เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส นิยาย บท 253

สรุปบท ตอนที่ 253-254: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

อ่านสรุป ตอนที่ 253-254 จาก เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 253-254 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายดราม่า เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

大姐大 บทที่ 253 ทำไมลั่วซวินถึงได้ด้วย

“ของขวัญ” ที่เจี่ยนหยู่หมินได้รับจากเจี่ยนอีหลิงไม่ใช่น้ำตาและน้ำมูกของเธอที่ไหลโชกท่วมกางเกงเขาอีกต่อไป…

สิ่งที่ดีที่สุดก็คือครั้งสุดท้าย ตอนที่เจี่ยนอีหลิงป่วย เขาได้รับหงเปา 8.88 ห้าซองจากเธอ

“ พี่หยู่ ผมรู้สึกเปรี้ยว(อิจฉา/หึง) เปรี้ยวจริงๆ” ลั่วซวินเอนตัวไปมองถุงกระดาษในมือของเจี่ยนหยู่หมินด้วยความอยากรู้

“ผมก็เปรี้ยวเหมือนกัน มันน่าตื่นเต้นเหลือเกิน ทำไมเราไม่มีของขวัญบ้างเลย มันน่าแปลกใจเกินไปจริงๆ”

“นี่มันช่างแตกต่างและน่าเจ็บใจ มื้อดึกวันนี้ไม่อร่อยแล้ว”

สมาชิกที่แสดงความอิจฉาริษยาและความเกลียดชังของพวกเขา

พวกเขาไม่มีน้องสาว และก็ไม่มีน้องสาวตัวเล็กๆที่เอาใจใส่ ซึ่งคอยเตรียมของขวัญให้กับพี่ชายเขา

ลั่วซวินไม่ยอมออกไปจากข้างกายของเจี่ยนหยู่หมิน เขาต้องดูว่าเจี่ยนอีหลิงให้ของขวัญอะไรเจี่ยนหยู่หมิน

ภายใต้การคะยั้นคะยออย่างต่อเนื่องของลั่วซวิน ในที่สุดเจี่ยนหยู่หมินก็เปิดของขวัญต่อหน้าทุกคน

ในถุงกระดาษมีของสองสิ่ง

สิ่งที่เหมือนกันกับคนอื่นก็คือเสื้อไหมพรม มันเป็นเสื้อไหมพรมคอเต่าสีแดงเข้ม

โดยทั่วไปแล้วสีแดงเข้มไม่เหมาะกับผู้ชาย แต่เจี่ยนหยู่หมินไม่มีปัญหานี้

นอกจากนี้ก็ยังมีหมวกไหมพรมสีดำ

สไตล์เรียบง่าย แต่ก็มีเสน่ห์มาก

“พี่ชอบของขวัญของอีหลิงมาก ขอบคุณนะ” เจี่ยนหยู่หมินรู้สึกมีความสุข และสีหน้าเขาก็เปี่ยมไปด้วยความสุขเช่นกัน

ดีใจจังที่มีน้องสาว

“น้องสาว เป็นคนทำเองทั้งหมดเลยนะ” ด้วยกลัวว่าเจี่ยนหยู่หมินจะคิดว่าเจี่ยนอีหลิงซื้อมา เจี่ยนหยู่เจี๋ยจึงเน้นซ้ำอีกครั้ง

เพราะว่าเขาก็ได้รับเสื้อกันหนาวเหมือนกัน

“เชี่ย” ลั่วซวินอุทาน

แค่ได้รับของขวัญก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนอิจฉา และนี่ถึงกับเป็นงานทอมืออีกด้วย

เจี่ยนหยู่หมินสัมผัสเสื้อสเวตเตอร์ด้วยมือทั้งสองข้าง สีหน้าเขาดูมีความสุขอย่างมาก เขาต้องการทำให้สมาชิกในวงคนอื่นๆรู้สึกว่าเขามีความสุขแค่ไหน

เจี่ยนหยุ่นเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉาเช่นเดียวกัน

เขามีเสื้อกันหนาวเหมือนกัน แต่หมวกเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเจี่ยนหยู่หมิน

เจี่ยนอีหลิงหยิบถุงกระดาษใบเล็กตามออกมาจากกระเป๋าใบเล็กที่เธอถืออยู่

ยังมีถุงกระดาษอีกเหรอ

เจี่ยนอีหลิงยื่นถุงกระดาษใบน้้นไปที่ตรงหน้าลั่วซวิน

“ของนาย”

ลั่วซวินประหลาดใจ และชี้ไปที่จมูกตัวเองเพื่อยืนยันกับเจี่ยนอีหลิง”สำหรับฉันเหรอ”

“อื้อ” เจี่ยนอีหลิงรับคำเสียงเบา

ลั่วซวินรีบหยิบถุงกระดาษ

เมื่อเปิดออกดู นั่นเป็นหมวกไหมพรมทอมือ สไตล์และสีเดียวกันกับของเจี่ยนหยู่หมิน

ลั่วซวินรู้สึกปลื้มปิติยินดี

“เชี่ย ฉันก็มีหมวกไหมพรมทอมือจากน้องสาวอีหลิงด้วย”

ในคราครั้งนี้ เจี่ยนหยู่หมินเริ่มไม่มีความสุข “เด็กขี้แย ให้ฉันคนเดียวก็พอ ทำไมต้องให้เจ้าเด็กตัวเหม็นคนนี้ด้วย”

สมาชิกที่เหลืออีกสองคนของวงจูปิเตอร์ก็ยิ่งไม่มีความสุข “ทำไมแค่ลั่วซวินที่ได้ของขวัญ”

เจี่ยนหยู่หมินเป็นพี่ชายและมีความเกี่ยวดองทางสายเลือดอยู่ พวกเขาไม่สามารถเปรียบเทียบ ได้แค่อิจฉาและเกลียดชัง

แต่ลั่วซวินก็เหมือนกับพวกเขาทั้งสองคน ทำไมลั่วซวินถึงได้รับด้วย

หรือว่าความสามารถในการกินรวบทุกช่วงอายุของเจ้าเด็กคนนี้ใช้ได้ผลจริง

หยูซีดูโง่ไปถนัดตา ได้แต่ถามตัวเองว่า เกิดอะไรขึ้นกับสถานการณ์ตรงหน้า น้องสาวอีหลิงให้หมวกไหมพรมที่เธอถักเองกับผู้ชายที่พบเธอเพียงแค่สองสามครั้งงั้นเหรอ

เขารู้จักเทพหลิงมานานแล้วแต่ก็ยังไม่มีส่วนบ้างเลย

โอ้พระเจ้า

หรือว่าการร้องรำทำเพลงมีเสน่ห์มากขนาดนี้เลยเหรอ

แม้แต่เทพหลิงก็ยังทนไม่ได้

เจี่ยนหยุ่นเฉิงก็มีใบหน้าบึ้งตึง มองไปที่เจี่ยนอีหลิงและลั่วซวิน อารมณ์ที่ไม่เป็นสุขก็ระเบิดออกมา

โดยเฉพาะใบหน้าที่ยิ้มแย้มของลั่วซวินเมื่อตอนที่เขาได้รับของขวัญจากเจี่ยนอีหลิง

ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติ เขาคงจะพูดไปแล้วในสิ่งที่เขาต้องการจะพูด อาจจะตรงกว่าของเจี่ยนหยู่หมิน และเขาต้องการเตือนลั่วซวินให้อยู่ห่างจากน้องสาวเขา

แต่ตอนนี้ มีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เขาระงับแรงกระตุ้นนี้

ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเซี่ยวหลิงกลายเป็นแปลกแยกมาก และหากเขายังทำอะไรบางอย่างที่ขัดกับความปรารถนาของเธอในตอนนี้ นั่นอาจทำให้สถานการณ์แย่ลง

เจี่ยนหยุ่นเฉิงเป็นคนที่เยือกเย็น หยิ่ง และอดกลั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะอดกลั้นอารมณ์ แต่เขาก็ยังทนได้

ความรู้สึกอยากจะแทรกแซง แต่ไม่สามารถแทรกแซงได้ทั้งอึดอัดและขมขื่น

ด้วยเหตุนี้อาหารมื้อดึกนี้กลายเป็นจืดชืด

หยูซีใช้เวลาในการส่งข้อความถึงจ๋ายหวินเชิ่งที่ไม่ได้มาที่นี่ในวันนี้ พร้อมกับรูปถ่ายที่เขาแอบถ่าย

[คอนเสิร์ตของจูปิเตอร์จบลงอย่างสมบูรณ์แบบและเทพหลิงได้เป็นคนเริ่มต้นมอบเสื้อกันหนาวถักด้วยมือและหมวกให้เป็นของขวัญ แต่ไม่เพียงเจี่ยนหยู่หมินเท่านั้นที่ได้รับ สมาชิกอีกคนในทีมก็ได้รับเช่นเดียวกัน]

หลังจากส่งข้อความไปก็ไม่มีการตอบรับ

หยูซีคิดว่าอาจจะเป็นเพราะดึกเกินไปจนนายท่านเชิ่งเข้านอนแล้ว

###

ขณะที่ทุกคนกำลังทานอาหารมื้อเย็นในร้านอาหารของตระกูลหยู เจี่ยนหยุ่นน่าวก็อยู่คนเดียวในรถมาตลอดเวลา

แม้ว่าเจี่ยนหยุ่นเฉิงจะบอกเขาว่า เขาสามารถเลือกที่จะกลับด้วยตัวเอง เจี่ยนหยุ่นน่าวก็ยังไม่เต็มใจ และเลือกที่จะอยู่ในรถ รอให้ทุกคนกลับมา

ในเวลาตีหนึ่ง ในที่สุดเจี่ยนหยุ่นน่าวก็เห็นเจี่ยนหยุ่นเฉิง

“พี่ชาย” ดวงตาของเจี่ยนหยุ่นน่าวเป็นประกายขึ้นเมื่อเขาเห็นเจี่ยนหยุ่นเฉิง จากนั้นเมื่อเขามองไปข้างหลังเจี่ยนหยุ่นเฉิง ก็ได้พบว่าไม่มีใครอยู่ข้างหลังเขา

“เซี่ยวหลิงอยู่ไหนเหรอ” เจี่ยนหยุ่นน่าวถามอย่างรีบร้อน

“หยู่หมินพาเธอกลับไปแล้ว”

เจี่ยนหยู่หมินกลับไปที่บ้านหลังเก่า และพวกเขากำลังจะกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลเจี่ยน

ตามหลักการแล้ว การให้เจี่ยนอีหลิงกลับไปพร้อมกับเจี่ยนหยู่หมินเป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผลและได้ผลที่สุด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส