ตอนที่ 809-810 – ตอนที่ต้องอ่านของ เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
ตอนนี้ของ เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายดราม่าทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 809-810 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 809 ความภาค ภูมิใจของท่านผู้เฒ่าจําย
แน่นอนท่านผู้เฒ่าจํายไม่รู้มาก่อนว่าเจียนอีหลิงเป็นหุ้นส่วนของบริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ซื่อหมิง
แต่เรื่องนี้ไม่ได้หยุดเขาจากการคุยโม้โอ้อวดกับคนอื่น
ไม่ว่าอย่างไร เขายังคงมีความสุขเมื่อมีคนเอ่ยชมหลานสะใภ้
อันที่จริง เขาน่าจะซื้อพื้นที่โฆษณาสองสามแห่งเพื่อช่วยให้เจี่ยนอีหลิงเป็นที่รู้จักมากขึ้น เขาต้องการให้ทุกคนรู้ว่าอนาคตผู้นําตระกูลหญิงของตระกูลจ่ายนั้นแข็งแกร่งและมีความสามารถเพียงใด พวกคนตาบอดที่คิดว่าเป็นอย่างอื่นจะได้หุบปากสักที
ท่านผู้เฒ่าจํายจึงไปที่บริษัทเพื่อตามหาจํายหวินเชิง
“อาเชิง แกต้องดูแลคู่หมั้นของตัวเองให้ดีที่สุด เธอจะต้องไม่ถูกคนอื่นแย่งไป แล้วต้องทํายังไงถึงจะคว้าหลานสะใภ้ไว้ได้? ฉันคิดว่าวิธีที่น่าเชื่อถือที่สุด ทําให้เธอท้องเร็วๆ ถ้าเธอท้องแล้ว เธอก็จะได้ไม่หนีไปไหน!”
เมื่อได้ยินดังนั้น มุมปากของจํายหวินเซิ่งกระตุกสองครั้ง
กังวลว่าเจียนอหลิงจะถูกแย่งไปจริงๆ หรือเขาแค่อยากได้เหลนกันแน่? “ผมไม่มีแผนที่จะมีลูกกับเสี่ยวหลิง” จํายหวินเชิงตอบ “ไอ้เด็กโง่ นี่แกกําลังพูดเรื่องอะไร?”
“ปู่ก็รู้ว่าผมกําลังพูดถึงอะไร
มีความเป็นไปได้สูงที่โรคเขาจะถ่ายทอดผ่านทางพันธุกรรมไปสู่ลูก
รอยยิ้มบนใบหน้าของท่านผู้เฒ่าจํายหายไปทันที และถูกแทนที่ด้วยสีหน้ากังวล
“ถ้าแกไม่มีลูกกับเสี่ยวหลิง แกอยากให้ตระกูลจํายของฉันไร้ผู้สืบทอดต่องั้นเหรอ?”
“แล้วอารองล่ะ? เขายังหนุ่มยังแข็งแรง จะมีลูกเพิ่มอีกสักสองสามคนก็คงไม่มีปัญหา”
“อย่ามาพูดถึงอารองของแกกับฉัน!” ทันทีที่เขาได้ยินจ่ายหวินเชิงพูดถึงอารอง ท่านผู้เฒ่าจ่ายก็รู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมา
ไอ้สารเลวนั่นอยู่ที่ประเทศ Y ตลอดทั้งปีและไม่เคยกลับมาที่จีนเลย เขาจึงไม่มีโอกาสจับอีกฝ่ายแต่งงานได้เลย
ก่อนหน้านี้เขาบอกท่านผู้เฒ่าจํายไว้ว่าเขาติดหนี้พี่ชายใหญ่ตลอดชีวิต เขาบอกว่าจะไม่มีวันมีลูก ทุกอย่างในตระกูลจํายและ เทียนชิงกรุ๊ปทั้งหมดจะเป็นของอาเชิงในอนาคต
“ไม่ว่ายังไงเสี่ยวหลิงกับผมก็จะไม่มีลูก”
“ไอ้เด็กบ้า แกคิดแบบนั้นแล้วเสี่ยวหลิงรู้เรื่องนี้ไหม?”
จํายหวินเชิงไม่ตอบ
เขาไม่ได้พูดถึงความคิดเหล่านี้กับเจียนอหลิง
เขาไม่รู้ว่าเธอจะเห็นด้วยไหม
ท่านผู้เฒ่าจํายถอนหายใจ “อาา ลืมมันไปเถอะ ยังไงพวกเธอสองคนยังเด็กอยู่ แต่คนแก่อย่างฉันรออีกสักสองสามปีไม่ได้หรอกนะ”
ท่านผู้เฒ่าจํายบ่นในใจ ไอ้เด็กตัวเหม็น รออีกสักสองปี เขาจะเกลี้ยกล่อมหลานสะใภ้เอง คิดว่าเขาจะจัดการกับไอ้เด็กตัวเหม็นคนนี้ไม่ได้รึไง?
ถ้าหลานสะใภ้ทําตัวเป็นเด็กน้อย ไอ้เด็กตัวเหม็นคนนี้จะไม่ยอมจํานนได้ยังไง?
ท่านผู้เฒ่าจํายมั่นใจว่าหลานสะใภ้สามารถจัดการเรื่องนี้ได้แน่นอน
เว่ยจีรี่ยได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง
หากการเข้าซื้อกิจการของบริษัทเทคโนโลยีถงยู่ทําให้เขาได้รับความเสียหายอย่างหนัก การถูกถอนตัวจากสมาคมจงอี้นั้น ก็คงเป็นการผลักเขาไปสู่ขุมนรก
“จํายหวินเชิง แกกล้าดียังไงมาทําแบบนี้! ตระกูลเว่ยและตระกูลจํายเกี่ยวข้องกันมาตั้งหลายร้อยปี!”
เว่ยจีรี่ยปฏิเสธที่จะยอมรับ เขาต้องการปกป้องตัวเอง
หลังจากที่เว่ยฉีรุ่ยออกจากคฤหาสน์ตระกูลจําย เขาก็ถูกกลุ่มคนตามรอย พวกเขาตามเว่ยรุ่ยมาตลอดทาง เมื่อไม่มีคนอยู่รอบข้าง พวกเขาลากเว่ยรุ่ยเข้าไปในตรอก
“ปล่อย ปล่อยนะ! พวกแกเป็นใคร รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? ฉัน…”
เว่ยฉีรี่ยมองเข้าไปใกล้ๆ และพบว่ามีคนไม่กี่คนที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งเขาดูคุ้นเคยอยู่บ้าง
หนึ่งในนั้นคือผู้ชายที่โยนเว่ยรุ่ยและบอดี้การ์ดลงสระว่ายน้ําในงานวันเกิดของเจี่ยนหยุ่นเฉิง
ดูเหมือนว่าอีกหลายคน ก็เคยปรากฏตัวในวันเกิดของเจี่ยนหยุ่นเฉิงเช่นเดียวกัน “พวกแกต้องการอะไร?” เว่ยรุ่ยถามอย่างกระวนกระวาย แค่เจียนอี้เหิงคนเดียวก็เพียงพอที่จะทําให้เขากระวนกระวาย
เจียนอี้เหิง เจียนอี้เฉิน เจียนหยู่หมิน และเจี่ยนหยู่เจีย จ้องเขม็งไปที่เว่ยรุ่ยอย่างดุเดือด
“แกไม่ได้จะพยายามใส่ร้ายน้องสาวของเราหรอกเหรอ? ความคิดแบบปีศาจชั่วๆ นั่นหายไปไหนแล้วล่ะ? “เจี้ยนอี้เฉินยิ้มอย่างชั่วร้าย
เขาเดินตรงข้างหน้าและคว้าปกคอเสื้อของเว่ยรุ่ย “ดูเหมือนว่าแกจะเก่งเรื่องประกาศข่าวลือ น้องสาวของพวกเรา ใครเป็นคนให้ความกล้ากับแกล่ะ?”
“พวกแก… พวกแกจะทําอะไร? ทําร้ายคนอื่นผิดกฎหมาย!” เว่ยจีรุ่ยตะกุกตะกัก
“ผิดกฎหมาย?” เจียนอี้เฉินทวนซ้ํา แทนที่จะกลัวเขากลับยิ้มอย่างเยือกเย็น “อยากแจ้งตํารวจไหมล่ะ? เอาสิ ฉันอยากรู้เหมือนกันว่าหลังจากโทรแจ้งตํารวจ จะเป็นใครที่ก่ออาชญากรรมที่ร้ายแรงกว่ากัน จะเป็นความผิดของแกหรือของพวกเรา! แกยักยอกเงินของบริษัทไปเมื่อไม่นานมานี้ไม่ใช่รึไง? บอกฉันมาสิ ระหว่างความผิดของแกกับพวกเราที่จะทุบตีคน ความผิดไหนที่ร้ายแรงกว่ากัน?”
หากเว่ยกรุ๊ปล้มละลาย เว่ยรุ่ยจะสูญเสียบริษัท แต่ทรัพย์สินส่วนตัวเขาจะไม่สูญหาย
ดังนั้น เขาจึงโอนเงินส่วนหนึ่งของบริษัทเข้าบัญชีส่วนตัว
เขาคิดว่าตัวเองจัดการเรื่องนี้ได้ราบรื่นดี แต่ไม่คิดว่าพี่น้องเจียนจะจับตาดูเขามานานแล้ว
“พวกแก… พวกแก…” เว่ยรุ่ยเบิกตากว้าง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
“แกตัดสินใจได้ว่าจะให้เราทุบตี หรือจะยอมติดคุก” เฉียนเฉินยิ้ม มองแวบแรกดูเหมือนกับรอยยิ้มที่ไม่มีพิษภัย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
เรื่องนี้ยังอัปเดตต่อไหมคะ😭...