เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส นิยาย บท 771

สรุปบท ตอนที่ 771-772: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

สรุปตอน ตอนที่ 771-772 – จากเรื่อง เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส โดย Internet

ตอน ตอนที่ 771-772 ของนิยายดราม่าเรื่องดัง เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 771 นายท่านเพิ่งกลั่นแกล้งเว่ย…

“ฉันไม่ได้กังวล”

คนขับรถมีเทคนิคการขับที่เก่งจริงๆ เขาสามารถขับรถเข้าไปในซอยที่แคบขนาดนี้ได้

เนื่องจากตรอกนี้ค่อนข้างแคบ จึงสามารถขับรถผ่านได้ที่ละคันเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม รถยังคงวิ่งด้วยความเร็วอยู่ที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ้าหากใครไม่มีฝีมือในการขับรถ พวกเขาจะไม่กล้าขับผ่านที่นี่ด้วยความเร็วขนาดนี้อย่างแน่นอน

แต่ทว่า ขณะที่พวกเขาขับรถเข้าไปในตรอกดังกล่าว บุคคลที่ติดตามพวกเขามาตลอดก็ถูกเปิดเผยออกมาอย่างสมบูรณ์

โดยพื้นฐานแล้ว มันเป็นการปิดช่องทางการล่าถอยของคู่ต่อสู้

“ฉันจะดูแลผู้ที่ติดตามเธอมาเอง” จยหวินเชิงรับรองกับเจียนอีหลิง

“ไม่ต้องรีบ” เจียนอีหลิงตอบ

แล้วรถที่เจี่ยนอีหลิงนั่งอยู่ก็จอดนิ่ง

เมื่อเจียนอีหลิงมองออกไปนอกหน้าต่าง รถหลายคันของตระกูลจํายก็ได้จอดอยู่ข้างๆ และทั้งหมดก็คือบอดี้การ์ดของตระกูลจําย ที่ได้จอดรถรอมาสักระยะหนึ่งแล้ว

ซึ่งตอนนี้ รถที่ติดตามเจี่ยนอีหลิงก็เริ่มสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ

แต่ทว่า ตอนนี้พวกเขาไม่มีทางให้หลบหนี

ซึ่งในตรอกแคบๆเช่นนี้ รถของพวกเขาไม่สามารถเลี้ยวกลับได้เลย

หลายคนจึงรีบลงจากรถ แล้วทิ้งรถเพื่อทําการหลบหนี

แต่ทว่า เพียงไม่กี่ก้าว ผู้คนจํานวนมากก็สามารถหยุดพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว

ดังนั้น พวกเขาจึงไม่มีทางหนี และทําได้เพียงยกมือยอมแพ้เท่านั้น

ดูเหมือนว่าระบบจะประเมินพวกเขาสูงเกินไป นี่ถือว่าเป็นดัชนีอันตรายระดับ 3 จริงๆงั้นเหรอ?

ในทางตรงกันข้าม เว่ยรุ่ยยังคงรอข่าวจากลูกน้องของเขาอย่างใจจดใจจ่อ

ครั้งนี้ เขาได้ส่งรถตามเจี่ยนอีหลิงทั้งหมด 3 คัน

ตรงกันข้าม เจี่ยนอีหลิงมีบอดี้การ์ดที่เป็นผู้หญิงอยู่เพียง 2 คนเท่านั้น

ดังนั้น นี่จึงไม่เป็นปัญหาสําหรับผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาที่จะรับมือกับฝ่ายตรงข้าม

หากว่าเว่ยรุ่ยจับตัวเจี่ยนอีหลิงได้ เขาก็คิดจะใช้ยาบางอย่างกับเธอ และหลังจากนั้น ก็จะส่งเจียนอีหลิงไปที่เตียงของฉันชวน

ยังไงซะ เจียนอีหลิงก็เป็นผู้หญิง ในตอนแรกเธออาจจะไม่เชื่อฟัง แต่ถ้าหากฉันชวนได้ใช้เวลาร่วมกับเธอ ก็จะไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ซึ่งสิ่งนี้จะทําให้เธอเชื่องและเชื่อฟังเขาได้อย่างง่ายดาย

ดังนั้น เว่ยจีรุ่ยจึงรออยู่ในรถ แต่ทันใดนั้นก็มีคนมาเคาะกระจกรถ

เว่ยจีรี่ยเลื่อนกระจกรถลงมา จึงทําให้เห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ข้างๆรถของเขา

ในขณะที่เว่ยรุ่ยก่าลังเลื่อนกระจกลง จู่ๆชายคนนั้นก็เอื้อมมือเข้าไปเปิดประตูรถอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็ลากเว่ยฉีรุ่ยออกมาจากรถทันที

หลังจากที่เว่ยจีรุ่ยถูกลากลงจากรถแล้ว เขาก็เห็นจํายหวินเชิงยืนอยู่ข้างหลังชายคนนั้น

เขาไม่สามารถบอกได้ว่าจํายหวินเชิงกําลังยิ้มให้เขาอยู่หรือไม่?

แต่ทว่า ดวงตาที่จ้องมองมาที่เขาเป็นแววตาที่ดูถูกเหยียดหยามเป็นอย่างมาก

“จําย…” เว่ยจีรุ่ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะตัดสินใจเปลี่ยนคําพูด “นายท่าน…นายท่านเชิง คุณต้องการอะไรจากผมงั้นเหรอ?”
“ไม่มีอะไรมาก ฉันแค่อยากไปชกมวยกับแกก็เท่านั้น”

“นายท่านเชิงคงล้อเล่นแน่ๆ ทั้งๆที่คุณสุขภาพไม่ค่อยดี แล้วผมจะกล้าชกกับคุณได้ยังไง”

“อึม แกกล้าทําอะไรหลายๆอย่าง แถมยังกล้าลงมือกับคนที่ฉันห่วงใย และด้วยเหตุผลนี้ ฉันจึงให้โอกาสแกได้ทําบางสิ่ง

หลังจากพูดจบ จ่ายหวินเชิงก็สั่งให้คนของเขาลากเว่ยรุยเข้าไปในรถ

และรถก็ขับไปจนถึงค่ายมวย

เว่ยฉีรุ่ยถูกลากลงจากรถไปที่โรงยิมมวย จากนั้นเขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นอุปกรณ์ชกมวยแล้วถูกผลักขึ้นไปบนสังเวียน

จํายหวินเชิงยืนอยู่ตรงข้ามเว่ยรุ่ย ถึงแม้ว่าจะมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า แต่ดวงตาของเขาช่างเย็นชาเหลือเกิน

“นายท่านเชิง ผมเหวี่ยงหมัดใส่คุณไม่ได้ คุณอย่าทําเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องยากสําหรับผมเลย?”

“หยุดเสแสรั้ง พูดตรงๆด้วยฝีมือการแสดงในตอนนี้ แกสมควรได้รับรางวัลออสการ์เป็นรูปปั้นตุ๊กตาทองค่าเสียจริง”

“ผมไม่รู้ว่าคุณกําลังพูดถึงอะไร และยิ่งไปกว่านั้น ผมไม่มีเวลาที่จะชกมวยอยู่ที่นี่ บริษัทของผมกําลังเผชิญกับหลายสิ่งหลายอย่าง และคุณก็น่าจะรู้เรื่องนี้ดีที่สุด”

“อ็ม แกกล้าแตะต้องคนที่อยู่ในใจของฉัน เพราะฉะนั้น แกควรคาดหวังถึงผลลัพธ์นี้เช่นเดียวกัน”

จ่ายหวินเชิงชกเก่งและคล่องแคล่วมาก เขาพุ่งไปตรงหน้าแล้วชกหน้าเว่ยรุ่ยอย่างเต็มแรง

เว่ยจีรี่ยถูกชกและล้มลงกับพื้นอย่างหมดสภาพ

ความเจ็บปวดทําให้เขาเอามือทั้งสองลูบหัวตามสัญชาตญาณ

หมัดของจํายหวินเชิงแรงขนาดนี้ได้ยังไง?

เขาป่วยหนักไม่ใช่เหรอ?

บทที่ 772 นายท่านเพิ่งกลั่นแกลังเว่ยจีรุ่ย 3

ซึ่งก่อนหน้านี้ เว่ยรุ่ยได้ทําหลายสิ่งหลายอย่างอยู่เบื้องหลังในโลกธุรกิจ เขาต้องการยืนหยัดต่อต้านตระกูลจํายมาตลอด แต่ทว่าจํายหวินเชิงเพียงแค่วางแผนสิ่งต่างๆเท่านั้น ซึ่งจํายหวินเชิงไม่เคยลงมือจัดการกับเว่ยจีรุ่ยแม้แต่ครั้งเดียว

จํายหวินเซึ่งเป็นคนโหดเหี้ยม แต่เขาก็มีหลักการเหมือนกัน จํายหวินเพิ่งจะเคารพซึ่งกันและกัน และจะลงมือจัดการก็ต่อเมื่อมีใครสักคนคิดที่จะต่อต้านเขา

ในเวลานี้ เจียนอีหลิงถูกพาตัวมาที่โรงยิมมวย

“สวัสดีพี่สะใภ้ เธอก็มาที่นี่ด้วยงั้นเหรอ?” หานหมิงอวทักทายเจียนอีหลิงด้วยรอยยิ้ม

เมื่อได้ยินเสียงของหานหมิงอวี่ จยหวินเชิงก็หยุดทันที

จากนั้นเขาก็ถอดนวมชกมวยออก แล้วกระโดดลงจากสังเวียน

เขาเดินไปที่เจี่ยนอีหลิงแล้วถามว่า “เธอต้องการกอดไหม?”

บ่อยครั้ง ผู้คนต้องการกอดเมื่อรู้สึกกังวลและหวาดกลัว

“เหงื่อออก” เจียนอีหลิงตอบด้วยน้ําเสียงแผ่วเบา

“อาา…เธอรังเกียจฉันงั้นเหรอ?”

“ไม่ได้รังเกียจ”

“อืม…ถ้าอาบน้ําเสร็จแล้วเธอจะกอดฉันไหม?”

เมื่อได้ยินดังนั้น เจียนอีหลิงก็ก้มหน้าลง เธอไม่กล้าตอบคําถามของจ่ายหวินเชิง

มีใครบางคนอยู่ข้างๆเธอ และมันน่าอายเกินไปที่จะพูดอะไรออกมาในตอนนี้

หานหมิงอวแสร้งทําเป็นไม่ได้อยู่ที่นี่ ไม่เห็นและไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น

เมื่อจํายหวินเพิ่งเห็นแก้มของเจียนอีหลิงแดง เขาก็เลยเอื้อมมือไปลูบแก้มของเธอทันที

“อะแฮ่ม” หานหมิงอว์ไอออกมาเบาๆ

เขาก็ไม่อยากรบกวนการแสดงความรักระหว่างนายท่านเชิงและเจียนอีหลิง แต่ทว่ายังมีคนนอนหมดสภาพอยู่บนเวทีมวยอีกหนึ่งชีวิต

พวกเขาทั้งคู่สามารถทําสิ่งนี้ต่อได้ หลังจากจัดการกับบุคคลนั้นแล้ว

เจียนอีหลิงมองไปที่เว่ยฉีรุ่ย ที่ยังคงนอนหอบหายใจอยู่บนเวที

หานหมิงอถามเจี่ยนอีหลิง “พี่สะใภ้ เธออยากลองชกมวยบ้างไหม?”

หลังจากไปเที่ยวด้วยกันสองสามครั้ง หานหมิงอว์ก็พบว่าเจียนอีหลิงสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น เขาจึงต้องการให้เจี้ยนอีหลิงลองชกมวยดูบ้าง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส