เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส นิยาย บท 741

สรุปบท ตอนที่ 741-742: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

สรุปตอน ตอนที่ 741-742 – จากเรื่อง เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส โดย Internet

ตอน ตอนที่ 741-742 ของนิยายดราม่าเรื่องดัง เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 741ใครเป็นเจ้าของสิทธิบัตร

หลังจากนั้นหยางเยว่ก็ถูกตํารวจจับตัวไป

ดังนั้น ความร่วมมือครั้งแรกระหว่างเคี่ยนอีหลิง จ๋ายหวินเฉิ่ง ฉันชวนและฉินหยฝานจึงจบลงด้วยความสําเร็จ

ยังไงก็ตามหัวใจของฉันหยุฝานยังคงรู้สึกหนักอึ้งเพราะยังไงหยางเยว่ก็เป็นป้าที่รักเธอ

“ฉันขอถือโอกาสนี้ขอโทษทั้งสองคนแทนเธอป้าด้วย” ฉันหยุฝานพูดกับฉันชวนและจํายหวิน
เชิง

จํายหวินเชิงแค่พยักหน้า ตั้งแต่แรกเขาก็ไม่ได้เอาเรื่องนี้มาใส่ใจเท่าไร

ถ้าไม่ใช่เพราะการยืนกรานของเจียนอีหลิงในการแก้ไขข้อขัดแย้งนี้ เขาคงจะไม่เข้าไปยุ่งด้วยหรอก

ยังไงก็ตามชื่อเสียงที่ไม่ดีของเขา สําหรับจํายหวินเชิงแล้วไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เป็นเรื่องปกติที่จะถูกใส่ร้ายและตกเป็นแพะรับบาป

ฉันชวนตอบว่า “เราแค่อยู่ในตําแหน่งที่ต่างกันและช่วยอะไรตัวเองไม่ได้ ไม่ว่ายังไงเธอก็ยังเป็นน้องสาวของฉัน”

นี่เป็นครั้งแรกของฉันชวนที่รับยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฉันหยุฝาน

เมื่อได้ยินคําว่าน้องสาว น้ําตาที่ฉันหยุฝานกลั้นไว้ทั้งวันก็ไหลออกมา

เธอแสร้งทําเป็นว่าเธอเข้มแข็งและเป็นผู้ใหญ่เสมอ แต่ทว่าที่จริงแล้วตั้งแต่แม่เธอจากไป การเปลี่ยนแปลงต่างๆได้ทับถมเข้ามาทําให้เธอรู้สึกหมดแรง

ถ้าไม่ใช่เพราะว่ามีคนพาเธอมา ในตอนนี้เธออาจจะเหลวแหลกไปแล้วก็ได้

ฉินหยุฝานปาดน้ําตาบนใบหน้าเธอและพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ฉันไม่มีพี่ชาย”

จากนั้นฉันหยุฝานก็หันกลับมาถามเจี่ยนอีหลิงว่า “เจียนอหลิงหลังจากนี้เราเป็นเพื่อนกันแล้ว ใช่ไหม?”

“ถือ” เป็นเพื่อนกันแล้ว

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฉันหยุฝาน

รอยยิ้มนั้นจริงใจเหลือเกิน

ไม่ได้ตั้งใจแกล้งทํา

และไม่มีเจตนาเสแสร้งในรอยยิ้มนั้น

มันเป็นรอยยิ้มจากก้นบึงของหัวใจของเธอ

เพื่อน เจียนอีหลิงไม่ได้เป็นเพื่อนกับเธอเพราะเธอเป็นลูกสาวของตระกูลฉิน

เฉินหยฝานกระซิบข้างหูของเจียนอหลิง “ดูเหมือนบรรยากาศของฉันชวนกับจํายเหวินเชิงจะดีขึ้นนะ ดีใจไหม?”

ขณะที่เธอพูดฉินหยฝานและเจียนอหลิงต่างมองไปที่จํายหวินเชิงและฉันชวน

ฉันชวนและจํายหวินเชิงไม่ได้พูดคุยกัน แต่ทว่าทั้งคู่ไม่มีความเกลียดชังระหว่างกัน อย่างน้อย พวกเขาก็อยู่ในความปรองดอง

“ถือ” เจียนอหลิงตอบ เธอไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นกับจ่ายหวินเชิง เธอไม่อยากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นแบบในนิยายต้นฉบับ

ดังนั้น เธอจึงต้องแน่ใจว่าทั้งสองจะไม่เป็นศัตรูกัน และเธอไม่ต้องการเดิมพันว่าใครจะเป็นผู้ชนะ

และด้วยเหตุนี้ ถ้าทั้งสองไม่ได้อยู่ฝ่ายตรงข้าม ก็จะเป็นการขัดแย้งกับโครงเรื่องเดิม

“อ้อ จริงสําอาวุธป้องกันตัวมันเกี่ยวอะไรกับแบตเตอรี่พิเศษ อะไรทําให้มีพลังขนาดนั้น” ฉินหยุฝานถาม เธอยังไม่ลืมอุปกรณ์แปลกๆที่เจียนอหลิงมี

“เป็นแบตเตอรี่ชนิดใหม่ ยังไม่มีจําหน่ายในตลาด” เจี่ยนอีหลิงตอบ

“ไม่แปลกใจเลยที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน” ฉันหยุฝานตอบด้วยความตื่นเต้น จากนั้นเธอก็เริ่มตั้งคําถามว่า “ใครเป็นเจ้าของสิทธิบัตร ทีมวิจัยใดกําลังพัฒนาเหรอ ฉันต้องการลงทุนด้วย”

จากมุมมองของนักธุรกิจ สินค้าดังกล่าวจะทํากําไรได้อย่างล้นหลามแน่นอน การลงทุนนี้เป็นทางเลือกที่เหมาะสม

จํายหวินเชิงและฉันชวนก็เห็นเช่นเดียวกัน

ย้อนกลับไปเมื่อกี้ พวกเขายังคงสื่อสารกับเจียนอีหลิงและฉินหยฝานตลอดเวลา พวกเขาได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านพักของตระกูลฉิน

และด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงอยากรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ป้องกันตัวที่เจียนอหลิงถืออยู่

ทันใดนั้น เจี๋ยนอหลิงรู้สึกเหมือนถูกหมาป่าสามตัวจ้องมองมา

ไม่สิ เธอไม่ได้ถูกหมาป่าสามตัวจ้องมอง แต่พวกเขากําลังจับจ้องไปยังแบตเตอรี่รูปแบบใหม่ที่อยู่ในมือเธอ

“จะยังไม่มีการผลิตจํานวนมาก” เจียนอหลิงตอบ

“อ๋อ? ถ้ายังไม่ใช่สิ่งที่จะผลิตในปริมาณมาก แล้วเธอมาได้ยังไงเธอรู้จักทีมวิจัยและพัฒนางั้นหรอ?”

“ถือ” เจียนอีหลิงตอบ

เขาถูกดอีกแล้วโดยไม่มีเหตุผล

“ช่วงนี้ทําอะไรบ้าง?”

“ผมยุ่งกับงานที่บริษัท” จํายหวินเชิงตอบ จะทําอะไรได้อีก?

“ทําไมถึงยุ่งกับงานบริษัทอยู่ได้กัน?” ท่านผู้เฒ่าจํายถาม น้ําเสียงมีความไม่พอใจ

“หมายความว่ายังไงครับ?” ตอนนี้เขาอยู่ในความดูแลของบริษัท และเขาถามเขาว่าเขายุ่งกับบริษัททําไมงั้นเหรอ? แล้วจะให้เขาทําอะไรได้อีกล่ะ

“ฉันหมายถึงแกกับอีหลิงหมั้นกันมาจนถึงตอนนี้ ทําไมยังไม่พาเธอไปเที่ยวฮันนีมูนล่ะ ดูแลบริษัทอยู่ได้ทุกวันจะมีประโยชน์อะไร?”

โดยปกติ ผู้ปกครองส่วนใหญ่ของครอบครัวอื่นจะไม่ชอบเด็กและหลานๆที่ใช้เวลาทํางานน้อยเกินไป

แต่ทว่านี่เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงสําหรับตระกูลจําย อันที่จริงท่านผู้เฒ่าจํายรู้สึกว่าหลานชายใช้เวลาดูแลธุรกิจมากเกินไปด้วยซ้ํา

“เราแค่หมั้นกัน แต่ยังไม่ได้แต่งงาน”

“แล้วไง หมั้นก็คล้ายกับการแต่งงานนั่นแหละ ไปฮันนีมูนได้เหมือนกัน แม้ว่าจะยังไม่ได้แต่งงานไม่ใช่ว่าเราไม่สามารถลองดูได้ โอเคนะ แล้วเรื่องบริษัทฉันจะจัดการเอง ตั้งแต่พรุ่งนี้ก็พาอีหลิงไปฮันนีมูน แล้วก็ต้องให้ดอกไม้ เสื้อผ้า กระเป๋า และเครื่องสําอางกับเธอด้วย แกควรให้ของขวัญกับเธอมากๆ ไม่งั้นเธออาจจะหนีไปก็ได้?”

“ไปได้ยินมาจากไหน?”

“อืม ฉันอ่านเรื่องพวกนี้ทางอินเทอร์เน็ต สาวๆมักจะบ่นเรื่องแฟนไม่ตรงตามความคาดหวัง สุดท้ายสาวๆเหล่านั้นก็เลิกกับแฟนหนุ่ม นอกจากนี้ฉันมองหานักออกแบบเสื้อผ้าผู้หญิง และขอให้พวกเขาทําเสื้อผ้าให้อีหลิงโดยเฉพาะ เมื่อถึงเวลาแกก็พูดว่านายซื้อเสื้อผ้าให้เธอ”

“อีหลิงไม่ชอบสิ่งเหล่านั้นยิ่งไปกว่านั้นช่วงนี้เธอยุ่งมาก”

“อืม เธอไม่ชอบสิ่งเหล่านั้นไม่สําคัญหรอก ยังไงก็ต้องให้ของขวัญเธออยู่ดี แกควรจะใส่ใจเธอให้มาก”

“ผมดูไม่ใส่ใจเธองั้นเหรอ”

“ต้องแสดงให้เห็นว่าห่วงใยเธอ แกไม่สามารถใส่ใจเพียงแค่ในใจได้ มันไม่มีค่าอะไร ต้องแสดงมันออกมาด้วยการกระทํา” ท่านผู้เฒ่าจํายกล่าว

จ่ายหวินเชิงหงุดหงิดคําพูดของท่านผู้เฒ่าจําย

“รู้แล้ว รู้แล้ว ผมจะให้ของขวัญเธอ รอเมื่ออหลิงว่างแล้วค่อยไปเที่ยว ช่วงนี้เธอค่อนข้างเหนื่อยมาก”

“เหนื่อยมากงั้นเหรอ? เจ้าเด็กเลวนี่ ต้องดูแลใส่ใจร่างกายเธอ อย่ารังแกหลานสะใภ้มากเกินไป”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส