เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส นิยาย บท 781

สรุปบท ตอนที่ 781-782: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

ตอนที่ 781-782 – ตอนที่ต้องอ่านของ เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

ตอนนี้ของ เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายดราม่าทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 781-782 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 781 เสร็จสิ้นการซื้อ

หุ้นเว่ยกรุ๊ปร่วงลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 วันติดต่อกัน

ตลาดหลักทรัพย์จึงเปิดเผยข่าวต่อสาธารณชน ว่ามีโอกาสสูงที่เว่ยกรุ๊ปจะถูกเพิกถอนออกจากตลาด

ในตอนนี้ เว่ยรุ่ยถูกเผาอย่างสมบูรณ์

และตระกูลเจียนได้เสนอแผนการเข้าซื้อกิจการของเว่ยกรุ๊ปอีกครั้ง

พวกเขาต้องการซื้อบริษัทภายใต้ชื่อเว่ยกรุ๊ป

มีการโยกย้ายกรรมการหลายคน

เนื่องจาก เว่ยรุ่ยไม่มีทางเลือกอื่น เขาจึงทําได้แค่ยอมรับแผนการเข้าซื้อกิจการโดยตระกูลเจียนเท่านั้น

จากตัวเลือกทั้งหมดที่วางไว้ตรงหน้าของเขา ตัวเลือกนี้จะลดความสูญเสียได้มากที่สุด

แต่เมื่อเขาได้เผชิญหน้ากับเจียนหยุ่นเฉิงอีกครั้ง เว่ยฉีรุ่ยยังคงทําใจให้สงบได้ยาก

ความไม่แยแสของเจี่ยนหยุ่นเฉิงและท่าทางที่เย็นชา ทําให้เกิดความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสีหน้าบนใบหน้าของเว่ยจีรุ่ย

การเจรจาครั้งแรกผ่านไปได้ด้วยดี

แม้ว่าเว่ยจีรี่ยไม่เต็มใจที่จะตกลง แต่ก็เป็นทางเลือกเดียวสําหรับเขาในตอนนี้

จากนั้น การเจรจาครั้งที่สองก็ตามมาอย่างรวดเร็ว

หลังจากการเจรจารอบที่สองจบลง ในที่สุดก็กําหนดราคาการซื้อกิจการได้แล้ว

ในวันที่การซื้อกิจการเสร็จสมบูรณ์ ทุกคนต่างให้ความสนใจไปที่ตระกูลเจียน

ในสายตาของคนอื่น อาจจะมองว่านี่เป็นการซื้อกิจการที่ไม่ดีนัก

ตระกูลเจี้ยนใช้เงินทุนหมุนเวียนทั้งหมดเพื่อซื้อกิจการนี้โดยเฉพาะ

ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทที่พวกเขาได้มามีปัญหาใหญ่ในการบริหาร และไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอนที่มีการเปิดเผยการทุจริตทางการเงิน

แม้แต่บุคคลในตระกูลเจี้ยนก็ยังตั้งคําถามกับการตัดสินใจของเจี่ยนหยุ่นเฉิง

แต่ยังไงก็ตาม ท่าทางของเจี่ยนหยุ่นเฉิงในเรื่องนี้หนักแน่นมาก

เขาเพิกเฉยต่อข้อสงสัยทั้งหมดและทําการซื้อกิจการจนเสร็จสิ้น

“พี่ใหญ่ มันจะไม่เป็นไรจริงๆงั้นเหรอ?” เจียนหยุ่นน่าวถาม

“อ็ม บริษัทมีปัญหาภายในบ้างนิดหน่อย แต่ก็มีรากฐานที่มั่นคง ดังนั้น เราจะไม่เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์แน่นอน” เจียนหยุ่นเฉิงตอบ แล้วเสริมอีกว่า “นี่คือสิ่งที่อีหลิงต้องการ”

อนาคตของบริษัทนี้ไม่ค่อยสดใสนัก

แต่นี่คือค่าขอของเจี่ยนอีหลิง ยิ่งไปกว่านั้นเจี่ยนหยุ่นเจ๋งมั่นใจว่าด้วยการจัดการที่เหมาะสม การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะไม่ทําให้พวกเขาสูญเสียมากเกินไป

“ทําไมอหลิงถึงสนใจบริษัทนี้?” เจี่ยนหยุ่นน่าวถาม เขาไม่เข้าใจจุดประสงค์ในคําขอของน้องสาวของเขา

ดีแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ถามถึงความคิดของน้องสาวตัวเอง

“ฉันก็ไม่รู้” เจี้ยนหยุ่นเฉิงตอบ เพราะเขาก็ไม่ได้ถามรายละเอียดเลย

เป็นความสัมพันธ์ของพี่น้องที่มีระยะห่างต่อกันมาก

เดิมที เขาคิดว่าพวกเขาจะสนิทกันมากขึ้นเมื่อเธอกลับมาจากการเรียนที่ต่างประเทศ

แต่เมื่อเธอกลับมาที่จีน เธอตัดสินใจหมั้นกับจํายหวินเชิง และออกจากตระกูลเจียนด้วยเหตุผลที่ถูกต้องตามกฎหมาย

เลขาของเจียนหยุ่นเฉิงเคาะประตูก่อนจะเดินเข้ามาในห้อง

“ท่านประธาน บริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ชวีหมิงเพิ่งติดต่อเรามา ว่าโปรเจกต์นี้พวกเขาต้องการร่วมงานกับบริษัทเรา”

“บริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ชวหมิงเหรอ? พวกเขาเป็นฝ่ายติดต่อเรามาเองงั้นเหรอ?” เจียนหยุ่นน่าวอุทานด้วยความประหลาดใจ

ในช่วงสองปีที่ผ่านมา บริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ชวี่หมิงมีผลงานที่ดี มีหลายบริษัทที่ต้องการร่วมงานกับพวกเขา

มีข่าวลือว่าก่อนหน้านี้เว่ยจีรุ่ยคิดจะแก้วิกฤตของเว่ยกรัปโดยการเจรจาข้อตกลงกับบริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ชวีหมิง

แต่ก็ดูเหมือนว่าเว่ยจีรี่ยไม่ประสบความสําเร็จในการเจรจา

ตระกูลเจียนเพิ่งทําการเข้าซื้อกิจการของเว่ยกรุ๊ปเสร็จสิ้น เหตุใดบริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ชวี่หมิงจึงติดต่อพวกเขามาในเวลานี้?
นี่มันเรื่องอะไรกัน?

เจียนหยุ่นเฉิงไม่สามารถเข้าใจสิ่งนี้ได้

เมื่อเว่ยฉีรี่ยได้ยินข่าวนี้ เขาแทบกระอักเลือดออกมา

“หมายความว่ายังไง? ฉันเพิ่งขายบริษัทไป! แล้วการร่วมมือกับบริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ชวีหมิงเกิดขึ้นได้ยังไงในตอนนี้?”

จากนั้น เว่ยจีรุ่ยก็รีบตรวจสอบราคาหุ้นของบริษัทในวันนี้ เขาเห็นว่าราคาหุ้นที่ตกไปนับไม่ถ้วนในตอนที่อยู่ในมือของเขาได้เพิ่มขึ้นในวันนี้ เนื่องจากข่าวการร่วมมือกับบริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ชว
หมิง
“นี่… นี่…นี่..” เว่ยฉีรุ่ย พูดติดอ่างด้วยความโกรธ หน้าอกเขาสั่นอย่างรุนแรง เขาโกรธจนพูดไม่ออก

ก้าวเดียวเท่านั้น ก้าวเดียวเท่านั้น!

ถ้าเขาและบริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ชวีหมิงบรรลุข้อตกลงก่อนหน้านี้ เขาก็คงไม่ต้องขายบริษัท

เขาพลาดไปแค่ก้าวเดียว

แต่ยังไงก็ตาม พลาดหนึ่งมิลลิเมตรก็เท่ากับพลาดพันไมล์

เว่ยจีรุ่ย ไม่สามารถระงับความโกรธของตัวเองได้ เขาจึงวิ่งออกจากห้องด้วยความโกรธ และตั้งใจไปหาจางชวีหมิงเพื่อขอคําชี้แจง

เมื่อจางชวีหมิงได้ยินว่าเว่ยจีรุ่ยมาถึง เขาจึงบอกให้เลขาพาเว่ยจีรุ่ยเข้ามาพบ

ทันทีที่เว่ยรุ่ยเข้ามาในห้อง เขาก็ถามจางชวีหมิงว่า “ผู้อาวุโสจาง คุณทําอย่างนี้หมายความว่ายังไง? ก่อนที่ผมจะขายบริษัทไป ผมมาขอเจรจาร่วมมืออย่างชัดเจน แต่คุณกลับปฏิเสธแล้ว ทําไมตอนนี้คุณถึงได้ร่วมมือกับตระกูลเจียนล่ะ?”

ตราบใดที่จางชวีหมิงตกลง บริษัทก็จะไม่ถูกตระกูลเจี้ยนซื้อกิจการไปอย่างแน่นอน

“ฉันบอกคุณแล้วว่าเรื่องนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฉัน มันขึ้นอยู่กับผู้สืบทอดของฉัน การตัดสินใจที่สําคัญทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบริษัทขึ้นอยู่กับผู้สืบทอดของฉัน” จางชวีหมิงตอบด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

“ผู้อาวุโสจาง คุณจะยังใช้ข้ออ้างนั้นหลอกผมอีกงั้นเหรอ?”

ผู้อาวุโสจางเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์! เขายังคงใช้คําว่า ผู้สืบทอดของเขา เป็นข้ออ้างสําหรับทุกสิ่ง

แต่จนถึงตอนนี้ เว่ยรุ่ยก็ยังไม่เคยเห็นแม้แต่เงาของผู้สืบทอด’ ที่จางชวีหมิงเอ่ยถึงเลย

“ฉันไม่ได้หลอกคุณ ทุกคําที่ฉันพูดเป็นความจริง” จางชวีหมิงตอบอย่างตรงไปตรงมา

ขณะที่เขากําลังพูดอยู่ เลขาก็เข้ามาแจ้งว่าเจียนอีหลิงกําลังจะมาถึง

จางชวีหมิงรีบบอกให้เลขาเชิญเจียนอีหลิงเข้ามาทันที

ทันทีที่เว่ยรุ่ยได้ยินชื่อของเจียนอหลิง เขาก็นึกถึงวันที่เขาถูกจํายหวินเชิงและเจี่ยนอีหลิงทรมานที่โรงยิมมวย

แค่คิดถึงวันนั้นเขาก็รู้สึกเจ็บปวดไปตามร่างกาย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส