังกรหนามภูเขา เต้าหู้ถั่ว
“เทพหลิงอาหารมากมายพวกนี้ นายท่านเชิ่งกินคนเดียวเหรอ?” หยูซีมองดูด้วยความสงสัย “ตอนนี้อาเพิ่งกินมากขึ้นทุกวัน” เจี่ยนอีหลิงอธิบาย
หยูซีมองจ่ายหวินเชิ่งอีกครั้ง ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ดวงตาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ หยูรู้สึกหดหู่ในใจอย่างอธิบายไม่ถูก ในตอนที่ทั้งสองคนป่วย เขาต้องความวิ่งดูแลทั้งสอง
ตอนนี้ร่างกายของทั้งสองคนดีขึ้นแล้ว ไม่คิดจะขอบคุณเขาสักค่า แถมยังป้อนอาหารสุนัขให้เขาอีก เขาท่าบาปอะไร!
“หยูซี ภรรรยาทําอาหารให้นายท่านเป็นเรื่องปกติ นายอย่าไปคิดมากเลย เมื่อนายมีเวลา นายจะต้องหาภรรยาที่สามารถทําอาหารให้นายได้แน่
หยูซีสัมผัสได้ถึงความอาฆาตแค้นจากนายท่านเชิง
เจี่ยนหยุ่นโม่ลุกขึ้นเดินไปข้างเจี่ยนอีหลิง เขารู้สึกว่าผู้ชายคนนี้อาจทําร้ายเจี่ยนอีหลิงได้ทุกเมื่อ
เมื่อสองปีที่แล้วเจี่ยนอีหลิงเกือบจะส่งชายคนนั้นเข้าคุกได้ก่อนที่เธอจะหายตัวไป
มู่หรูไห่ยิ้มและมองไปที่จ่ายหวินเชิ่ง “อาเชิงดูไม่เลวเลย และยังหาภรรยาได้แล้วด้วย สุขภาพก็ดีขึ้น เธอชอบเรื่องรักๆใคร่ๆแบบนี้เหมือนกับพ่อเธอมากเลยนะ”
มู่หรูไห่ไม่เพียงแต่ปรากฏตัวต่อหน้าจ่ายหวินเชิ่งเท่านั้น แต่ยังจงใจพูดถึงจ่ายป๋อเชินด้วย มู่หรูไห่มองจ่ายหวินเชิ่งและเจี่ยนอีหลิงด้วยรอยยิ้ม
รอยยิ้มเขาทําให้ทุกคนที่ทานอาหารในลานบ้านรู้สึกอึดอัด
จ่ายหวินเชิ่งหัวเราะหึ สีหน้าสงบนิ่ง น้ําเสียงไม่ใส่ใจ “ทําไมต้องเลือกออกมาตอนคนอื่นกินข้าวด้วย ไม่รู้เหรอว่าคนจะรู้สึกขยะแขยงเมื่อพวกเขาเห็นแมลงสาบในระหว่างมื้ออาหาร?” “อาเชิ่งพูดแบบนี้ ฉันก็เสียใจนะ เมื่อก่อนเธอยังเรียกฉันว่าลุงมู่อยู่เลย” “จริงเหรอ? นายท่านคนนี้เคยตาบอดขนาดนี้มาก่อนเหรอ? บาปจริงๆ” จ่ายหวินเชิ่งเอามือท้างคางและยิ้มออกมา เขามองศัตรูที่ฆ่าพ่อของเขาตรงหน้าด้วยสายตเกียจคร้าน
“อาเชิ่งสมกับเป็นอาเชิ่งจริงๆ ใจเย็นกว่าคนทั่วไปเสียอีก” มู่หรูไห่กล่าวชมเชย “ฉันมาหาเธอในวันนี้ เพื่อมาเดิมพัน”
“เดิมพัน?” จ่ายหวินเชิ่งเลิกคิ้ว
“เดิมพันทรัพย์สินทั้งหมดของเธอและ…” มู่หรูไห่หันไปมองเจี่ยนอีหลิง “เข็มทิศตระกูลกู้ดแมนในมือของภรรยาเธอ”
สองปีผ่านไป ความปรารถนาของมู่หรูไห่ที่มีต่อเข็มทิศของตระกูลไม่ได้ลดลงเลย เข็มทิศหมายถึงสถานะครอบครัว ความมั่งคั่งและอํานาจ เห็นได้ชัดว่ามู่หรูไห่ไม่ต้องการพลาดสิ่งเหล่านี้
เข็มทิศนั้นไม่รู้ว่าถูกเจี่ยนอีหลิงซ่อนไว้ที่ไหน ในช่วงสองปีที่เธอหายตัวไป มู่หรูไห่ก็ไม่พบเบาะแสใดๆ
“แล้วถ้าคุณแพ้ล่ะ?”
“ถ้าฉันแพ้ ฉันจะบอกความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับการตายของพ่อเธอและยอมมอบตัว อย่างที่เธอรู้ ภรรยาเธอหาหลักฐานได้แค่คดีอื่นเท่านั้น คดีของพ่อเธอไม่มีเงื่อนงําอะไรเลย ต่อให้วันหนึ่งฉันถูกจับ การตายของพ่อเธอก็จะไม่เปิดเผยความจริง และในโลกนี้ คนที่รู้ค่าตอบนี้ก็เหลือแค่ฉันคนเดียว”
ตอนที่จ่ายป๋อเชินตายจ่ายหวินเชิ่งยังเด็กมาก ความทรงจําในวันนั้นเขาไม่สมบูรณ์ เพียงแต่จําได้ในความง่วงงุนว่าพ่อกอดเขาไว้แน่น และเขายังได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน ต่อมาเมื่อพ่อของเขาเสียชีวิต เขาอยู่ในห้องนั้นคนเดียวกับร่างที่ไร้ลมหายใจของพ่อเป็นเวลานาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
เรื่องนี้ยังอัปเดตต่อไหมคะ😭...