บทที่ 525 เจ็บหน้าจริงๆ
จากนั้นหลี่จั่วเจียก็พูดขึ้นมาว่า “เอาล่ะ บริษัทวางกล้องไว้ตรงนั้น เราก็แค่ยืมกล้องของพวกเขาเพื่อดําเนินการสรรหาบุคลากร ดังนั้น เพื่อบันทึกผลงานของผู้สมัครงานแต่ละคนให้ได้ดียิ่งขึ้นเราจึงได้ติดตั้งกล้องที่ซ่อนอยู่หลายตัวทั่วทั้งสถานที่ เรื่องนี้กระทั่งพนักงานก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ําไป”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ โม่ซื้ออริ้นก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว
จากนั้นหลี่จั่วเจียก็ชี้ไปรอบๆตัวเขาเองอีกครั้ง “พวกคุณเห็นตะเกียงนั้นมั้ย? ช่องตรงนั้น?และของตบแต่งหลายชิ้นนั่น? พวกมันทั้งหมดมีกล้องซ่อนติดตั้งอยู่ พวกเขาบันทึกทุกอย่างแล้วและถ้าเราตรวจสอบกล้องวงจรปิด เราก็จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่”
จากนั้นหลี่จั่วเจียก็หันไปพูดกับผู้ช่วยเขาว่า “ไปที่สํานักงานและนําโน้ตบุคของฉันกลับมาฉันจะได้สามารถดูภาพกล้องตรวจจับจากคลาวด์ได้”
เมื่อได้ยินดังนี้ โม่ชื่ออขึ้นก็ตื่นตระหนกอย่างสมบูรณ์แบบ
“อย่ารายงานเรื่องนี้กับตํารวจ” โม่ชื่ออวนร้องออกมา “ให้แค่คิดว่านี่เป็นของขวัญสําหรับเธอก็แล้วกัน ได้โปรดอย่ารายงานเรื่องนี้กับตํารวจ”
ถ้าเรื่องนี้ถูกแจ้งความกับตํารวจ อาชีพเธอคงจบสิ้น
ดังนั้น จึงไม่ควรเรียกตํารวจ
ฝูงชนรู้สึกสับสนเหลือเกินเมื่อได้ยินเรื่องนี้
ผู้หญิงคนนี้พูดอะไรกัน?
เธอหมายความว่าอะไรแบบนั้น? หรือเธอเพิ่งยอมรับว่าได้ใส่ร้ายเด็กสาวอีกคนนั้นงั้นเหรอ?
ฉันชวนหันกลับมาเขม้นมองโม่ชื่ออขึ้นอย่างหนักหน่วง
ความประทับใจอันดีที่เขามีต่อเธอกลายเป็นขี้เถ้าในทันที
ในขั้นต้นเมื่อเขาเลือกที่จะเชื่อในเจี้ยนอีหลิง เขาไม่ได้สงสัยในโม่ชื่ออขึ้นเลย
เขาคิดว่าทุกอย่างเป็นเพียงความเข้าใจผิด
เขาสันนิษฐานว่าโม่ชื่ออขึ้นเป็นผู้หญิงที่มองโลกในแง่ดีและขยัน เป็นคนประเภทที่เขาชื่นชม
“ทําไมเธอถึงทําแบบนี้” ฉินชวนถามด้วยสีหน้างุนงง “เธอรู้จักเงี่ยนอีหลิงด้วยเหรอ”
ฉันชวนไม่รู้ด้วยซ้ําว่ามีความสัมพันธ์กันระหว่างโม่ชื่ออริ้นและเจียนอีหลิง
เมื่อสิ่งต่างๆมาถึงจุดนี้แล้ว โม่ชื่ออริ้นก็ไม่สามารถซ่อนอะไรได้อีก แม้ว่าเธอจะไม่พูดอะไรเจียนอีหลิงก็จะบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ดี
“อืม จําได้ไหมเมื่อตอนที่ฉันบอกนายว่าแม่กับฉันถูกใส่ร้ายป้ายสี? หลังจากที่เราถูกใส่ร้ายเราก็ถูกไล่ออกจากที่เราอยู่ เอ้อ ที่นั่นก็คือตระกูลเจี้ยน”
“เธอ” ฉันชวนตะลึงงัน เขาไม่ได้คาดหวังว่าเงี่ยนอีหลิงและโม่ชื่ออริ้นจะมีความสัม พันธ์กันในลักษณะนี้
ฉันชวนเคยได้ยินเรื่องนี้จากโม่ชื่ออขึ้น
อย่างไรก็ตาม เขาไม่เชื่อว่าตระกูลเจียนจะทําแบบนี้
ด้วยเหตุนี้ฉันชวนจึงเริ่มสงสัยในคําพูดของโม่ชื่ออขึ้น
จากสิ่งที่เขาเห็นด้วยตาตนเอง เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยในคําพูดของเธอ
“เอาล่ะ ถอยออกมาดูสถานการณ์ให้ชัดก่อนสิ แม้ว่าครอบครัวของพวกเขาจะทําผิดต่อเธอตั้งแต่แรกเธอก็ไม่ควรทําแบบนี้วันนี้”
“ฉันรู้ว่าฉันทําผิดไปแล้ว” โม่ชื่ออนยอมรับ เธอรู้ว่าเธอต้องยอมรับความผิดพลาด เธอในตอนนี้จากนั้นเธอก็ต้องบอกว่าเธอต้องการมอบบัตรให้เจี้ยนอีหลิงเป็นของขวัญเซอร์ไพรส์
เนื่องจากโม่ชื่ออขึ้นยอมรับความผิดพลาดของตนเอง ในเบื้องต้น เธอจึงเหมือนตบหน้าตัวเองอีกทั้งในความเป็นจริง เธอยังตบหน้าคนที่ยืนหยัดขึ้นมาเพื่อเธอในฝูงชนด้วย
คนสองสามคนที่เพิ่งพูดต่อต้านเจี้ยนอีหลิงรู้สึกเหมือนว่าแก้มของพวกเขาแสบร้อน รู้สึกราวกับว่าพวกเขากําลังถูกตบหลายสิบครั้ง
จากนั้นหลี่จั่วเจียก็ถามโม่ชื่ออริ้น “เธอยอมรับความผิดพลาดของเธอหรือเปล่า? เธอยอมรับว่าเธอใส่บัตรลงในกระเป๋าเจียนอีหลิงหรือเปล่า”
“ใช่ ฉันยอมรับในเรื่องเหล่านั้น ฉันรู้ว่าฉันผิดไปแล้ว ได้โปรดอย่ารายงานเรื่องนี้ต่อตํา รวจเลย”โม่ชื่ออริ้นขอร้อง เธอกลัวว่าหลี่จั่วเจียจะทําให้เป็นเรื่องใหญ่ในเรื่องนี้
ความนิยมของเธอเพิ่งจะกลับมา หากข่าวเชิงลบนี้ปรากฏขึ้นในเวลานี้ ความพยายามทั้งหมดของเธอจะสูญเปล่า
เธอและแม่เธอทํางานหนักเพื่อสิ่งนี้ เธอไม่อยากให้ความหวังนั้นดับไปอีกครั้ง
ในตอนนี้ โม่ชื่ออริ้นรู้สึกเสียใจกับพฤติกรรมหุนหันพลันแล่นของตนเอง
เธอไม่ควรทําเรื่องไร้เหตุผลแบบนี้เพราะความโกรธเพียงชั่ววูบ
บทที่ 526 ความรู้สึกผิด
เมื่อได้ยินดังนี้ หลี่จั่วเจียก็หัวเราะออกมา “เธอยอมรับความผิดพลาดของเธอค่อนข้างเร็วไปโชคร้ายที่ไม่ได้มีกล้องซ่อนติดตั้งอยู่ ฉันแค่อําเธอก่อนหน้านี้ ยังไงก็ตาม ฉันไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะยอมรับเรื่องดังกล่าวรวดเร็วแบบนั้น”
“อะไรนะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
เรื่องนี้ยังอัปเดตต่อไหมคะ😭...