เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส นิยาย บท 255

สรุปบท ตอนที่ 255-256: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 255-256 – เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส โดย Internet

บท ตอนที่ 255-256 ของ เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส ในหมวดนิยายดราม่า เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

大姐大 บทที่ 255 พบเจี่ยนอีหลิงที่สถาบันวิจัย

เจี่ยนหยุ่นเฉิงไม่สามารถหาเหตุผลมาหักล้างได้ เขาจึงได้แต่กลับมาเพียงลำพังเท่านั้น

ดวงตาของเจี่ยนหยุ่นน่าวมืดหม่นลง

เจี่ยนหยุ่นเฉิงขมวดคิ้ว แต่หลังจากนั้น เขาก็ไม่ได้พูดอะไรเพื่อปลอบใจเจี่ยนหยุ่นน่าว

เมื่อสองพี่น้องกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลเจี่ยน พ่อเจี่ยนและแม่เจี่ยนก็ยังไม่ได้พักผ่อน แต่กำลังรอพวกเขากลับไป

สุดท้าย เจี่ยนหยุ่นเฉิงก็ไม่มีข่าวดีใดๆแจ้งให้ทราบ

“พ่อ แม่ ผมอยากกลับไปโรงเรียน”

เจี่ยนหยุ่นน่าวคิดอยู่นานระหว่างทางกลับบ้าน และในที่สุดก็ตัดสินใจเลือก

“นายหยุดพักมานานแล้ว พักอีกสองสามวันก็ไม่มีปัญหา” เจี่ยนหยุ่นเฉิงกล่าวด้วยเสียงทุ้ม

เจี่ยนหยุ่นน่าวส่ายหน้า “ผมรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่โรงเรียน นี่เป็นเพราะผม ไม่ว่าใครจะกระจายข่าว แหล่งข่าวก็คือผม น้องสาวผมถูกทุกคนกล่าวหาใส่ร้านเป็นเพราะผม”

เจี่ยนหยุ่นน่าวไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้บ้างในตอนนี้

แต่อย่างน้อยในเรื่องนี้ เขาก็ควรสามารถให้คำอธิบายกับเจี่ยนอีหลิงได้

เจี่ยนชูฉิงและภรรยาเขาเวินน่วน สบสายตากัน และตกลงตามข้อเสนอของเจี่ยนหยุ่นน่าว

“ถ้างั้นลูกก็กลับไปโรงเรียนได้หลังจากผ่านขั้นตอนการเช็คเอาท์ออกจากโรงพยาบาลแล้ว”

###

ในวันถัดมาหลังจากได้รับความยินยอมจากพ่อแม่แล้ว เจี่ยนหยุ่นเฉิงก็ไปสถาบันเพื่อดำเนินการจัดการขั้นตอนการนำตัวออกจากโรงพยาบาลของเจี่ยนหยุ่นน่าว

สำหรับการฝึกฟื้นฟูต่อจากนั้น เจี่ยนหยุ่นน่าวสามารถกลับไปทำที่บ้านได้ตราบเท่าที่เขากลับมาที่สถาบันเพื่อตรวจสุขภาพเป็นประจำ

เจี่ยนหยุ่นเฉิงบังเอิญเข้าไปเจอะเจอเจี่ยนอีหลิงในสถาบันวิจัย

แต่เพราะว่าเขารู้ว่าเจี่ยนอีหลิงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเฉิงอี้กับหลัวซิ่วเอินจากสถาบันวิจัย ทั้งเขาก็เคยได้ยินจากย่าเจี่ยนว่า หลัวซิ่วเอินมักจะพาเจี่ยนอีหลิงออกไปเที่ยวเล่นเป็นประจำ

ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นเจี่ยนอีหลิงปรากฏตัวในสถาบันวิจัยที่นี่

เกือบจะถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว ผู้คนในสถาบันต่างพากันหยุดทำงานและพากันไปพักผ่อนในห้องอาหารของสถาบัน

เนื่องจากจำนวนสมาชิกของสถาบันวิจัยมีไม่มากนัก ร้านอาหารของสถาบันวิจัยจึงค่อนข้างจะเป็นสไตล์ครอบครัว มีครัวแบบเปิดอยู่ข้างๆ ซึ่งเป็นที่เชฟของสถาบันวิจัยไว้จัดเตรียมอาหารให้กับทุกคน

นอกจากนี้ยังสามารถจัดการได้เองตามความต้องการของทุกคน

เมื่อเจี่ยนหยุ่นเฉิงเห็นเจี่ยนอีหลิง ก็เป็นตอนที่เจี่ยนอีหลิงกำลังยุ่งอยู่ในครัวเปิด

เจี่ยนหยุ่นเฉิงถือโอกาสเดินไปที่เจี่ยนอีหลิง และก็พบว่าเจี่ยนอีหลิงกำลังทำซูชิ

ข้าวปั้นที่ขาวและนุ่มถูกบีบด้วยมือที่ทั้งขาวและนุ่มนวล

เจี่ยนหยุ่นเฉิงยืนดูอยู่อย่างเงียบๆชั่วขณะ

เขาเห็นเจี่ยนอีหลิงทำให้พวกเขากิน จัดวางลงบนจานใครจานมันอย่างเรียบร้อย

ตรงหน้าของเจี่ยนอีหลิง มีหลากหลายจานซึ่งมีการออกแบบลวดลายและสีที่แตกต่างกัน แต่จานทุกจานนั้นมีขนาดเท่ากัน

เมื่อเจี่ยนอีหลิงจัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มีซูชิเจ็ดก้อนในแต่ละจาน

เจี่ยนอีหลิงวางจานเหล่านี้ลงบนถาด และนำพวกมันไปที่ด้านข้างของโต๊ะอาหาร

เฉิงอี้ หลัวซิ่วเอิน ศาสตราจารย์ฉื่อ และสมาชิกคนอื่นๆของสถาบันล้วนมีส่วนร่วม และแต่ละคนก็ได้รับหนึ่งจาน

ทุกคนได้รับสิ่งที่ตนเองชอบ

“น้องสาวอีหลิง พี่สาวคนนี้รักเธอ พี่สาวคนนี้รักเธอแทบตายแล้ว” หลัวซิ่วเอินกำลังจะรีบลุกขึ้นไป “หยิก” แก้มเจี่ยนอีหลิงสักสองสามครั้ง

“อะแฮ่ม พี่สาวเอิน” เฉิงอี้เตือนหลัวซิ่วเอินให้หยุดด้วยเสียงไอ พี่ชายของเธอยังอยู่ที่นี่ พี่สาวเอินก็ยังต้องการจะจู่โจมเธอ จบแน่ จบแน่ๆ

หลัวซิ่วเอินไม่ได้ชอบเจี่ยนหยุ่นเฉิง ดังนั้นเธอจึงทำตัวเป็นไปตามที่เธอต้องการ

ในบรรดาพี่น้องของเจี่ยนอีหลิง หลัวซิ่วเอินชอบเจี่ยนหยู่หมินเท่านั้น

หลังจากเจี่ยนหยุ่นเฉิงเฝ้าดูอยู่ข้างๆสักพัก เขาก็เข้าไปหาเจี่ยนอีหลิงที่กำลังยุ่งอยู่และพูดเบาๆว่า

“เซี่ยวหลิง พี่ชายใหญ่คนนี้ก็หิวเหมือนกัน”

น้ำเสียงของเจี่ยนหยุ่นเฉิงออดอ้อนเหมือนเด็กที่มาขออาหาร

บทที่ 256 เจี่ยนหยุ่นน่าวกลับโรงเรียน 1

เจี่ยนอีหลิงมองย้อนกลับไปที่เจี่ยนหยุ่นเฉิง จากนั้นก็บอกความจริงที่น่าเสียใจว่า

“ไม่มีวัตถุดิบเหลือแล้ว”

สิ่งนี้ได้รับการปรับแต่งเป็นการเฉพาะโดยสถาบันสำหรับเขา มันมีผลในการป้องกัน และการออกแบบภายในนั้นสามารถช่วยให้เขาทำการฝึกฟื้นฟูได้ตลอดเวลา

การกลับมาของเจี่ยนหยุ่นน่าวดึงดูดความสนใจของทุกคนในโรงเรียน

[เจี่ยนหยุ่นน่าวกลับมาที่โรงเรียนแล้ว มือเขาดีขึ้นไหม]

[เยี่ยม เยี่ยม เจ้าชายเปียโนตัวน้อยของเรา ในที่สุดก็กลับมาแล้ว]

[แต่เขาเล่นเปียโนไม่ได้อีกต่อไปแล้วหรือเปล่า]

[ข้อความข้างบนล้าหลัง ฉันได้ยินมาว่าศัลยแพทย์ชั้นนำที่โด่งดังทั้งในและต่างประเทศได้ทำการผ่าตัดมือของเจี่ยนหยุ่นน่าว]

[จริงเหรอ จริงเหรอ มือของเจี่ยนหยุ่นน่าวสามารถรักษาได้เหรอ ช่างน่ามหัศจรรย์ หมออัจฉริยะคนนี้อยู่ไหน อยากเจอ]

[ว้าว ว้าว มันเป็นข่าวดีน่าตื่นเต้นจริงๆ ฉันไม่รู้ว่าเจี่ยนหยุ่นน่าวจะคิดยังไงกับข่าวลือเกี่ยวกับน้องสาวเรื่องผลักเขาตกบันได ไม่รู้ว่าตระกูลเจี่ยนพบบุคคลที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้หรือยัง]

[โปรดติดตามตอนต่อไป ถ้ามีข่าวใดๆ เพื่อนฝูง อย่าลืมสะกิดฉันนะ แบบถึงเลือดถึงเนื้อเลย]

ขณะที่ฟอรัมร้อนแรงขึ้น ในเวลาเดียวกันเจี่ยนหยุ่นน่าวเองก็ปรากฏตัวขึ้นจนกลายเป็นจุดสนใจของชั้นปีที่สาม

ฉันไม่ได้เห็นเขามาสองเดือนแล้ว และเขากก็น้ำหนักลดลงมากอีกทั้งก็ซีดเซียว

แต่ในที่สุดเขาก็กลับมาแล้ว กลับมาที่โรงเรียน

เมื่อเห็นเจี่ยนหยุ่นน่าวอีกครั้ง อารมณ์ของโม่ชืออวิ้นนั้นก็ยิ่งขัดแย้งมากขึ้น

เธอไม่ได้เห็นเจี่ยนหยุ่นน่าวมานานแล้ว

ทั้งเขาเองก็ยังตอบอย่างเย็นชากับข่าวที่เธอส่งให้เขา

โม่ชืออวิ้นไม่ใช่คนที่ชอบแปะแก้มอุ่นๆของเธอกับตูดเย็นๆของคนอื่น*

เมื่อเธอรู้สึกถึงความเฉยเมยและแปลกแยกจากคำตอบของเจี่ยนหยุ่นน่าว เธอก็หยุดที่จะเข้าไปหา

แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขา

ดังนั้นเมื่อเธอเห็นเจี่ยนหยุ่นน่าวอีกครั้งในตอนนี้ เธอก็ไม่รู้ว่าเธอควรจะปฏิบัติต่อเขาแบบไหนดี

———————————–

热脸贴冷屁股 * ใช้หน้าอุ่นแปะก้นเย็น มีความหมายว่า แสดงความรู้สึกอันอบอุ่นกับความเย็นชาของอีกฝ่าย หรือ ถูกดูแคลนต่อเจตนาที่ดี

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส