บทที่ 771 นายท่านเพิ่งกลั่นแกล้งเว่ย…
“ฉันไม่ได้กังวล”
คนขับรถมีเทคนิคการขับที่เก่งจริงๆ เขาสามารถขับรถเข้าไปในซอยที่แคบขนาดนี้ได้
เนื่องจากตรอกนี้ค่อนข้างแคบ จึงสามารถขับรถผ่านได้ที่ละคันเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม รถยังคงวิ่งด้วยความเร็วอยู่ที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ้าหากใครไม่มีฝีมือในการขับรถ พวกเขาจะไม่กล้าขับผ่านที่นี่ด้วยความเร็วขนาดนี้อย่างแน่นอน
แต่ทว่า ขณะที่พวกเขาขับรถเข้าไปในตรอกดังกล่าว บุคคลที่ติดตามพวกเขามาตลอดก็ถูกเปิดเผยออกมาอย่างสมบูรณ์
โดยพื้นฐานแล้ว มันเป็นการปิดช่องทางการล่าถอยของคู่ต่อสู้
“ฉันจะดูแลผู้ที่ติดตามเธอมาเอง” จยหวินเชิงรับรองกับเจียนอีหลิง
“ไม่ต้องรีบ” เจียนอีหลิงตอบ
แล้วรถที่เจี่ยนอีหลิงนั่งอยู่ก็จอดนิ่ง
เมื่อเจียนอีหลิงมองออกไปนอกหน้าต่าง รถหลายคันของตระกูลจํายก็ได้จอดอยู่ข้างๆ และทั้งหมดก็คือบอดี้การ์ดของตระกูลจําย ที่ได้จอดรถรอมาสักระยะหนึ่งแล้ว
ซึ่งตอนนี้ รถที่ติดตามเจี่ยนอีหลิงก็เริ่มสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ
แต่ทว่า ตอนนี้พวกเขาไม่มีทางให้หลบหนี
ซึ่งในตรอกแคบๆเช่นนี้ รถของพวกเขาไม่สามารถเลี้ยวกลับได้เลย
หลายคนจึงรีบลงจากรถ แล้วทิ้งรถเพื่อทําการหลบหนี
แต่ทว่า เพียงไม่กี่ก้าว ผู้คนจํานวนมากก็สามารถหยุดพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว
ดังนั้น พวกเขาจึงไม่มีทางหนี และทําได้เพียงยกมือยอมแพ้เท่านั้น
ดูเหมือนว่าระบบจะประเมินพวกเขาสูงเกินไป นี่ถือว่าเป็นดัชนีอันตรายระดับ 3 จริงๆงั้นเหรอ?
ในทางตรงกันข้าม เว่ยรุ่ยยังคงรอข่าวจากลูกน้องของเขาอย่างใจจดใจจ่อ
ครั้งนี้ เขาได้ส่งรถตามเจี่ยนอีหลิงทั้งหมด 3 คัน
ตรงกันข้าม เจี่ยนอีหลิงมีบอดี้การ์ดที่เป็นผู้หญิงอยู่เพียง 2 คนเท่านั้น
ดังนั้น นี่จึงไม่เป็นปัญหาสําหรับผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาที่จะรับมือกับฝ่ายตรงข้าม
หากว่าเว่ยรุ่ยจับตัวเจี่ยนอีหลิงได้ เขาก็คิดจะใช้ยาบางอย่างกับเธอ และหลังจากนั้น ก็จะส่งเจียนอีหลิงไปที่เตียงของฉันชวน
ยังไงซะ เจียนอีหลิงก็เป็นผู้หญิง ในตอนแรกเธออาจจะไม่เชื่อฟัง แต่ถ้าหากฉันชวนได้ใช้เวลาร่วมกับเธอ ก็จะไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ซึ่งสิ่งนี้จะทําให้เธอเชื่องและเชื่อฟังเขาได้อย่างง่ายดาย
ดังนั้น เว่ยจีรุ่ยจึงรออยู่ในรถ แต่ทันใดนั้นก็มีคนมาเคาะกระจกรถ
เว่ยจีรี่ยเลื่อนกระจกรถลงมา จึงทําให้เห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ข้างๆรถของเขา
ในขณะที่เว่ยรุ่ยก่าลังเลื่อนกระจกลง จู่ๆชายคนนั้นก็เอื้อมมือเข้าไปเปิดประตูรถอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็ลากเว่ยฉีรุ่ยออกมาจากรถทันที
หลังจากที่เว่ยจีรุ่ยถูกลากลงจากรถแล้ว เขาก็เห็นจํายหวินเชิงยืนอยู่ข้างหลังชายคนนั้น
เขาไม่สามารถบอกได้ว่าจํายหวินเชิงกําลังยิ้มให้เขาอยู่หรือไม่?
แต่ทว่า ดวงตาที่จ้องมองมาที่เขาเป็นแววตาที่ดูถูกเหยียดหยามเป็นอย่างมาก
“จําย…” เว่ยจีรุ่ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะตัดสินใจเปลี่ยนคําพูด “นายท่าน…นายท่านเชิง คุณต้องการอะไรจากผมงั้นเหรอ?”“นายท่านเชิงคงล้อเล่นแน่ๆ ทั้งๆที่คุณสุขภาพไม่ค่อยดี แล้วผมจะกล้าชกกับคุณได้ยังไง”
“อึม แกกล้าทําอะไรหลายๆอย่าง แถมยังกล้าลงมือกับคนที่ฉันห่วงใย และด้วยเหตุผลนี้ ฉันจึงให้โอกาสแกได้ทําบางสิ่ง
หลังจากพูดจบ จ่ายหวินเชิงก็สั่งให้คนของเขาลากเว่ยรุยเข้าไปในรถ
และรถก็ขับไปจนถึงค่ายมวย
เว่ยฉีรุ่ยถูกลากลงจากรถไปที่โรงยิมมวย จากนั้นเขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นอุปกรณ์ชกมวยแล้วถูกผลักขึ้นไปบนสังเวียน
จํายหวินเชิงยืนอยู่ตรงข้ามเว่ยรุ่ย ถึงแม้ว่าจะมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า แต่ดวงตาของเขาช่างเย็นชาเหลือเกิน
“นายท่านเชิง ผมเหวี่ยงหมัดใส่คุณไม่ได้ คุณอย่าทําเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องยากสําหรับผมเลย?”
“หยุดเสแสรั้ง พูดตรงๆด้วยฝีมือการแสดงในตอนนี้ แกสมควรได้รับรางวัลออสการ์เป็นรูปปั้นตุ๊กตาทองค่าเสียจริง”
“ผมไม่รู้ว่าคุณกําลังพูดถึงอะไร และยิ่งไปกว่านั้น ผมไม่มีเวลาที่จะชกมวยอยู่ที่นี่ บริษัทของผมกําลังเผชิญกับหลายสิ่งหลายอย่าง และคุณก็น่าจะรู้เรื่องนี้ดีที่สุด”
“อ็ม แกกล้าแตะต้องคนที่อยู่ในใจของฉัน เพราะฉะนั้น แกควรคาดหวังถึงผลลัพธ์นี้เช่นเดียวกัน”
จ่ายหวินเชิงชกเก่งและคล่องแคล่วมาก เขาพุ่งไปตรงหน้าแล้วชกหน้าเว่ยรุ่ยอย่างเต็มแรง
เว่ยจีรี่ยถูกชกและล้มลงกับพื้นอย่างหมดสภาพ
ความเจ็บปวดทําให้เขาเอามือทั้งสองลูบหัวตามสัญชาตญาณ
หมัดของจํายหวินเชิงแรงขนาดนี้ได้ยังไง?
เขาป่วยหนักไม่ใช่เหรอ?
บทที่ 772 นายท่านเพิ่งกลั่นแกลังเว่ยจีรุ่ย 3
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
เรื่องนี้ยังอัปเดตต่อไหมคะ😭...