เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส นิยาย บท 419

สรุปบท ตอนที่ 419-420: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

ตอนที่ 419-420 – ตอนที่ต้องอ่านของ เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

ตอนนี้ของ เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายดราม่าทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 419-420 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เผิงเจี๋ยเพิกเฉยต่อคําแนะนําของเพื่อนร่วมทีม เขายังคงเยาะเย้ยทีมเจี่ยนอีหลิง “เราไม่รู้ว่าใครจะชนะหรือแพ้ในเกมวันพรุ่งนี้ แต่ว่าอินเทอร์เน็ตก็ได้บอกว่าเราจะแพ้อย่างแน่นอน เชี่ย ดีเหลือเกินที่มีเงิน ใช้เงินไปกับเรื่องพวกนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ”

เผิงเจี๋ยได้ทะเลาะกับหยูซีเมื่อวานนี้ ทุกคนอยู่ที่นั่นเมื่อตอนที่พวกเขาโต้เถียงกัน

เขาไม่อยากยอมรับว่าตนเองผิด ดังนั้นนี่หมายความว่าเขาต้องหาความผิดของสมาชิกของ [จอมอหังการ] ให้ได้

ถ้าเขาไม่ทําแบบนั้น มันก็จะกลายเป็นความผิดเขา

คําพูดของเผิงเจี๋ยทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องเกี่ยวกับสมาชิก [จอมอหังการ] หาว่าใช้เงินเพื่อสร้างชื่อเสียง

ไม่ว่าอย่างไร ก็ไม่มีใครสนใจเขาอยู่แล้ว เผิงเจี๋ยบ่นอยู่พักหนึ่ง เขาไม่ได้เอ่ยถึงชื่อใคร แต่ใครก็ตามที่เข้าใจภาษาจีนก็จะรู้ว่าเขากําลังกล่าวหาสมาชิกทั้งสี่ของ [จอมอหังการ]

เขาพูดอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง ทันใดนั้นจ๋ายหวินเซิ่งก็พูดขึ้นมา

“นายเสียงดังเกินไป ทําให้หัวใจฉันเจ็บปวด

มีคนไม่มากที่ตอบสนองต่อความคิดเห็นดังกล่าว แต่ทว่าฉินหยูฝานส่ายหน้าและหัวเราะออกมาเบาๆ เธอมองเผิงเจี๋ยอย่างสนุกสนาน มีบางอย่างกําลังจะตกลงมาอย่างแน่นอน

นี่เป็นครั้งแรกที่เจี่ยนอีหลิงเคยได้ยินจ๋ายหวินเซิ่งพูดแบบนี้

ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้พูดคําเหล่านั้นบ่อยๆ แต่ทว่าก่อนหน้านี้เขาไม่มีโอกาสมากนักที่จะพูดมันออกมา

ใครที่มีสมองย่อมไม่ล่วงเกินจ๋ายหวินเซิ่ง

สมาชิกของ [พึ่งพาผู้อื่น] คนนี้เห็นชัดว่าไร้มันสมอง เขาถือจ๋ายหวินเซิ่งเป็นคนธรรมดา

เขารู้เพียงว่า คนสี่คนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะถัดไปล้วนมาจากตระกูลที่ดี

แต่ทว่า เขาไม่รู้ว่าตระกูลของคนเหล่านี้แข็งแกร่งแค่ไหน เขาไม่รู้ว่าจ๋ายหวินเซิ่งเป็นคนแบบไหนอีกด้วย

ทันทีที่จ๋ายหวินเซิ่งพูดแบบนี้ บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ข้างสนามอย่างเงียบๆ ก็ลงมือ

พวกเขาเข้าไปล้อมสมาชิกทั้งสี่ของ [พึ่งพาผู้อื่น]

เมื่อเผิงเจี๋ยเห็นเช่นนี้ เขาก็ตื่นตระหนก แต่ว่าเขาก็ยังลังเลที่จะยอมรับความผิดพลาด “นายกําลังทําอะไร นายจะเล่นสกปรกเหรอ นายจะถูกตัดสิทธิ์ ถ้านายทําให้เกิดการต่อสู้ ฉันจะเปิดเผยพฤติกรรมไร้ยางอายของนายบนอินเทอร์เน็ต มาดูกันว่ายังจะมีคนวางแผนที่จะเป็นแฟนของพวกนายอีกไหม”

เมื่อเผิงเจี๋ยหยิบโทรศัพท์ออกมา เขากลับไม่สามารถปลดล็อกได้ เขาไม่สามารถคลิกหรือเปิดอะไรได้เลย ซึ่งหมายความว่าเขาไม่สามารถถ่ายภาพหรือบันทึกวิดีโอใดๆได้

“หือทําไมโทรศัพท์ของฉันไม่ทํางาน”

เมื่อเพื่อนร่วมทีมเห็นสิ่งนี้ พวกเขาก็มองไปที่โทรศัพท์ของพวกเขาด้วยเช่นเดียวกัน พวกเขาก็ตระหนักว่า พวกเขาไม่สามารถทําอะไรบนโทรศัพท์ของตนเองได้เช่นเดียวกัน

เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับบอดี้การ์ดที่ล้อมรอบตัวพวกเขา

โทรศัพท์ของพวกเขาก็ยังปกติที่ก่อนหน้านี้ แต่ทว่าหลังจากที่บอดี้การ์ดล้อมพวกเขาไว้ โทรศัพท์ของพวกเขาก็หยุดทํางานกะทันหัน

เผิงเจี๋ยสันนิษฐานว่าบอดี้การ์ดของจ๋ายหวินเซิ่งวางแผนที่จะใช้กําปั้น นั่นเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการจัดการกับใครซักคนไม่ใช่หรือไง คงจะใช้หมัดต่อยพวกเขาลงไปนอนกับพื้นเป็นแน่

แต่ทว่า เผิงเจี๋ยไม่รู้อะไรเกี่ยวกับจ๋ายหวินเซิ่งและตระกูลจ๋าย ความคิดของเขาเรียบง่ายเกิน

ตระกูลจ๋ายไม่เคยใช้ความรุนแรงหากต้องการจัดการกับใครสักคน

หลังจากนั้นไม่นาน โทรศัพท์ของพวกเขาก็เริ่มทํางานอีกครั้ง เผิงเจี๋ยได้รับโทรศัพท์ จากครอบครัว

การโทรครั้งนี้ทําให้เลือกทั้งหมดจากใบหน้าของเผิงเจี๋ยหายไปจนหมดสิ้น

เขาลุกขึ้นด้วยความงุนงงและจ้องมองไปที่จ๋ายหวินเซิ่ง

เขารู้ว่าบอดี้การ์ดทั้งหมดอยู่ภายใต้คําสั่งของชายคนนี้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงรู้ว่าชายคนนี้เป็นคนที่รับผิดชอบต่อสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเช่นเดียวกัน

เผิงเจี๋ยมองเขาด้วยสายตาตกตะลึง

เขาพูดเพียงไม่กี่คํา แต่ว่าคนๆนี้ก็ได้ทําให้พ่อ แม่ และพี่สาวของเขาตกงาน

เผิงเจี๋ยกําลังจะมุ่งหน้าตรงไปทางจ๋ายหวินเซิ่ง

แต่เมื่อเขาก้าวไปหนึ่งก้าว เส้นทางของเขากถูกบอดี้การ์ดของจ๋ายหวินเซิ่งขวางไว้

จ๋ายหวินเซิ่งกําลังรับประทานอยู่ เขาเหลือบมองเผิงเจี๋ยและพูดว่า “ถ้านายชนะการแข่งขันในวันพรุ่งนี้ ฉันจะทําทุกอย่างให้เป็นปกติ แต่ถ้าแพ้ก็ลืมทุกอย่างไปได้เลย”

บทที่ 420 ให้สิ่งจูงใจแก่นายในการชนะ

“นาย… ทําไมนายถึงทําแบบนี้”

เผิงเจี๋ยไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เมื่อเขาบ่นว่าทีมอื่น

ในมุมมองเขาอย่างมากที่สุด เขาก็คงจะทะเลาะกับคนอื่น

ครั้งนี้ พวกเขาไม่ได้มุ่งเป้าไปที่การฆ่า Zergs

ดูเหมือนทั้งสองคนกําลังเดินเล่นกันอยู่

ผู้เล่นสองคนที่เหลือของทีมยังคงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะฆ่า Zergs

การกระทําของเจี่ยนอิหลิงและจ๋ายหวินเซิ่งทําให้ผู้ชมและผู้ชมรู้สึกสับสนเหลือเกิน

แรก

[หือ เกิดอะไรขึ้น ทําไมวันนี้ J10 และ ZYS มีการกระทําที่ต่างออกไป]

[ใช่ นี่แปลกมาก ทําไมพวกเขาไม่ฆ่า Zergs ดูเหมือนว่าพวกเขากําลังเดินเล่นไปรอบๆ และไม่ทําอะไรเลย นั้นมีความหมายอะไร]

[นี่เป็นกลยุทธ์ใหม่เหรอ ฉันงงเหลือเกิน]

ต่อจากนั้น พวกต่อต้านบางคนก็เริ่มแสดงความคิดเห็นในแง่ลบอีกครั้ง

[บางที นี่อาจเป็นวิธีที่พวกเขาเล่นตั้งแต่แรก]

[ถ้าไม่เล่นจริงจัง จะเล่นทัวร์นาเมนต์ไปเพื่ออะไร]

[พวกเขาทําบ้าอะไรกัน ฉันมาที่นี่เพื่อดูเกม อยากดูฝีมือ ฉันไม่สนใจจะดูทั้งสองคนพากันเดินเล่นเฉยๆ]

[ชิ นี่คือผู้เล่นที่พวกนายยกย่องไม่ใช่เหรอ นี่เป็นเรื่องตลกโดยสิ้นเชิง ตาฉันจะบอดจากการดูพวกนี้]

[เมื่อไหร่พวกเขาจะเล่นเกมสักที]

พวกต่อต้านใช้ทุกโอกาสในการแสดงความคิดเห็น เพื่อที่จะแสดงความเกลียดชังออกมา

ต่อให้มีอะไรเกิดขึ้นก็ตามหลังจากนั้น ก็ไม่มีใครรู้ว่าใครที่นั่งอยู่หลังจอคอมพิวเตอร์

พวกเขาจะพิมพ์สิ่งเหล่านี้ต่อไปเมื่อมีโอกาสในอนาคต

เจี่ยนอีหลิงและจ๋ายหวินเซิ่งเดินบนขอบแผนที่ พวกเขาวนเข้าไปในอาณาเขตของฝ่ายตรงข้าม

ในขอบเขตการแข่งขัน ทั้งสองทีมถูกนําไปยังจุดตรงข้ามของแผนที่ที่สมมาตร โดยปกติ ทั้งสองทีมจะสามารถพบกันได้ในช่วงครึ่งหลังของการแข่งขันเท่านั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส