เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส นิยาย บท 621

สรุปบท ตอนที่ 621-622: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

อ่านสรุป ตอนที่ 621-622 จาก เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 621-622 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายดราม่า เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 621 เรื่องราวลุกลาม 2

เมื่อถึงตอนนี้ก็มีผู้อ้างว่าเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเป่ยจิงออกมาชี้แจง

บุคคลดังกล่าวอ้างว่าเป็นผู้ที่เคยได้รับความเจ็บช้ําจากเจี่ยนอีหลิง

เขาอ้างว่าเจี่ยนอีหลิงใช้เส้นสายขโมยงานวิจัย เป็นผลให้เขาถูกใส่ร้ายและไล่ออกจากมหาวิทยาลัย

[ฉันคือคนที่โดนเจี่ยนอีหลิงทําร้ายก่อนหน้านี้ ฉันเป็นนักศึกษาระดับปริญญาโทปีที่สองที่มหาวิทยาลัยเก๋ยจิง แต่เพราะเจี่ยนอีหลิงใช้เส้นสายของเธอขโมยงานวิจัย มหาวิทยาลัยไม่เพียงแต่ไม่ปกป้องฉันเท่านั้น แต่พวกเขายังหันหน้ากลับมากล่าวหาว่าฉันลอกเลียนผลงานด้วย พวกเขาให้งานวิจัยและวิทยานิพนธ์ทั้งหมดของฉันแก่เจี่ยนอีหลิง นั่นอาจเป็นวิธีที่เธอได้รับคะแนนดีในอดีตก็ได้]

จากนั้นบุคคลดังกล่าวก็ได้โพสต์รายงานการวิจัยบางส่วน บุคคลดังกล่าวกล่าวว่าสิ่งเหล่านี้เป็นผลจากการทํางานหนักของเขา

เห็นได้ชัดเจนว่าคนผู้นี้ก็คือลู่หยวน

ลู่หยวนถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยเปยจึง

หลังจากที่เธอถูกไล่ออก เธอก็ไม่สามารถทําอะไรได้ในชีวิตเธอ ทุกวันเธออยู่บ้านและทนรับความเจ็บปวด เธอได้รับความทุกข์ทรมานและรวดร้าวจากข้อกล่าวหา

แม้แต่ครอบครัวเธอก็ยังตําหนิเธอกับการกระทํานี้ ญาติและเพื่อนทุกคนชี้นิ้วมาที่เธอ

เธอใช้ชีวิตอยู่ในความทุกข์ยาก ทั้งชีวิตเธอมีแต่ความมืดมิด

ในความเป็นจริง เธอมักจะฝันร้ายถึงวันนั้น เธอเสียใจกับการกระทําของตัวเองในตอนนั้น แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่มียารักษาความเสียใจในโลกนี้ ไม่มีอะไรที่เธอจะสามารถเปลี่ยนได้

สําหรับเธอนั้นชีวิตเต็มไปด้วยความสิ้นหวังไม่รู้จบ

ดังนั้นเมื่อเธอเห็นการโต้วาทีออนไลน์เกี่ยวกับเจี่ยนอีหลิง เธอจึงตัดสินใจเสี่ยงดวง ไม่ว่ายังไงก็มีคนกล่าว หาเจี่ยนอีหลิงว่าโกงอยู่ดี

ไม่มีอะไรเหลือให้เธอต้องเสียแล้ว ถ้าเธอชนะพนั้น เธอก็จะได้ทุกอย่างคืน เธอจะได้ทุกอย่างที่เคยเป็นของตัวเองคืนมา

ในความเป็นจริง เธอสามารถดึงมหาวิทยาลัยเป่ยจิงให้ตกต่ําลงได้ด้วยซ้ํา

หากการลงโทษเธอไม่สมเหตุผล มหาวิทยาลัยจะถูกกล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้อง

เมื่ออ่านข้อความนี้ ชาวอินเทอร์เน็ตต่างแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับคะแนนของเจี่ยนอีหลิง ในสาย ตาของพวกเขา เกรดของเจี่ยนอีหลิงได้มาจากการโกง เธอใช้เงินและอํานาจเพื่อให้ได้มาซึ่งความสําเร็จทั้ง หมดในชีวิต และด้วยเหตุนี้ เธอต้องไม่มีพรสวรรค์ที่แท้จริงแน่นอน

จากนั้นอินเทอร์เน็ตก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์มหาวิทยาลัยเป่ยจิงด้วยเช่นเดียวกัน

[อะไรกันวะ? เจี่ยนอีหลิงมาจากตระกูลไหนกัน ตระกูลเธอแข็งแกร่งมากขนาดไหน? พวกเขาสามารถติดสินบนมหาวิทยาลัยเป่ยจิงได้ยังไง]

[หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โปรดตรวจสอบตระกูลเจี่ยนด้วย อาจมีหลายอย่างซ่อนอยู่เบื้องลึก]

[หลายคนเรียนหนักมาเป็นสิบปี พวกเราทํางานอย่างหนักเพื่อให้ประสบความสําเร็จในการสอบของวิทยาลัย แต่ว่ามหาวิทยาลัยในฝันของเรากลับรับคนประเภทนี้เข้าไปแทน]

โอม ดูเหมือนว่าเราต้องพึ่งพาความร่ํารวยและอํานาจของตระกูลในการก้าวไปข้างหน้า ฉันเดาว่าเราต้องโทษตัวเองที่ไม่ได้เข้าไปในท้องที่เหมาะสม]

เนื่องจากมีแรงกดดันจากความคิดเห็นของประชาชนมากเกินไป ผู้นํามหาวิทยาลัยจึงตัดสินใจพูดคุยกับเจี่ยนอีหลิง

ในสํานักงาน ผู้นํามหาวิทยาลัยนั่งอยู่ตรงที่นั่ง โดยมีเจี่ยนอีหลิงนั่งตรงข้าม

“เจี่ยนอีหลิง มหาวิทยาลัยได้ตระหนักถึงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเธอ แต่ถึงกระนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นบนอินเทอร์เน็ตจะส่งผลต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย ถ้าเป็นไปได้เธอก็ควรออกไปชี้แจงสถานการณ์”

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ผู้นํามหาวิทยาลัยต้องการให้เจี่ยนอีหลิงจัดการเรื่องนี้ให้พวกเขา พวกเขาไม่ต้องการให้เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยอีกต่อไป

ไม่ว่ายังไง จุดเริ่มต้นของปัญหานั้นอยู่ที่เชี่ยนอีหลิง

“ปัง”

ประตูสํานักงานถูกกระแทกเปิดจากด้านนอก

เจี่ยนอีหลิงและผู้นํามหาวิทยาลัยต่างก็หันหน้ามองไปในทิศทางนั้น

พวกเขาเห็นจํายหวินเพิ่งเดินเข้ามาในสํานักงานด้วยก้าวยาวๆ เขาเดินตรงไปที่เจี่ยนอีหลิงและนั่งลงข้างๆเธอ

จํายหวินเพิ่งบอกกับมหาวิทยาลัยอย่างตรงไปตรงมาว่า “ออกไปแถลงการณ์ว่าเกรดของเจี่ยนอหลังไม่มีปัญหา ถึงยังไงนี่ก็เป็นความจริง”

บทที่ 622 จับมือเธอไว้

“แต่… แต่ถ้าเราออกแถลงการณ์ตอนนี้… เราจะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากอินเทอร์เน็ต…”

ผู้นํามหาวิทยาลัยไม่ทราบว่าจะทํายังไง พวกเขารู้ว่านี่คือจํายหวินเชิง พวกเขายังรู้ว่า คําพูดของจํายหวินเช่งมีน้ําหนักกับพวกเขา

“เอาล่ะ ถ้าทําในสิ่งที่ถูกต้อง ทําไมคุณจะต้องกลัวถูกวิพากษ์วิจารณ์” จํายหวินเชิงถาม เขาหยุดครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “หรือว่าคุณทําอะไรผิดในเรื่องอื่น? คุณมีอะไรจะพูดไหม”

“ไม่ ไม่ ไม่อย่างแน่นอน” ผู้นํามหาวิทยาลัยตอบอย่างเร่งรีบ

เขาก็แค่ไม่อยากมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ สิ่งต่างๆอาจกลายเป็นเรื่องยุ่งยากได้ง่ายๆ

เจี่ยนอีหลิงส่ายหน้า เขาไม่ได้ทําร้ายเธอ

แต่ว่า…ฝ่ามือเขาอบอุ่นเหลือเกิน…

มันรู้สึก… แปลก…

“ไม่ชอบให้ฉันจับมือเหรอ” จ่ายหวินเชิงถาม

เจี่ยนอีหลิงส่ายหน้า “มันอบอุ่น”

จํายหวินเพิ่งหัวเราะก่อนจะพูดว่า “ไปกันเถอะ ฉันจะจัดการกับเรื่องนี้เอง”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เจี่ยนอีหลิงก็ส่ายหน้าอีกครั้ง “ไม่จําเป็น”

“ทําไมถึงไม่ล่ะ?”

“ฉันเป็นหนี้นายมากเกินไปแล้ว”

“เธอไม่ได้เป็นหนี้ ฉันแค่ต้องการอะไรจากเธอมากเกินไป นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันต้องทําอะไรมากมายให้เธอ เธอสามารถตีความได้ว่าฉันกําลังทําสิ่งที่มีจุดประสงค์ ดังนั้นเธอสามารถสรุปได้ว่าฉันเป็นคนน่ารังเกียจ การกระทําของคนต่ําทรามมีคุณค่าน้อย”

“แต่นายไม่ใช่คนแบบนั้น”

“ฉันเป็นคนแบบนั้นแหละ” จํายหวินเพิ่งตอบ น้ําเสียงเขาแน่วแน่และเหยียดหยามตนเอง “ฉันชอบเธอและฉันต้องการเธอ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันทําแบบนี้ ฉันเป็นคนที่น่ารังเกียจและน่าหวาดกลัว ฉันไม่ใช่คนที่จะช่วยเหลือใครได้

เจี่ยนอีหลิงจ้องไปที่จํายหวินเชิงด้วยสีหน้าตกตะลึง

จํายหวินเพิ่งมองเธอก่อนจะยิ้มออกมา “เธอไม่จําเป็นต้องหลีกเลี่ยงฉัน เธอไม่จําเป็นต้องตอบรับคําสารภาพเช่นเดียวกัน แต่ไม่ว่ายังไง สัญญากับฉันสักข้อหนึ่งว่าเธอจะไม่ชอบใครอีกในช่วงเวลาสั้นๆนี้ นอกจากนี้ โปรดอยู่กับฉันในฐานะหมอประจําตัวอีกสักพักได้ไหม?”

จํายหวินเฉิ่งคิดถึงเรื่องนี้ในช่วงสองวันที่ผ่านมา

หากเธอหลบเลี่ยงเขา มันก็ไม่จําเป็นที่จะเลวร้ายเสมอไป

แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องการให้เธออยู่เป็นเพื่อน อย่างน้อยก็นานขึ้นอีกหน่อย

มีแนวโน้มว่าเขาเองจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงไม่กี่ปี

เศร้านะ นายท่านเชิง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส